20 มิ.ย. 2023 เวลา 14:09 • หนังสือ

Ch23: ขั้นเวลา [Act3]

สถานีรถไฟคิงส์ครอสคือปัญหา
ในจักรวาลแฮร์รี่พอตเตอร์นั้นคิงส์ครอสเปรียบเสมือนประตูสู่โลกเวทมนตร์อย่างเป็นทางการของผู้อ่าน แต่กี่คนจะขบคิดเกี่ยวกับมันจริงๆ
ผมพาผู้อ่านมาถึงสถานที่ระดับตำนานของจักรวาลแฮร์รี่ พอตเตอร์อีกที่จนได้ ซึ่งเป็นอีกสถานที่ๆ ผมงงมาก(พอๆ กับห้องแห่งความลับ)ว่าทำไมไม่ค่อยมีใครถกประเด็นเกี่ยวกับมัน นั่นคือสถานีรถไฟคิงส์ครอสซึ่งตั้งอยู่ที่ลอนดอนประเทศอังกฤษ สถานีนี้สำหรับไม่ได้มีความหมายอะไรจนกว่าจะมีการเปิดเผยอย่างเป็นทางการว่าบ้านสมัยเด็กของลิลี่และสเนปนั้นตั้งอยู่บริเวณมิดแลนด์
คนอ่าน: เออ แล้วมันมีปัญหาอะไร?
ผม: ก็ใช่สิ ทำไมจะไม่มีปัญหา!?
ผมจะสมมติเล่นๆ ก่อนว่าผู้อ่านแม่งไม่มีใครเก็ตประเด็นของผมเลยเพื่อผมจะได้ลงรูปแผนที่อังกฤษพอให้เนื้อหามันได้เต็มๆ หน่อย เพราะเวอร์ชั่นอ่านฟรีจะมีเนื้อหาสั้นกว่าเวอร์ชั่น E-book ประมาณครึ่งหนึ่ง ในรูปนี้ท่านจะเห็นว่าในแผนที่อังกฤษลอนดอนมันจะอยู่ที่อังกฤษตอนล่างครับ ส่วนฮอกวอร์ตพวกพอตเตอร์เฮดน่าจะรู้ว่ามันอยู่ที่ดินแดนสก๊อตแลนด์ถูกมั้ย? และมิดแลนด์มองรวมๆ ก็คือบริเวณเมืองแมนเชสเตอร์ ลิเวอร์พูล และ ยอร์ค
อย่าบอกนะว่าไม่เห็นความผิดปกติ
และนี่คือคำถามของผมครับ ทำไมในเล่ม 7 ตอน "เรื่องเล่าของเจ้าชาย" สเนปและลิลี่จึงต้องไปขึ้นรถไฟที่สถานีรถไฟคิงส์ครอสที่อยู่ตั้งลอนดอน
ทำไมไม่รอขึ้นที่มิดแลน? ("- -)
ถ้าเปรียบเทียบเป็นประเทศไทยก็อารมณ์แบบนักเรียนทั่งประเทศต้องไปเรียนที่จังหวัดอุบลราชธานี สถานเริ่มต้นคือสถานีรถไฟหัวลำโพงและสุดสายที่สถานีรถไฟวารินชำราบ--จังหวัดอุบล และสเนปกับลิลี่ก็อยู่นครราชสีมาแต่แทนที่จะรอขึ้นที่นครราชสีมาทั้งสองแม่งต้องถ่อลงไปที่กรุงเทพเพื่อนักรถจากหัวลำโพง แถมถ้านักเรียนคนไหนบ้านอยู่แถวดอนเมือง, รังสิต, อยุธยาก็รอรถจากตรงนั้นไม่ได้นะครับ ต้องนั่งรถไปกลับที่ต้นทางเพื่อขึ้นจากหัวลำโพงเท่านั้น
นี่ยังไม่นับศาสตราจารย์มักกอนนากัลที่เป็นชาวสก๊อตแลนด์อยู่แล้ว สมัยเรียนเธอก็ต้องถ่อลงไปลอนดอนเพื่อนั่งรถไฟจากสถานรถไฟคิงสครอสด้วยมั้ย?
