20 มิ.ย. 2023 เวลา 12:30 • หุ้น & เศรษฐกิจ

ILINK: สรุปธุรกิจและรายได้ในไตรมาส 1/2023

𝐈𝐋𝐈𝐍𝐊: 𝐈𝐍𝐓𝐄𝐑𝐋𝐈𝐍𝐊 𝐂𝐎𝐌𝐌𝐔𝐍𝐈𝐂𝐀𝐓𝐈𝐎𝐍 𝐏𝐂𝐋
𝟏𝐐𝟐𝟑
📌 𝐁𝐮𝐬𝐢𝐧𝐞𝐬𝐬 𝐌𝐨𝐝𝐞𝐥
บริษัทฯ และบริษัทย่อยดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร โดยสามารถแบ่งได้ 3 ธุรกิจ ดังนี้
1️⃣ ธุรกิจจัดจำหน่าย (Distribution) | เป็นผู้นำเข้า (Importer) และผู้จัดจำหน่าย (Distributor) สินค้า Cabling & Networking แบรนด์ชั้นนำของโลก เช่น LINK, COMMSCOPE (AMP) จากอเมริกา และตู้ 19” Rack สำหรับใส่คอมพิวเตอร์ Server และอุปกรณ์ด้าน Data Center เรียกได้ว่ามีกลุ่มสินค้าที่หลากหลายและครบวงจร ครอบคลุมตั้งแต่โครงข่ายสายสัญญาณ (LAN, Fiber Optic, สาย Solar, สาย Control)
รวมไปถึงกลุ่มตู้ 19” Rack และอุปกรณ์กระจายสัญญาณทุกชนิด มี Market Share อันดับ 1 ในประเทศไทย ปัจจุบันมีการขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่ม CLMV และ มัลดีฟส์ ถึงแม้จะบอกว่ามีขยายฐานลูกค้าไปยังเพื่อนบ้านอย่าง CLMV แต่สัดส่วนรายได้ก็ยังไม่มีนัยสำคัญมากนักแค่ 2% ของรายได้ทั้งหมด ที่เหลือเป็นรายได้ภายในประเทศ98%
สำหรับการจัดจำหน่ายบริษัทจะเน้นการขายส่งให้กับกลุ่มผู้ค้าคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ Network (ICT Dealer) บริษัทผู้รวบรวมระบบ IT (System Integrator: SI) ผู้รับเหมาติดตั้งระบบไฟฟ้าและ Solar Rooftop (Installer & Contractor) ร้านค้าที่จำหน่ายอุปกรณ์ไฟฟ้า คอมพิวเตอร์ IT กล้องวงจรปิด (Shop) รวมไปถึงร้าน Modern Trade ต่างๆ จุดแข็งของบริษัทคือการมี Stock สินค้าที่มีความหลากหลายมากที่สุดในประเทศ (ตรงนี้ต้องไปดูรายการ สินค้าคงเหลือ ว่าเป็นอย่างไร บางครั้งมีมากไปก็ไม่ดีนะครับ ต้องไปเช็คดู)
รายได้จาก Shop จะเยอะสุด ~45% รองลงมาเป็น SI + ICT Dealer 30-35%, Installer & Contractor 15-20% ที่เหลือจะเป็น Modern Trade และ End User
บริษัทมีสำนักงานสาขาใน 5 ภูมิภาคหลัก ได้แก่ เชียงใหม่ สงขลา ขอนแก่น ระยอง และกรุงเทพฯเป็นศูนย์กระจายสินค้า และจัดส่งฟรีทั่วไทย ไม่ว่าจะอยู่จังหวัดไหนก็ได้ราคาเดียวกับกรุงเทพฯ เพื่อบริการลูกค้า ตัวแทนจำหน่ายในต่างจังหวัดทั่วได้อย่างทั่วถึง
รายได้ส่วนใหญ่ของธุรกิจนี้กว่า 50% จะมาจากการขายสินค้าอย่างสาย LAN รองลงมาจะเป็น Fiber Cable, Solar Cable, 19” Rack จะอยู่ประมาณ10-15% ที่เหลือจะเป็น Control Cable และ Network ในสัดส่วนที่พอๆกัน และเป็นรายได้จากการทำธุรกิจแบบ B2B ถึง 99%
