คาดเดาฉากจบของ The Witch from Mercury ss2 หลังจากฉายมาถึงตอนที่ 21
ต่อจากนี้จะเป็นเพียงความเห็นและจินตนาการส่วนบุคคลเท่านั้น
ต่อจากนี้อีก 3 ตอนก็จะเป็นการปิดฉากเนื้อเรื่องหลักของซีรีส์ และที่ผ่านมา Gundam ใช้วิธีการเล่าเรื่องโดยดึงประโยชน์จากการฉายแบบอาทิตย์เว้นอาทิตย์มากที่สุด ทุกอย่างมีการวางแผนมาอย่างดีให้คนในสังคมถกเถียงและวิจารยาถึง message และการวิเคราะห์ระหว่างบรรทัดในแต่ละตอน รวมทั้งการที่เป็น original anime ที่สามารถใช้ format media ของศาสตร์ animation ในการเล่าเรื่องได้อย่างดี โดยไม่ติดจังหวะการ phasing เหมือนของซีรีส์ที่มาจาก manga หลายๆ เรื่อง ซึ่งเปรียบเหมือนดาบ 2 คมมากๆ
เพราะ Gundam จะเป็น anime series ที่ Hit or Miss มากๆ การที่ต้นทุนสร้างแต่ละตอนไม่รับประกันว่าจะสามารถดึงคนดูได้อยู่ไหม ต่างจากอนิเมะจาก manga หรือ light novel ที่การันตีได้จากความนิยมของจำนวนเล่ม การที่ภาคนี้เริ่มที่จะลดจำนวนตอนต่อ season อาจเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลเทียบกับความเสี่ยงที่ต้องแบกรับ
หลังจากที่ได้ดูทั้งเรื่องอีกรอบระหว่างที่อยู่บนเครื่องบินเพื่อเก็บรายละเอียดที่เชื่อมระหว่างตอน จะเห็นว่า WFTM ใช้วิธีเล่าเรื่องโดยใช้การแสดงออกของตัวละครเป็นหลัก ไม่มีเสียงบรรยายแบบ voiceover และมีการ phasing ที่ดีมากๆ ในแต่ละช่วงอารมณ์ ต่างจาก Hathaway ที่อาจต้องมี voiceover ของตัวละครเพราะดัดแปลงมาจากนิยาย
โดยหลายครั้งจะแสดงให้เห็นถึงการกระทำก่อน ก่อนที่จะเปิดเผยเจตนาของการกระทำนั้น เช่น วิธีการอบรมสั่งสอนของผู้ใหญ่ที่เกิดจากเป็นห่วงลูกตัวเอง ความแตกต่างทาง generation และ airtime ที่ให้ในแต่ละตอน
เชื่อว่าอีก 3 ตอนสุดท้ายจะใช้วิธีเดียวกับ Lady Prospera คุณแม่ดีเด่นประจำภาคนี้ ความรู้สึกของตัวละครนี้ไม่ใช่เพียงความแค้นที่แสดงออก แต่เป็นความรู้สึกลึกๆ ที่เกิดแบบ universal ของ mother character ที่จะเป็นห่วงและรักลูกแบบไม่มีเงื่อนไข ทำให้มีทฤษฎีหนึ่งที่น่าสนใจ
Prospera ต้องการเพียงแค่โลกที่ไม่มีสvคราม เพราะไม่ต้องการให้ลูกตัวเอง และ generation ต่อไปยังคงเผชิญกับปัญหาความขัดแย้งที่ไม่รู้ว่าใครเริ่มก่อน (คล้ายๆ เนื้อเรื่องภาค Age ที่เล่าทั้ง 3 generation) ลึกๆ แล้ว Prospera อาจอยากให้ซูเล็ตต้ามาหยุดการกระทำของตัวเธอด้วยเจตจำนงของซูเล็ตต้าเอง จึงมีการทิ้ง MS ที่อาจเป็นไพ่ตายในการหยุด Quiet Zero ไว้ การที่ไม่ใส่ Limiter คล้ายๆ Tallgeese คงมีสาเหตุบางอย่างที่เกี่ยวกับ technological lore ภายในเรื่อง
ซูเล็ตต้าหลังจากออกมาจาก Aerial ครั้งสุดท้ายแล้วร้องไห้ และสิ่งแรกที่ได้กินหลังจากนั้นคือนม เหมือนเด็กที่พึ่งคลอดไม่มีผิด การกินเป็นสิ่งที่บอกถึงการอยากมีชีวิตอยู่ การที่ไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว และการเติบโต ซูเล็ตต้าที่มีการ trigger ด้านความคิดให้สมวัยแบบนี้จะมีผลดีต่อการเติบโตของตัวละคร ทำให้สังเกตได้อย่างหนึ่ง
สมมุติฐานคือ ถ้าตัวแปรที่สามารถผ่าน Layer 33 ได้ไม่ใช่ความพิเศษของเอริ แต่หมายถึง “ความไร้เดียงสาของเด็ก” ล่ะ (ซึ่งตรง theme ของ Gundam มาก) กลายเป็นว่าการที่ Prospera นั้นเลี้ยงดูซูเล็ตต้าในระบบปิด โดยที่ทำให้เกิดพัฒนาการทางสังคมน้อยจน brain development นั้นยังคงรูปแบบของคนที่ไม่ถึง 10 ปี ซึ่งเมื่ออายุ 17 ที่พัฒนาการทางสมองเริ่มไม่เปลี่ยนแปลง แต่ยังอยู่ในรูปแบบเดิมนั้นส่งผลถึงอัตราการรอดชีวิตและ probability ในการผ่าน Layer 33 ของ MS ตัวล่าสุดได้สูงขึ้น
ตามจริงแล้วในจักรวาลของ Gundam นั้น ไม่ว่าจะเริ่มด้วยการวางแผนหรือการเตรียมพร้อมเท่าไหร่ สิ่งที่สามารถพลิกเกมได้ในท้ายที่สุดก็คือความสามารถของ MS ตัวหลักนั่นเอง
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
