ทำไมแมนฯ ซิตี้ ได้แชมป์ยุโรป แต่จะไม่ได้ใส่ Badge แชมป์ยุโรป ?
ทุกคนรู้ไหมครับ ว่าถึงแม้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะคว้าแชมป์ยุโรปได้ที่อิสตันบูล แต่พวกเขาจะไม่สามารถใส่ Badge หรือ ติดโลโก้ถ้วยยุโรปได้ที่แขนเสื้อ เหมือนกับหลายๆ สโมสรนะครับ
ทำไมถึงเป็นแบบนั้น ผมจะอธิบายให้ฟังครับผม
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คว้าแชมป์ยุโรปสมัยแรก ที่สนามอตาเติร์ก ในประเทศตุรกี ถือเป็นความสำเร็จสูงสุดของสโมสร แต่พวกเขาจะไม่ได้สิทธิ์ ติดโลโก้ถ้วยบิ๊กเอียร์ บนทุกส่วนของเสื้อครับ
เพราะยูฟ่า ออกกฎไว้ชัดเจนว่า ทีมที่จะได้ติด Badge ถ้วยยุโรป ต้องได้แชมป์ยุโรปอย่างน้อย 5 สมัย หรือ ถ้าได้ 3 สมัย ต้องเป็น 3 สมัยติดต่อกัน
ดังนั้นทั่วยุโรป จะมีเพียง 6 สโมสรเท่านั้น ที่ได้สิทธิ์ติดโลโก้ถ้วยยุโรป บนหน้าอกเสื้อครับ
ทีมแรกคือ เรอัล มาดริด เจ้าของแชมป์ยุโรปสูงสุดตลอดกาล 14 สมัย แน่นอนว่าเข้าเกณฑ์อย่างไม่มีปัญหาครับ
ทีมที่สองคือ เอซี มิลาน เจ้าของแชมป์ยุโรปสูงสุดอันดับ 2 ที่จำนวน 7 สมัย ก็สามารถติดโลโก้ได้เช่นกัน
ทีมที่สามคือ บาเยิร์น มิวนิค พวกเขาได้แชมป์ยุโรป 6 สมัย เป็นหนึ่งเดียวจากประเทศเยอรมัน ที่สามารถใส่โลโก้แชมป์ยุโรปได้บนเสื้อ
ทีมที่สี่คือ ลิเวอร์พูล ได้แชมป์ยุโรป 6 สมัย เป็นทีมเดียวจากประเทศอังกฤษ ที่สามารถใส่โลโก้แชมป์ยุโรปได้ครับ ส่วนทีมจากอังกฤษที่ได้แชมป์ยุโรปมากที่สุดรองลงมาคือแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ 3 สมัย ถือว่ายังไม่พอ
ทีมที่ห้า คือ บาร์เซโลน่า ได้แชมป์ยุโรปทั้งสิ้น 5 สมัย โดยสมัยที่ 5 ที่ทำได้ คือยุค MSN เมสซี่ ซัวเรซ เนย์มาร์ ของหลุยส์ เอนริเก้ ทำให้สเปน เป็นเพียงชาติเดียวเท่านั้น ที่มีสโมสรติด Badge แชมป์ยุโรปได้ถึงสองทีม นั่นคือเรอัล มาดริด กับ บาร์เซโลน่านั่นเอง
ทีมสุดท้ายที่ติด Badge แชมป์ยุโรปได้ คืออาแจ๊กซ์ อัมสเตอร์ดัม จากเนเธอร์แลนด์ จริงอยู่ว่าอาแจ๊กซ์ ได้แชมป์ยุโรปเพียง 4 สมัย แต่พวกเขาเคยได้แชมป์ติดต่อกัน 3 ปีซ้อน ระหว่างปี 1971 1972 และ 1973 ทำให้ได้สิทธิ์ติด Badge ไปโดยปริยาย
นี่คือ 6 สโมสรเท่านั้นในฟุตบอลยุโรป ที่ติดโลโก้แชมเปี้ยนส์ลีกได้ในขณะนี้ สรุปคือ ถ้าแมนฯ ซิตี้ ต้องการติดโลโก้ล่ะก็ วิธีที่สั้นที่สุด คือคว้าแชมป์ให้ได้ติดต่อกัน อีก 2 ปีข้างหน้านั่นเอง ซึ่งผมคิดว่า ด้วยฝีมือของเป๊ป กวาร์ดิโอล่า อย่าคิดว่าเป็นไปไม่ได้นะครับ
หลักการเดียวกันนี้ ถูกใช้ในถ้วยยูฟ่า ยูโรป้าลีกด้วยครับ โดยยูฟ่า จะอนุญาตให้สโมร ที่ได้แชมป์ติดต่อกัน 3 สมัย หรือ ทีมที่ได้แชมป์รวมกันมากกว่า 5 ครั้ง ได้ติด Badge ยูโรป้าลีกลงไปได้
โดยในทวีปยุโรปมีสโมสรเดียวเท่านั้น ที่ได้สิทธิ์นั้น คือเซบีญ่า จากประเทศสเปน โดยพวกเขาเคยทั้งได้แชมป์ติดต่อกันสามสมัยคือ 2014 2015 และ 2016 และได้แชมป์รวมกันสูงสุดถึง 7 สมัยด้วยกัน
สุดท้ายนี้ ถ้าหากถามว่าการติดโลโก้ถ้วยยุโรปบนเสื้อมีประโยชน์อะไร คำตอบคือ ก็น่าจะมีผลในเรื่องของการตลาด เช่นการผลิตเสื้อแข่งขัน สามารถเอาโลโก้มาใส่ได้ เพิ่มความสวยงามและเพิ่มมูลค่าได้มากขึ้น
นอกจากนั้น อาจเป็นเป้าหมายเล็กๆ ให้แต่ละทีม เดินหน้าไปถึงให้ได้นั่นเองครับ
หลักการของยูฟ่า ก็คล้ายๆ กับที่กัลโช่ เซเรียอา ระบุว่า สโมสรไหนก็ตาม ได้แชมป์ลีกทั้งหมด 10 ครั้ง จะมีสิทธิ์ "ติดดาว"บนหน้าอกเสื้อได้ 1 ดวง
ยูเวนตุส คว้าแชมป์ลีกได้ 36 สมัย จึงมีสิทธิ์ติดดาวได้ 3 ดวงครับ
ส่วนเอซี มิลาน และ อินเตอร์ มิลาน ได้แชมป์ 19 สมัยเท่ากัน จึงได้สิทธิ์ติดดาว 1 ดวงครับ ถ้าทีมไหนได้แชมป์ลีกเพิ่มอีก 1 สมัย ก็จะได้สิทธิ์ติดสองดวงนั่นเอง
สุดท้ายแล้ว จริงๆ การได้ติด Badge ติดโลโก้ถ้วยยุโรป หรือ ติดดาว ก็ไม่ได้มีผลอะไรขนาดนั้นครับ ต่อให้ไม่ได้ติด ก็ไม่ได้ทำให้คุณค่าการได้แชมป์ลดลง แต่มันจะมีประโยชน์ในแง่การตลาด และความเท่นั่นเองครับ
- 7
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