ทำไมไม่แค่นักรถโดยสารไปซัก 1-2 ชม. ไปวะ??
JK Rowling อาจจะไม่ทันคิดในช่วงแรกๆ แต่สิ่งที่ชัดเจนกว่านั้นคือแล้วหลังจากนั้นเธอก็คิดแต่ก็ไม่เคยออกมาตอบคำถามอะไร ซึ่งตามหลักการคือตราบเท่าที่ไม่มีการแก้ไขจากนักเขียนต้องถือเป็นกฎที่ต้องยึดกันในโลกนั้น ทำให้เราสามารถคาดเดาว่าฮอกวอร์ตจะต้องมีระบบตรวจสอบนักเรียนตั้งแต่คิงส์ครอสไปจนถึงฮอกวอร์สเพื่อเขาจะรู้ว่านักเรียนคนไหนมาไม่มา และอาจจะรวมถึงการคาดคะเนเกี่ยวกับปัญหาที่บ้านของเด็กด้วย
กล่าวคือ "ถ้าพ่อแม่หรือตัวเด็กไม่สามารถเดินทางมาที่แสดงตัวตนโดยการยื่นตั๋วที่คิงส์ครอสได้แปลว่าบ้านของเด็กจะต้องมีปัญหาในการยินยอมให้เด็กเข้าเรียน" ประกอบกับตัว JK Rowling ก็บอกชัดเจนว่ามีเด็กมีเวทมนตร์ที่พร้อมเข้าเรียนปีหนึ่งราวๆ 500,000 คน แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถเข้าเรียนที่ฮอกวอร์ตได้และไม่ใช่เด็กทุกคนที่พ่อแม่จะยอมให้เข้าเรียนที่ฮอกวอร์ตก็สอดคล้องกับข้อสันนิฐานของผม
หรือพูดให้ชัด "ถ้าเด็กได้รับเลือกให้เข้าฮอกวอร์ตหรือเข้าเรียนอยู่แล้ว วันหนึ่งเกิดไม่ได้โผล่มาที่คิงส์ครอสแปลว่าต้องมีอะไรเกิดขึ้น" ดังนั้นเราก็จะได้รับคำอธิบายว่าทำไมทางโรงเรียนไม่คิดจะตรวจสอบสถานการณ์ที่บ้านของนักเรียนหรือคณาจารย์ท่านใดเลย เพราะยึดคติ มาขึ้นรถไฟพร้อมกันได้แปลว่าไม่มีปัญหา
ไม่ได้พูดเล่นๆ นะครับ ขนาดลูปินยังขึ้นรถไฟกับนักเรียนที่คิงส์ครอส แปลว่าอาจารย์คงไม่ได้หายตัวหรือขี่ไม้กวาดไปโรงเรียนเหมือนกัน เพราะอย่างลูปินต้องหายตัวได้อยู่แล้วและแม้จะไส้แห้งแค่ไหนก็ควรต้องมีไม้กวาดราคาถูกซักด้ามถูกมั้ย??
ถ้าสมมติว่าฮอกวอร์ตใช้มาตรการแบบนั้นในการตรวจสอบสถานการณ์ทางบ้านจริงๆ เราก็ต้องพูดตรงๆ ว่าเป็นมาตรการที่ห่วยแตกมากเพราะมันมีเหตุผลร้อยแปดพันประการที่เด็กหรือครูจะเดินทางไปไม่ถึงคิงครอสเช่นรถเสีย--สตาร์ทไม่คิด เงินไม่พอใช้ ไม่มีค่ารถ แท็กซี่พาหลง ฯลฯ และดัมเบิลดอร์ที่ไม่คิดจะเปลี่ยนแปลระบบการจัดการทั้งที่เป็นอาจารย์ใหญ่มาหลายปีก็ชัดเจนว่าไม่ได้ฉลาดไปกว่าครูใหญ่คนที่ผ่านๆ มา (อวยเยอะไปงั้นแหละ)
อย่างไรก็ตาม การจะบอกว่าเป็นเพราะระบบการจัดการงี่เง่าไร้สาระของฮอกวอร์ตอาจจะเป็นคำพูดที่เกิดไปสำหรับเหล่าอาจารย์และศิษย์เก่าที่กำลังติดแฮชแท็ค #เซฟฮอกวอร์ต กันตอนนี้ผมก็จะขอตั้งขอสัญนิฐานเพิ่มอีกนิดว่าเหตุผลที่มีเพียงคิงส์ครอสเท่านั้นที่เป็นกำแพงพิเศษให้ทะลุไปรอในชาลชาลาพิเศษเพราะ "โลกเวทมนตร์ไม่ได้ใหญ่โตเลย"
ทั้งนี้ผมไม่ได้พิจารณาจากภาพในภาพยนตร์ที่มันดูเป็นสถานีที่เล็กจิ๋วนะครับ แต่ผมกำลังพิจารณาในแง่ที่ว่าถ้าพ่อมดแม่มดกระจายตัวแทรกซึมอยู่ทั่วทั้งอังกฤษจริงๆ อย่างที่หนังสือบอก ทำไมไม่มีกำแพงพิเศษตามสถานรถไฟทุกที่ๆ รถไฟคันนี้วิ่งผ่านเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับพ่อมดแม่มดที่ต้องขึ้นรถไฟไปเรียนระหว่างเส้นทาง? จริงอยู่ว่านักเรียนฮอกวอร์ตมีน้อยมากแต่ประชาชนชาวโลกเวทมนตร์ล่ะ ไม่มีงานอื่นทำนอกจากทำงานที่กระทรวงรึไง??
ขออนุญาตเตือนเล็กน้อยว่าฮอกวอร์ตมีนักเรียนเข้าเรียนเฉลี่ยปีละ 40 คนเท่านั้นเอง ถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบจำนวน 500,000 คนต่อปีที่ JK Rowling อ้าง และแม้ไม่เข้าเรียนที่ฮอกวอร์ตแต่พวกพ่อมดแม่มดโฮมสคูลในแต่ละปีลองมีจำนวนมากขนาดนั้นก็แปลว่าจำนวนผู้วิเศษต้องไม่ต่ำกว่า 10% ของประชากรอังกฤษแน่ๆ เพราะพวกเขาอายุยืนกว่าด้วย แล้วพ่อมดเด็กเหล่านี้จะไม่ใช้สถานีขนส่งสาธารณะเหรอครับ? อย่างน้อยก็ตอนไปสอบวัดผลแต่ละปี
ที่อังกฤษมีระบบการขนส่งสารธารณะที่วางมาเป็นอย่างดีมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
มันจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีรถไฟวิ่งแค่จากคิงส์ครอสถึงฮอกวอร์ตสองเที่ยวต่อปี แต่รถไฟจำเป็นต้องวิ่งเป็นประจำเพราะเด็กอายุต่ำกว่า 17 ไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้เวทมนตร์นอกโรงเรียน ฮอกวอร์ตไม่มีทางเป็นโรงเรียนเวทมนตร์แห่งเดียวในอังกฤษได้ มันแค่เป็นโรงเรียนที่ขึ้นทะเบียนกับทางกระทรวงแต่ไม่มีทางเป็นโรงเรียนแห่งเดียวแน่ๆ ดังนั้นมีนักเรียนจำนวนมากนอกฮอกวอร์ตที่ไปโรงเรียนเวทมนตร์แถวบ้าน, ต่างเมือง, หรือโฮมสคูล
ฉะนั้นความเป็นไปได้อีกจุดหนึ่งคือโลกเวทมนตร์ไม่ได้ใหญ่โตครับแต่มันเป็นกระจุกสังคมเล็กๆ ที่กระจายตัวออกไปตามที่ต่างๆ ของอังกฤษโดยอยู่ในตัวเมืองสำคัญๆ ไม่กี่เมืองและอาจจะอยู่แค่1-2 เมืองในแต่ละแคว้น เช่นมีชุมชนผู้วิเศษไม่กี่ชุมชนในไอริส, ในสก๊อตแลนด์อีกไม่กี่ชุมชน และกระจุกตัวที่ลอนดอนเป็นส่วนใหญ่ ถ้าสภาพสังคมเป็นเช่นนี้ ก็จะไม่มีความจำเป็นที่จะต้องสร้างส่วนเชื่อมโยงที่เยอะเกินไป
ซึ่งแบบนี้ก็จะสอดคล้องกับที่รอนเลยกล่าวในหนังสือว่าหากไม่แต่งงานกับมักเกิ้ลพวกผู้วิเศษคงสูญพันธุ์หมด
*ดังนั้นเรารู้แล้วล่ะว่าทำไมพวกมัลฟอยเกลียดปลาไหลซดน้ำแกง ปากบอกว่าเกลียดมักเกิ้ลแต่กลับหาเงินจากพวกมักเกิ้ลเพราะมักเกิ้ลเป็นแหล่งรายได้ที่ใหญ่กว่าโลกเวทมนตร์อย่างไม่ต้องสงสัย XD
โลกเวทมนตร์ไม่ใช่โลกที่ใหญ่ขนาดนั้น พวกเขาซ่อนตัวจากมักเกิ้ลอย่างมีนัยยะสำคัญนี่คือข้อมูลที่บอกให้เรารู้ว่าไม่ใช่มักเกิ้ลที่ด้อยกว่าผู้วิเศษ แต่ผู้วิเศษต่างหากที่โดนล่าจนแทบสูญพันธุ์ในความเป็นจริง แม้พวกเขาจะแต่งตำราฮอกวอร์ตให้พวกเขาดูดีแค่ไหนแต่เชื่อเถอะว่าถ้าระเบิดลงที่ชุมชนผู้วิเศษก็ไม่น่าจะรอดซักคนและการร่ายเวทมนตร์ก็ไม่มีทางเร็วเท่ากับกับการเหนี่ยวปืนกล
และโลกเวทมนตร์ก็ยังมีลักษณะเป็นยุคโบราณอย่างมีนัยยะสำคัญหากเราพิจารณาจากในหนังสือ ไม่ว่าจะเครื่องแต่งกาย และความสะดวกสะบายที่พึ่งพาเวทมนตร์เป็นหลัก พวกเขารับระบบปะปาของมักเกิ้ลมาใช่แต่พวกเขาไม่มีไฟฟ้าและยังใช้เทียน, ตะเกียง, รวมถึงแสงจากไม้กายสิทธิ วิทยุพ่อมดทำงานด้วยการเสกเวทมนตร์ แม้แต่รถมักเกิ้ลที่อาเธอร์ขับก็ไม่เคยเติมน้ำมันเลยและพวกเขาไม่เคยเข้าใจว่าเครื่องบินบินได้ยังไงโดยไม่ใช้เวทมนตร์
แน่นอนว่าเราสามารถบอกเพราะพวกเขามีเวทมนตร์อำนวยความสะดวกพวกเขาเลยไม่เห็นความจำเป็นของสิ่งเหล่านั้นแต่มันก็ทำให้เราเข้าใจได้เช่นกันว่าทำไมพวกเขาจึงล้าหลังอย่างไม่น่าเชื่อ และวัดกันหมัดต่อหมัดพวกเขาไม่มีทางชนะ ดังนั้นพวกเขาจึงเลือกจะหลบซ่อนแทนที่จะพยายามเป็นส่วนหนึ่งของสังคมโลกจริงๆ
แต่กระนั้นมันก็ทำให้ผมรู้สึกเห็นใจนักเรียนที่บ้านไม่ได้อยู่ลอนดอนและเมืองข้างเคียงแต่ต้องถ่อลงไปคิงส์ครอสเพื่อขึ้นรถไฟ อาจารย์อาจจะไม่มีปัญหาโดยอาศัยไม้กวาด การหายตัว กุญแจนำทาง แต่นักเรียน! โอเคว่าเราเดาได้ว่าแฮร์รี่น่าจะอยู่ในลอนดอนหรือชานเมืองลอนดอนแหละ ซิเรียสก็ไม่เคยมีปัญหาด้านการเดินทางสมัยเรียนเพราะบ้านเลขที่ 12 กริมโมเพลสอยู่ที่ลอนดอน
แต่สเนปกับลิลี่!