2️⃣ ธุรกิจโทรคมนาคมและ Data Center (Telecom) | ดำเนินการโดยบริษัทย่อย (ITEL) ประกอบธุรกิจให้บริการเช่าโครงข่าย Fiber Optic และบริการออกแบบ ก่อสร้างและรับเหมาโครงการ Fiber Optic และโครงการสื่อสารสัญญาณโทรคมนาคม รวมถึงให้บริการเช่าพื้นที่ Data Center ในส่วนนี้เดี๋ยวไว้มาเล่าแบบละเอียดตอนหุ้น ITEL นะครับ (ขอติดไว้ก่อน)
3️⃣ ธุรกิจวิศวกรรมและโครงการพิเศษ (Engineering) | บริษัทเป็นผู้ให้บริการแบบครบวงจร (Turkey Project) ตั้งแต่ออกแบบ ก่อสร้าง จัดหา ติดตั้ง และบำรุงรักษา โดยมุ่งเน้นงานโครงการด้านวิศวกรรมไฟฟ้าและระบบสื่อสารโทรคมนาคมของภาครัฐ งานหลักๆที่รับ และมีประสบการณ์ ได้แก่
🔶 โครงการระบบสายส่งไฟฟ้า (Transmission Line) สายส่งไฟฟ้าใต้ทะเล (Submarine Cable) สายส่งไฟฟ้าใต้ดิน (Underground Cable) โดยมีผลงานโครงการได้แก่
🔹 สายส่งไฟฟ้าแรงสูง 115 KV ที่อำเภอปาย
🔹 สายไฟฟ้าใต้ทะเลของเกาะล้าน เกาะสีชัง เกาะยาว เกาะกูด เกาะพะงัน เป็นต้น
🔹 สารไฟฟ้าใต้ดิน ที่พัทยา และจังหวัดเชียงใหม่
🔶 โครงการระบบสถานีไฟฟ้าย่อย (Power Substation) ระบบสถานีไฟฟ้าที่ลำพูน ลำปาง พิจิตร ราชบุรี อยุธยา เป็นต้น
🔶 โครงการระบบสื่อสารขนาดใหญ่: เดินระบบสาย LAN และสาย Fiber Optic ให้แก่ สนามบินสุวรรณภูมิ กฟผ. กฟน. กฟภ. บริษัท TOT, KTB, TMB, KBANK และจุฬาฯ เป็นต้น
🔶 โครงการพิเศษขนาดใหญ่ เช่น โครงการระบบสายส่งไฟฟ้าแรงสูง 115 KV ใต้ดิน และระบบรถไฟโดยสาร ระบบอาณัติสัญญาณของสนามบินสุวรรณภูมิ เป็นต้น
📌 𝐅𝐢𝐧𝐚𝐧𝐜𝐢𝐚𝐥 𝐇𝐢𝐠𝐡𝐥𝐢𝐠𝐡𝐭
🔶 𝟏𝐐𝟐𝟑
🔹 Revenue: 1,635.1 MB, 14.5% YoY, -26.8% QoQ | เพิ่มขึ้นจากยอดขายสินค้าของธุรกิจ Distribution และธุรกิจ Engineering ที่มีการรับรู้รายได้เข้ามา
🔹 GPM: 25.4% จาก 4Q22 ที่ 19.9% และจาก 1Q22 ที่ 21.0% | Margin เพิ่มขึ้นจากราคาทองแดงที่เป็นส่วนผสมหลักของสินค้าในธุรกิจ Distribution มีการปรับตัวลดลง และ ต้นทุนการบริการในธุรกิจ Telecom ลดลง
🔹 SG&A: 10.3% จาก 4Q22 ที่ 7.5% และจาก 1Q22 ที่ 9.1%
🔹 EBITDA: 20.8% จาก 4Q22 ที่ 13.8% และจาก 1Q22 ที่ 17.8%
🔹 Net Profit: 127.5 MB, 50.5% YoY, +4.5% QoQ
🔹 NPM: 7.8% จาก 4Q22 ที่ 5.5% และจาก 1Q22 ที่ 5.9%
🔹 ILINK มี Recurring Income จากธุรกิจ Distribution ที่ลูกค้ามีการซื้อซ้ำจากฐานลูกค้าเดิมในสัดส่วนที่มากกว่า 98% ของยอดขาย และจากธุรกิจ Telecom จากการให้บริการ Data Center และ Data Service ซึ่งรวมๆแล้วคิดเป็นราวๆ 60% ของรายได้รวม
📌 𝐁𝐮𝐬𝐢𝐧𝐞𝐬𝐬 𝐎𝐮𝐭𝐥𝐨𝐨𝐤
🔶 Engineering Backlog as of 1Q23 | ยังมีอยู่ 6 โครงการที่ยังดำเนินการอยู่ คิดเป็นมูลค่าราวๆ 1,911 MB ซึ่งจะแบ่งรับรู้ในปี 2023 ประมาณ 1,050 MB และที่เหลือจะรับรู้ในปี 2024
🔶 Line-up Project
🔹 มีโครงการที่ชนะประมูลมาและอยู่ในขั้นตอนตรวจสอบเอกสารรอเซ็นสัญญาทั้งหมด 2 โครงการ คือ โครงการ Submarine Cable ที่เกาะเต่า มูลค่า 1,813 MB และ Transmission Line ที่พัทยา มูลค่า 95 MB (ล่าสุด Transmission เซ็นสัญญาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว) รวมทั้งหมด 1,908 MB คาดว่าน่าจะบันทึกเข้าไปรวมกับ Backlog เดิม (1,911 MB) ในช่วง 2H23 ถ้าทุกอย่างเรียบร้อยดีเท่ากับปัจจุบันจะมี Backlog 3,819 MB
🔶 Key Drive 2023 | ปัจจัยในการเติบโตหลักๆของบริษัทจะอิงไปกับการเติบโตของเทคโนโลยี และนโยบายการใช้จ่ายในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ อย่างด้านการขนส่ง พลังงานสะอาด และ Digital Service ที่จะช่วยกระตุ้นการใช้ Cable ให้มากขึ้น รวมถึงโครงการสายใต้ดิน หรือใต้สมุทรนั้นเอง
📌 𝐆𝐮𝐢𝐝𝐚𝐧𝐜𝐞 𝟐𝟎𝟐𝟑
🔶 Total Revenue 2023 >= 7,400 MB (เติบโตประมาณ 4.25% YoY)
🔹 Distribution >= 2,700 MB
🔹 Telecom >= 3,500 MB
🔹 Engineering >= 1,200 MB
🔶 NPM >= 8% (กำไรสุทธิจะเติบโตประมาณ 54.38% YoY)
🔹 Distribution >= 9%
🔹 Telecom >= 9%
🔹 Engineering >= 8%
📌 𝐒𝐮𝐦𝐦𝐚𝐫𝐲
สำหรับใน 2Q23 เรามีมุมมองว่ากำไรของบริษัทจะลดลง QoQ โดยปกติแล้วช่วง Q2 จะเป็นช่วงซบเซาของบริษัท เนื่องจากบริษัทจะจัดงานใหญ่ คือ Interlink Expo ในการจำหน่ายสินค้าของธุรกิจ Distribution ในช่วง Jan และ Jul ของทุกปี ทำให้ไตรมาส 1 และ 3 ของทุกปีจะมีรายได้สูงกว่าช่วงไตรมาสอื่น แต่ยังเติบโต YoY จาก NPM ที่ปรับตัวดีขึ้นจากปีก่อนหน้า
📈𝐓𝐞𝐜𝐡𝐧𝐢𝐜𝐚𝐥
เนื่องจากราคามาก่อนข่าวเสมอ จากกราฟราคาปิดวันที่ 19/06/2023 ราคายืนเหนือเส้น EMA 200 และภาพระยะสั้นกราฟได้ Break Sideway Down Channel เป็นที่เรียบร้อยแล้วมีโอกาสขึ้น Test แนวต้านที่ 8.00 และ 8.50 ปัจจุบัน P/E อยู่ในระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 10 ปีย้อนหลัง และใกล้ Low ในรอบ 10 ปี นักลงทุนที่สนใจอย่าลืมประเมินมูลค่าก่อนตัดสินใจลงทุน
#JTrader
#เทรดไปเที่ยวไป
#แผนชัดก็ซัดเลย
#ILINK
ปล1. จากข้อมูลข้างต้น ไม่มีเจตนาชักชวน หรือให้ซื้อ-ขายตามบทความข้างต้น
ปล2. การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรพิจารณาไตร่ตรองการลงทุนว่าจะซื้อหรือขายด้วยตัวท่านเองเท่านั้น

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา