Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
What?
•
ติดตาม
18 มิ.ย. 2023 เวลา 07:02 • ประวัติศาสตร์
ความพ่ายแพ้ของเยอรมัน ปฐมบทสู่สงครามโลกครั้งที่ 2 ตอน 2/2
ความเดิมตอนที่แล้ว พูดถึงความพยายามของอังกฤษในการปิดล้อมทางน้ำเยอรมนี เพื่อไม่ให้ลำเลียงอาหารและเชื้อเพลิงเข้าไปได้
ด้านรัสเซียในเวลานั้นก็เปราะบางมาก เจอกับความไม่แน่นอน ทั้งความผันผวนทางการเมืองสูง เจอปัญหาปากท้องประชาชน ทำให้เยอรมนีเอาชนะแนวรบกับรัสเซียได้
ปี 1917 พระเจ้าซาร์ที่ 2 ตกจากบัลลังก์ รัสเซียมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นสหภาพโซเวียตผ่านการปฏิวัติ Bolshevil
ในวันที่ 17 กรกฎาคม 1917 พวกเขาจึงยุติการส่งกำลังบำรุงไปที่แนวรบฝั่งตะวันออกของเยอรมนี และยังละทิ้งสมรภูมิสงครามโลกครั้งที่ 1 ไปเลย
ทำให้ Triple Entente เลยเหลือแค่ 2 ชาติพันธมิตร คืออังกฤษและฝรั่งเศส
ส่วนเยอรมนีก็ยังเดินหน้ารบในสมรภูมิทางตะวันตกอย่างแข็งแกร่ง
แม้อีกสองพันธมิตรคือออสเตรีย-ฮังการีและออตโตมานจะอ่อนกำลังและพร้อมจะพ่ายแพ้ได้ทุกเมื่อ
ขณะที่ฝั่งเยอรมนี มองว่าจะเผด็จศึกได้สมบูรณ์แบบ ต้องมีการเติมกองหนุนไปเสริมแนวหน้า อีก กว่า 1,250,000 นาย
แต่พอดูทะเบียนกำลังทหาร กลับพบว่ามีกำลังของชายหนุ่มที่มีความพร้อมในการเติมเข้าในสนามรบ เต็มที่มีแค่ 250,000 นาย
ระหว่างนั้น สงครามมาเจอหนึ่งในจุดพลิกผันสำคัญ คือ สหรัฐฯ หลังจากวางตัวเป็นกลางมาตลอด
แม้จะเสียกำลังพลไปเยอะ ตอนเรือลูซิทาเนีย เดินทางจากนิวยอร์กไปไอร์แลนด์ ได้อัปปางลงจากการยิงตอร์ปิโดของเรือดำน้ำเยอรมนี ในปี 1915
แต่พอพบว่า เยอรมนีส่งโทรเลขถึงเม็กซิโก เพื่อบุกตอนใต้ของสหรัฐฯ ทั้งที่สหรัฐไม่ได้มีข้อขัดแย้งใดกับเยอรมนี
ทำให้ Woodrow Wilson ประธานาธิบดีสหรัฐฯขณะนั้น เปลี่ยนใจมาเข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่ 1 ในปี 1917
ทำให้ฝ่าย Triple Entente สามารถเติมทหารใหม่เข้าไปในแนวหน้าได้วันละ 10,000 คน
โดยสหรัฐฯ ส่งทหารเข้าไปร่วมรบรวมประมาณ 4 ล้านนาย
ด้านเยอรมนี เจอวิกฤติอาหาร และกำลังสำรองมีไม่พอ เติมเข้าไปในแนวหน้า
เลยต้องแก้ปัญหาด้วยการพิมพ์ธนบัตรออกมาเพิ่มสภาพคล่องอย่างเดียว แต่ก็ตามมาด้วยเงินเฟ้อ
ประชากรประสบปัญหารับสารอาหารน้อยกว่าที่เป็น โดยเฉพาะเนื้อสัตว์และไข่
สุดท้ายสองนายพลคนสำคัญของเยอรมนี รู้ดีว่าหากสงครามยืดเยื้อต่อไป เยอรมนีสาหัสแน่นอน ทางที่ดีที่สุด คือ เจรจายอมแพ้เพื่อให้มีการหยุดยิง
พ.ย.1918 ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยื่นคำขาด 14 ข้อ ให้ Central Power ซึ่งตอนนั้นเหลือแค่เยอรมนี
หนึ่งในคำขาดนั้นคือ ให้ Kaiser Wilhelm II สละราชสมบัติ
และให้เจ้าชาย Maximilian of Baden เป็นนายกรัฐมนตรีเฉพาะกิจ
โดยผู้ที่ลงนามยอมแพ้ คือ รัฐบาลพลเรือนสายสังคมนิยมของเยอรมนี
ทั้งที่ในสนามรบ ก็ยังไม่ได้มีฝ่ายไหนกำชัย
ทำให้บรรดาทหารแนวหน้ายังเชื่อลึกๆ ว่า สู้ต่อไป อาจจะชนะ
แต่พอรัฐบาลเบอร์ลินลงนามยอมแพ้ พวกทหารผ่านศึกสงครามโลกครั้งที่ 1 เลยรู้สึกเหมือนเจอหักหลัง
ยิ่งกว่านั้น พอมาเจอการเจรจาสนธิสัญญาแวร์ซายส์ ในปี 1919 ลงเอยด้วยข้อตกลงที่แสนจะไม่เป็นธรรมต่อเยอรมนี
ทำให้ Matthias Erzberger ซึ่งเป็นผู้นำการเจรจาสนธิสัญญาแวร์ซายส์ ถูกลอบสังหารในปี 1921
คนเยอรมนีก็ไม่พอใจระบอบการปกครองใหม่ของเยอรมนีที่เป็นสาธารณรัฐประชาธิปไตย เลยโหยหาผู้นำที่แข็งแกร่ง จนเป็นชนวนไปสู่สงครามโลกครั้งที่ 2
จึงเรียกได้ว่า สงครามโลกครั้งที่ 1 เป็นปฐมบทของสงครามครั้งต่อมานั่นเอง
ที่มา : 8 Minute History EP.163
ความรู้รอบตัว
ประวัติศาสตร์
ความรู้
1 บันทึก
3
1
1
3
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย