รีวิว "โปรเจกต์เฮลแมรี ภารกิจกู้สุริยะ" นิยายไซไฟที่คนไม่เนิร์ดวิทย์ ก็อ่านสนุก
คงเป็นเรื่องที่เราจินตนาการไม่ออกเลย ถ้าหากวันนึงมนุษย์จะถูกกวาดล้างจนหมดโลกขึ้นมาจริง ๆ มันจะเป็นยังไง หรือเราจะตายยังไง แต่มันกำลังจะเกิดขึ้นจริง ๆ แล้ว และมนุษยชาติต้องเตรียมพร้อมรับมือกับหายนะครั้งนี้
นาซ่าออกแถลงการณ์เกี่ยวกับกรณีพบเส้นสีแดงบาง ๆ พุ่งเป็นเส้นโค้งจากดวงอาทิตย์ไปหาดาวศุกร์ นั่นดูเหมือนเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นได้นอกโลก มันอาจเป็นอนุภาคฝุ่นธรรมดา ๆ และน่าจะไม่ใช่เรื่องที่คนทั่วโลกต้องใส่ใจอะไร แต่สิ่งที่น่ากลัวสุดขีดกำลังจะมาเยือน
ไม่ใช่มนุษย์ต่างดาวที่กำลังจะบุกโลก ไม่ใช่อุกกาบาตลูกยักษ์ที่กำลังจะพุ่งชนให้ทั้งโลกต้องสั่นคลอน แต่เป็นเพราะ...การหม่นแสงของดวงอาทิตย์ แสงกำลังหม่นลงเรื่อย ๆ ทีละเล็กทีละน้อย และเจ้าแสงปริศนาตัวแสบนั่นตกเป็นผู้ต้องสงสัยหมายเลข 1 มันกำลังเล่นงานดวงอาทิตย์ เผลอ ๆ อาจลุกลามไปถึงดวงดาวของระบบสุริยะอื่น ๆ ด้วย
หากปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป ความหนาวเหน็บและสงครามจะเกิดขึ้นทั่วโลก โลกมนุษย์จะกลับคืนสู่ยุคน้ำแข็ง คนครึ่งโลกต้องตาย ส่วนอีกครึ่งก็อาจอยู่ในสภาพร่อแร่
ท้ายที่สุด ดวงอาทิตย์จะดับ นี่น่าจะเป็นเหตุผลใหญ่โตพอให้คนบนโลกต้องตื่นตัวกลัวตายกันเสียที อีซา (องค์การอวกาศยุโรป) จึงได้เริ่มเดินหน้าโปรเจกต์เฮลแมรีแบบเต็มกำลัง รวบรวมนักวิทยาศาสตร์หัวกะทิจากทั่วทุกมุมโลกมาเพื่อทำภารกิจนี้ให้สำเร็จ และต้องส่งคนไปในอวกาศเพื่อหาสาเหตุให้ได้ว่าทำไม
สุดท้ายหวยดันมาตกที่ ดร.ไรแลนด์ เกรซ ครูสอนวิทยาศาสตร์ชั้นมัธยมต้นที่จู่ ๆ ก็ได้รับการคัดเลือก (พูดให้ถูกคือโดนบังคับ) ให้มาร่วมโปรเจกต์นี้ด้วย และยังต้อง (ถูกบังคับอีก) ให้ขึ้นยานไปกับเพื่อนร่วมทางอีก 2 คนด้วยตั๋วเที่ยวเดียว ไม่มีขากลับ
เขาเพียงแค่อยากอุทิศเวลาบนโลกเพื่อส่งต่อความรู้ให้กับเด็ก ๆ เท่านั้น เขาไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจมาเพื่อทำภารกิจกอบกู้โลกนี้เลย
และเขาก็ไม่ได้เตรียมใจมาเพื่อให้ถูกส่งไป "ภารกิจฆ่าตัวตาย"
โปรเจกต์เฮลแมรี ภารกิจกู้สุริยะ เป็นนิยายไซไฟที่เล่าได้โคตรเนิร์ดและโคตรสนุก คอนเฟิร์มมาก ๆ ใครที่ไม่เก่งวิทยาศาสตร์ หรือไม่ได้สนใจมันเลยเหมือนเรา 5555 อ่านได้สบาย ๆ ไม่ต้องกังวล (อ่าน ๆ ไปก็นึกอยากจะเก่งวิทยาศาสตร์ขึ้นมาเลยค่ะ ทุกอย่างดูน่าตื่นเต้นสำหรับคนธรรมดาอย่างเรามาก ทำให้อยากหานิยายแนววิทยาศาสตร์หรือหนังสือความรู้แนว ๆ วิทยาศาสตร์มาอ่านเพิ่มเลยละ)
เรื่องนี้เริ่มต้นด้วยฉากที่ ไรแลนด์ เกรซ ตื่นจากสภาวะโคม่า และอยู่บนยานเฮลแมรีที่กำลังมุ่งหน้าไปหาดาวเทาเซติ* (นักแปล note ให้เพิ่มเติมว่าจริง ๆ แล้วต้องอ่านชื่อว่า เทาซีติ) ดาวดวงนี้เป็นดาวดวงเดียวที่ตรวจพบว่าแม้จะมีแสงจาง ๆ อยู่รอบ ๆ วงโคจรแบบที่เกิดกับดวงอาทิตย์และดาวศุกร์ แต่แสงของดาวฤกษ์กลับไม่หม่นลงเลย นี่ก็เลยเป็นเหตุให้ต้องส่งคนมาเก็บตัวอย่างกลับไปตรวจที่โลก
ตลอดการเดินทางมีอะไรให้ลุ้นตลอด และที่น่าลุ้นจนวินาทีสุดท้ายคือ นี่เป็นภารกิจฆ่าตัวตายจริง ๆ ใช่มั้ย พระเอกของเราจะได้กลับบ้านรึเปล่า หรือจะกลายเป็นเศษซากลอยเท้งเต้งท่ามกลางหมู่ดาว...หรือ จะมีทางเลือกอย่างอื่นอีก...?