พวกเขาอาจจะต้องตื่นตั้งแต่ตีสามหรือสี่เพื่อจัดกระเป๋า เดินทางออกจากบ้านมาที่สถานีรถไฟ เพื่อนั่งรถไปลงไปที่คิงส์ครอสพร้อมกับข้าวของพะรุงพะรัง เพราะย้อนกลับไปยุค 70 ไม่น่าจะมีรถไฟความเร็วสูงใช้นะ อย่างมากก็รถรางดีเซลล์ จากนั้นพอถึงที่หมายก็ต้องเขนรถไปที่ชาลชาลา 9 เศษ 3/4 เพื่อเข้าไปรอรถพร้อมกับนักเรียนคนอื่น ส่วนมักกอนนากัลสมัยเด็กคงต้องนั่งรถไฟลงมาตั้งแต่เมื่อคืนเพื่อนั่งรถไฟย้อนกลับขึ้นไปในตอนเช้า
มักกอนนากัลนี่กว่าจะถึงฮอกวอร์ตคงจะเหนื่อยจนอ้วกไปหลายรอบเลย สเนปเองก็ใช่ว่าจะดีกว่า เรารู้ว่าเขามาจากบ้านที่ยากจน ลองคิดซิว่ากว่าจะหาค่าตั๋วเพื่อจะนั่งรถไฟย้อนไปย้อนมาแบบนี้ สรุปว่าการนั่งรถไฟจากสถานีคิงส์ครอสไปฮอวกอร์ตแม่งไม่ได้น่าตื่นเต้นอะไรขนาดนั้น ชีวิตจริงน่าโมโหมาก ผมไม่เชื่อหรอกว่าจะไม่มีใครบ่นเลย เพียงแต่แฮร์รี่บังเอิญโชคดีที่ได้นั่งกับเพื่อนๆ ที่บ้านอยู่ในอังกฤษตอนใต้เลยไม่ได้ยินว่ามีใครโวยวาย
มันจึงช่วยไม่ได้จริงๆ ที่หลายครั้งที่พูดถึงสถานรถไฟฮอกวอร์ตผมจะอดไม่ได้ว่า "ทำไมไม่ทำสิ่งที่ง่ายกว่านั้นคือให้นักเรียนขึ้นรถไฟจากที่ไหนก็ได้เพื่อไปที่สถานีรถไฟที่สก๊อตแลนด์แล้วทะลุกำแพงไปรายงานตัวกับทางสถานฮอกวอร์ต?" ทำไมโรงเรียนและกระทรวงต้องโยนภาระการเดินทางที่เหน็ดเหนื่อยเกินจำเป็นให้กับนักเรียนซึ่งพวกคุณห้ามไม่ให้ใช้เวทมนตร์??
ฉากในสถานรถไฟคิงส์ครอสมันดูอลังการน่าตื่นเต้น แต่ถ้าคิดถึงหลักความจริงมันน่าตื่นเต้นเฉพาะสำหรับเด็กที่บ้านอยู่ลอนดอนอย่างซิเรียส แฮร์รี่ และอาจจะรวมถึงเจมส์ด้วย
แต่สำหรับมักกอนนากัล, ลิลี่, สเนป และอีกหลายคนที่ไม่ได้อยู่อังกฤษตอนใต้พวกเขาคงอยากตะโกนพร้อมๆ กันว่า "Eส้นteen!!"
**ลงตอนหน้าอีกหนึ่งตอนก็จะหยุดพักเพื่อรวมเล่ม E-book เล่ม 2 แล้วนะครับ
โฆษณา