23 มิ.ย. 2023 เวลา 12:00 • หนังสือ

ทุกคนล้วนเป็นคนธรรมดา ที่ผิดได้พลาดเป็น

หนึ่งในสิ่งที่หลายคนถูกปลูกฝังมาก็คือ “พ่อแม่เป็นผู้มีพระคุณสูงสุด” ในชีวิต เรามีหน้าที่ตอบแทนบุญคุณของพวกเขา ไม่ว่าพวกเขาจะเป็นพ่อแม่แบบไหนก็ตาม
หากเราฟังคำสอนนี้ในวันที่เราเติบโตพอจะมีความคิดเป็นของตัวเองแล้ว เราจะรู้ได้ทันทีว่าคำสอนนี้ไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลย เพราะนอกจากมันจะทำให้เรามองพ่อแม่เป็นผู้วิเศษแล้ว มันอาจทำให้เราเก็บกดจากพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของพ่อแม่ แต่ไม่กล้าสื่อสารเพราะกลัวจะเป็นการเนรคุณ
ในหนังสือ “ใจดีกับตัวเองบ้างก็ได้” เขียนโดยคุณหมอจริงซึ่งเป็นจิตแพทย์ พูดถึงเรื่องแผลในใจจากวัยเด็กได้ดีครับ เธอเล่าว่าในชีวิตการเป็นจิตแพทย์ของเธอ ก็ได้เจอคนไข้พูดถึงความรู้สึกแย่ต่อการเลี้ยงดูของพ่อแม่ในวัยเด็กเยอะมาก
บางทีพ่อแม่พูดจาไม่ดีต่อลูก เช่น ดูถูก ด้อยค่า ด่าทอ ใช้คำพูดหยาบคายกรีดแทงจิตใจ ซึ่งตัวพ่อแม่เองไม่นานก็ลืมแล้วว่าเคยพูดอะไร แต่ลูกไม่ลืมนะครับ กลับเอาคำพูดเหล่านั้นฝังลึกเป็นแผลเป็นมาตลอด
คุณหมอก็อธิบายว่า เรื่องนี้อาจจะต้องทำความเข้าใจก่อนว่าพ่อแม่ของเรากับตัวเราโตมาในยุคสมัยที่แตกต่างกัน ก็เลยมีความคิดและทัศนคติที่แตกต่างกัน
สมัยก่อนพ่อแม่บางคนอาจถูกเลี้ยงดูมาแบบใช้คำดูถูกเป็นแรงผลักดัน หรืออาจไม่เคยได้รับความรักอย่างที่ควร พอถึงวันที่พวกเขากลายมาเป็นพ่อแม่เองบ้าง ก็เลยไม่รู้วิธีแสดงความรักแบบอื่น เลยหันไปใช้วิธีเดียวกับที่ตัวเองเคยโดนมา ซึ่งหลายครั้งก็ไม่ใช่วิธีที่เหมาะสมในปัจจุบันแล้ว
พ่อแม่หลายคนอาจยังไม่เข้าใจว่าเด็กแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนรับมือกับความเสียใจได้ดี บางคนรับไม่ได้ บางคนอ่อนไหวมาก บางคนเป็นแผลในใจไปเลย
หรือบางทีเวลาเห็นลูกไม่มีความสุข ก็กระโดดเข้าไปแก้ปัญหาให้ไปเลย ทั้งสอน ให้คำแนะนำ หรือแม้แต่ออกคำสั่ง ทั้งที่จริง ๆ เด็กอาจอยากแก้มันด้วยตัวเอง หรือมีเรื่องส่วนตัวบางอย่างที่ไม่อยากบอก แต่สุดท้ายก็จนมุมต้องบอก กลายเป็นความอึดอัดและคิดว่าพ่อแม่ช่างไม่เข้าใจอะไรเอาเสียเลย
แต่พอเราโตขึ้น สิ่งที่เราเริ่มเข้าใจมากขึ้นก็คือ “พ่อแม่เป็นแค่มนุษย์คนนึง” เท่านั้น มีข้อดี ข้อเสีย ทำถูกและผิดพลาดได้เป็นปกติ
บางทีตอนเด็กเราอาจคาดหวังในตัวพ่อแม่มากเกินไปว่าพวกเขาต้องสมบูรณ์แบบ แต่วันนี้เราโตขึ้นจนรู้แล้วว่าไม่มีใครสมบูรณ์แบบจริง ๆ หรอก ดังนั้นสิ่งที่เราควรทำก็คือการปล่อยความคาดหวังที่มีต่อพ่อแม่ไปบ้าง นี่คือกุญแจสำคัญที่จะเข้าใจและให้อภัยพ่อแม่ได้
อย่าลืมว่าเรามีหน้าที่ดูแลจิตใจของเรา พ่อแม่เองก็มีหน้าที่ดูแลจิตใจของพวกเขาเองเช่นกัน พวกเราทุกคนพึ่งพาอาศัยกัน แต่ไม่จำเป็นต้องคาดหวังซึ่งกันและกัน
ข้อคิดที่ผมต่อยอดออกมาได้จากบทดังกล่าวก็คือ “ทุกคนล้วนเป็นคนธรรมดา ที่ผิดได้พลาดเป็น” ครับ ผมคิดว่ามุมมองที่ผู้เขียนบอก สามารถใช้กับเรื่องอื่น ๆ นอกจากพ่อแม่ได้ด้วย โดยเฉพาะกับตัวเองนี่แหล่ะครับ
หลายคนให้อภัยตัวเองยากกว่าให้อภัยคนอื่นเยอะเลย เพราะรู้สึกว่า “ฉันไม่น่าพลาดเลยเรื่องแค่นี้” แล้วก็คิดเรื่องนี้ซ้ำ ๆ โทษตัวเองซ้ำ ๆ
แต่ในความเป็นจริงไม่ได้มีใครสนใจความผิดเรามากขนาดนั้นครับ เราผิดพลาดอะไรไปก็อาจจะกระทบคนอื่นบ้าง ก็ขอโทษขอโพยแล้วแก้ไขกันไป ถ้าเราทำตามขั้นตอนแบบนี้ ผมเชื่อว่าคนส่วนใหญ่ก็น่าจะลืมได้ถ้าผลกระทบมันไม่ได้ร้ายแรงอะไร
เพราะงั้น จงลดความคาดหวังที่มีต่อตัวเองลงบ้างครับ เราทำผิดได้ แต่ไม่ใช่ว่าเราจะทำผิดไปซะทุกเรื่อง ลองมองหาเรื่องที่เราทำได้ดี แล้วย้ำเรื่องดี ๆ เหล่านั้นกับตัวเองบ้าง นี่คือกุญแจสำคัญที่จะทำให้เราให้อภัยตัวเองได้ครับ
ชื่อหนังสือ: ใจดีกับตัวเองบ้างก็ได้
ชื่อสำนักพิมพ์: DOT
#igotthisfromthatbook #ฉันได้สิ่งนี้จากหนังสือเล่มนั้น
โฆษณา