เล่มนี้เขียนโดย Andy Weir อดีตโปรแกรมเมอร์ที่แต่งนิยายไซไฟได้สมจริงมากซะจนถูกนำไปสร้างภาพยนตร์ดัง ๆ มาแล้วหลายเรื่อง เพราะความเป็นเหตุเป็นผลและความสมจริงในเรื่องนี่แหละที่บ่งบอกได้ว่าคนเขียนโคตรจะเนิร์ดในสิ่งที่ตัวเองเขียน แถมยังทำให้คนที่ไม่ได้เนิร์ดเรื่องนั้น ๆ อ่านเข้าใจและสนุกไปกับมันได้
เล่มนี้แปลโดย ธิดา จงนิรามัยสถิต นักแปลมืออาชีพที่ย่อยเรื่องยากให้เข้าใจง่าย อ่านสนุก และยังแปลผลงานดี ๆ มาแล้วหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นหนังสือ Non Fiction และผลงานดัง ๆ ที่หลายคนน่าจะรู้จักนั่นก็คือเล่มเสริมจากซีรีส์ชุด The Lord of the Rings ของ J.R.R. Tolkien "เกร็ดตำนานที่จารมิจบแห่งนูเมนอร์และมิดเดิ้ลเอิร์ธ" "การล่มสลายของกอนโดลิน" และ "เบเรนกับลูธิเอน" นั่นเอง เพราะฉะนั้นเรื่องภาษาแปลนี่ไม่ต้องห่วง อ่านสนุกแน่นอน
แม้จะมีศัพท์วิทยาศาสตร์และพวกการคำนวณนู่นนี่นั่นโผล่มาบ้าง ก็ไม่ถึงกับทำให้เรางงจนหมดสนุก (ณ จุด ๆ นี้ กราบที่หน้าตักนักแปลค่ะ รู้เลยว่าศ้พท์ต้องยากมากแน่ แล้วยิ่งเป็นนิยายวิทยาศาสตร์ แม่คุณเอ้ยยย สกิลการแปลต้องเบอร์ไหนอะ เก่งมากจริง ๆ )
แต่ก็นะ ด้วยความที่เราเป็นคนขี้สงสัย เจอคำยาก ๆ หรือฉากที่มีความวิทยาศาสตร์จ๋า ๆ หน่อยก็จะหยุดอ่านแล้วหาข้อมูล ทำให้อ่านช้า อ่านนานอยู่หลายวันกว่าจะจบค่ะ อย่างเรื่องการขยายขนาดของเวลาเราก็ว้าวมาก พึ่งรู้ว่าเวลามันสามารถขยายและไม่เท่ากันได้เมื่ออยู่คนละระบบสุริยะ เช่น เวลาที่ใช้ในการเดินทางจากโลกไปเทาเซติ คนที่อยู่บนยานจะรับรู้ว่าเวลาผ่านไปประมาณ 3-4 ปี ในขณะที่เวลาบนโลก ผ่านไปแล้วถึง 13-14 ปี ซึ่งนานมากกกก อันนี้ยังเป็นประเด็นที่งง ๆ อยู่ แต่ไว้จะหาอ่านเพิ่มเติมเรื่องสัมพัทธภาพ
แอบสนใจเรื่องดาราศาสตร์ขึ้นมาหน่อย ๆ ด้วยละ เล่มนี้ทำให้เราเปิดใจอยากสนุกกับเรื่องวิทยาศาสตร์และอวกาศมากขึ้นจริง ๆ
ถ้าถามว่าเล่มนี้น่าอ่านยังไง นอกเหนือจากฝีมือของนักเขียนกับนักแปลแล้ว การได้รับการันตีด้วยรางวัล Best Science Fiction ปี 2021 ของ Goodreads Choice Awards ก็น่าจะเป็นเหตุผลเพียงพอให้อ่านแล้วค่ะ เรามีแผนอยากจะซื้อฉบับอิ้งมาอ่านด้วย
การเล่าเรื่องจะเป็นลักษณะที่เล่าสลับไปมาระหว่างเวลาปัจจุบันบนยานเฮลแมรีกับความทรงจำก่อนขึ้นยานของ ดร.ไรแลนด์ เกรซ มันเป็นการเล่าเรื่องที่ลงตัว สอดคล้องกันไปหมด เหตุการณ์ค่อย ๆ ปะทุมาเรื่อย ๆ จนเราประทับใจกับจังหวะสลับฉากของเล่มนี้มาก ๆ คนเขียนเข้าใจปล่อยแต่ละฉากให้ลงล็อกตามเวลาที่เหมาะสมของมัน
แล้วที่ประทับใจอีกอย่างคือโมเมนต์ระหว่างไรแลนด์กับร็อกกี้ มีทั้งมุมฮา มุมต๊อง ๆ มุมกวนบาทา มุมซึ้ง ๆ ฉากสุดท้ายก่อนปิดเล่มตราตรึงใจจริง ๆ ชอบมิตรภาพของทั้งสองคนมาก เอ้อ แล้วฉากที่โคตรจะเท่สำหรับเราเลยนะ คือฉากที่สแตร็ตต์เดินออกจากศาลยุติธรรม ในใจคือแบบ เท่โว้ยยย ขนลุกกับฉากนี้เหมือนตอนดูหนังรวมพลอเวนเจอร์ยังไงอย่างงั้น 555555
แอบกระซิบว่า...เรื่องนี้มีตัวละครที่เป็นคนไทยโผล่มาด้วย!!! อันนี้เซอร์ไพรส์มากกกก เป็นกิมมิกที่ลงตัวดีเหมือนกัน
Fun fact สำหรับเล่มนี้ เราไปหาข้อมูลเพิ่มเติมแล้วก็พบว่า ดาวเทาเซติ มีอยู่จริง ๆ ด้วยแหละ นึกว่าจะเป็นชื่อแต่งขึ้นมาเอง 555 อ้างอิงจากข้อมูลของนาซา ลักษณะหยาบ ๆ ของมันก็ค่อนข้างตรงกับในหนังสือ มันอยู่ห่างจากโลกถึง 12 ปีแสง แล้วเจ้าเทาเซติก็ยังไปโผล่อยู่ในจักรวาลนิยายไซไฟเล่มอื่น ๆ กว่า 16 เรื่องแหนะ เจ๋งดี
Tau Ceti e is a super Earth exoplanet that orbits a G-type star. Its mass is 3.93 Earths, it takes 162.9 days to complete one orbit of its star, and is 0.538 AU from its star. Its discovery was announced in 2017.
แวะไปดูน้อน ๆ ในจักรวาลเทาเซติได้ที่นี่
V
V
เหมือนจะมีแพลนสร้างหนังเร็ว ๆ นี้แล้วนะคะ อดใจไม่ไหววว จะไปดูที่โรงแน่นอน
แต่ก่อนหนังจะมา เราตามไปลุ้นพร้อม ๆ กันในเล่มเลยดีกว่าว่า เกรซ จะช่วยปกป้องโลก ฟื้นคืนชีวิตให้กับดวงอาทิตย์ที่กำลังมอดดับได้สำเร็จรึเปล่า
บอกเลยว่างานนี้... มีเซอร์ไพรส์รออยู่ในอวกาศให้เพื่อน ๆ ตื่นเต้นแน่นอน
Bonafide impression :
★ คะแนนภาพรวม 5/5
★ ภาษาการแปล 5/5
★ ความแรร์ 1/5
🔥โปรเจกต์เฮลแมรี ภารกิจกู้สุริยะ (Project Hail Mary)
ผู้เขียน Andy Weir
ผู้แปล ธิดา จงนิรามัยสถิต
จำนวนหน้า 573 หน้า
ราคาปก 450 บาท
#รีวิว #พื้นที่รีวิว #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #หนังสือ #นิยายแปล #นิยายไซไฟ #นิยายscifi #นิยายวิทยาศาสตร์ #bookstagram #หนังสือแปล #โปรเจกต์เฮลแมรี #ภารกิจกู้สุริยะ #ProjectHailMary #AndyWeir #sciencefiction #scifi
#numpufirstreaders
#numpupublishing
#น้ำพุสำนักพิมพ์
#bonafidereadingroom
รีวิวหนังสือ "โปรเจกต์เฮลแมรี ภารกิจกู้สุริยะ" นิยายไซไฟชวนลุ้นระทึกที่จะพาคุณออกเดินทางไปพร้อมยานเฮลแมรีเพื่อกอบกู้โลก ตลอดการเดินทางไม่เพียงต้องพะว้าพะวงกับงานทดลองและการควบคุมยาน แต่ยังต้องใจเต้นไปกับบทพิสูจน์ข้อถกเถียงที่มีมายาวนาน นั่นก็คือ มีสิ่งมีชีวิตอื่นอาศัยอยู่นอกโลก...
- 10
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
