22 มิ.ย. 2023 เวลา 00:09 • ธุรกิจ

Game (AI) of Thronesกับสงครามชิงโอกาสธุรกิจมูลค่า 800 พันล้านดอลลาร์ในทศวรรษหน้า

ศึกสงครามทางด้านเทคโนโลยีในทุก ๆ ครั้ง มันเดิมพันด้วยตลาดมูลค่ามหาศาล ซึ่งเราได้เห็นสงครามหลาย ๆ ครั้งที่ผ่านมา ที่เหล่าบริษัทเทคโนโลยีทุ่มสุดตัวเพื่อคว้าโอกาสทางธุรกิจ และพยายามฆ่าคู่แข่งให้ตาย ไม่ให้เป็นขวากหนามในอนาคต
2
ไล่มาตั้งแต่ ยุคคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ที่ Microsoft เอาชนะ Apple ไปได้ ถึงขั้นที่ว่า Steve Jobs ต้องสูญเสียอำนาจในการควบคุม Apple ในยุคนึงเลยทีเดียว ก่อนที่จะมาคำรามได้อีกครั้งในการกลับมาในคำรบที่สอง
2
หลังจากนั้น เรียกได้ว่า การแข่งขันทางด้านเทคโนโลยี ดุเดือด เลือดพล่าน ทุ่มเทสรรพกำลังกันแบบหมดหน้าตัก อินเทอร์เน็ต , Ecommerce , Search Engine , Social Media , Smartphone , Tablet ซึ่งเราจะได้เห็นกลุ่มผู้เล่นเดิม ๆ ที่บดบี้กันแบบสนุกมาก ๆ ทั้ง Micrososoft , Apple , Google หรือ แม้กระทั่ง Meta เจ้าพ่อโซเชียลมีเดีย
เมื่อเวลาผ่านไป ทุกฝ่ายต่างไปตั้งฐานที่มั่นในธุรกิจที่ตัวเองถนัด เพื่อไม่ให้ถูกคุกคามจากเหล่าเพื่อนบ้านใน Silicon Valley เหล่านี้ ที่พร้อมจะย่างกรายเข้ามาตะครุบเหยื่อได้ทุกเมื่อ
1
ซึ่งก็ต้องบอกว่าปีที่แล้วเป็นปีที่ยากสำหรับเหล่าบริษัทเทคโนโลยี อัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น และการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยที่รุนแรงโดยธนาคารกลางสหรัฐฯ ได้ส่งผลกระทบต่อการเติบโตของภาคส่วนนี้ค่อนข้างสูง
2
แต่เมื่อล่วงมาถึงปี 2023 ดูเหมือนว่าความรุ่งเรืองของเทคโนโลยี AI ได้กระชากเหล่าบริษัทเทคโนโลยีขึ้นมาจากหลุมได้อีกครั้ง
“เราประเมินว่านี่เป็นโอกาสทางธุรกิจมูลค่า 800,000 ล้านดอลลาร์ในทศวรรษหน้า เนื่องจาก AI จะมีบทบาททั้งในภาคส่วนองค์กรธุรกิจและสำหรับผู้บริโภคโดยทั่วไป” Dan Ives นักวิเคราะห์ทางด้านเทคโนโลยีจาก Wedbush กล่าว
หลังจากที่ OpenAI ที่ได้รับการสนับสนุนจาก Microsoft ในเดือนพฤศจิกายนและได้ทำการเปิดตัว ChatGPT ซึ่งเป็น Chatbot “Generative AI” ที่สามารถตอบคำถาม เขียนอีเมล หรือแม้แต่ผ่านการทดสอบ MBA มาแล้ว เหล่านักลงทุนก็ได้เริ่มกลับมามองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับ AI ซึ่งทำให้บริษัทเทคโนโลยีหลายแห่งต่างแย่งกันเปิดตัวหรืออวดเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดของพวกเขาเพราะกลัวจะถูกทิ้ง
2
Dan Ives นักวิเคราะห์ทางด้านเทคโนโลยีจาก Wedbush (CR:USA Herald)
Google ได้เปิดตัว Chatbot อย่าง Bard ในเดือนกุมภาพันธ์ และตามมาด้วย Meta ที่เปิดตัว LLaMa ในเดือนเดียวกัน เทคโนโลยี Generative AI ยังใช้ในซอฟต์แวร์สร้างภาพใหม่ เช่น DALL-E 2 ของ OpenAI, Stable Diffusion และ Midjourney ซึ่งสามารถสร้างภาพที่เหมือนจริงจากการเพียงแค่ใส่ input ข้อความ
แต่ก็ต้องบอกว่า AI นั้นเป็นมากกว่าแค่ Chatbot และโปรแกรมสร้างรูปภาพ Ives ให้เหตุผลว่ามันจะกลายเป็นเทคโนโลยีที่พลิกเกมในระดับเดียวกับอินเทอร์เน็ตที่จะมีการใช้งานแพร่หลาย ซึ่งหมายความว่าแม้ท่ามกลางเศรษฐกิจที่สั่นคลอน เหล่านักลงทุนก็ไม่ควรรีรอ
3
“AI ที่ฉลาดล้ำสามารถทำลายล้างโลกเราได้เกือบทุกภาคส่วน” Ives กล่าว โดยให้เหตุผลว่าเทคโนโลยีดังกล่าวฉลาดกว่ามนุษย์มาก ๆ อยู่แล้ว
JPMorgan กำลังใช้ AI เพื่อช่วยทำนายพฤติกรรมของ Federal Reserve และ Plantir บริษัทซอฟต์แวร์ AI ของ Peter Thiel กำลังมี demand แบบไม่เคยปรากฎมาก่อนสำหรับแพลตฟอร์มข่าวกรองในสนามรบ
สำหรับ Ives มองว่าผู้นำตัวจริงเสียงจริงของเทคโนโลยี AI ในตอนนี้คือ Microsoft ซึ่งเขาเชื่อว่าบริษัทของ Satya Nadella จะสามารถแย่งชิงส่วนแบ่งการตลาดในธุรกิจ Search Engine จาก Google ได้ เนื่องจากมีการรวม ChatGPT เข้ากับ Bing ในเครื่องมือค้นหาของพวกเขา
“สำหรับ Microsoft โอกาสในการสร้างรายได้จาก Bing นั้นมีอยู่มหาศาล” เขากล่าว “ทุก % ของส่วนแบ่งที่แย่งชิงมาจาก Google จะนำไปสู่การเกิดใหม่ของ Bing ซึ่งสามารถเปลี่ยนเป็นเม็ดเงินโฆษณามูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์”
Microsoft ยังอยู่ในสถานะที่ดีที่จะได้กำไรจากการพัฒนา AI ในช่วงเริ่มต้นเนื่องจากธุรกิจคลาวด์อย่าง Azure ซึ่ง Scott Guthrie รองประธานบริหารกลุ่มคลาวด์และ AI ของ Microsoft ได้ให้รายละเอียดไว้ว่า Microsoft ได้ทุ่มเททรัพยากรเป็นเวลาหลายปีในการสร้างทรัพยากรทางด้าน supercomputing ในธุรกิจคลาวด์เพื่อช่วยสนับสนุนเทคโนโลยี AI
3
Scott Guthrie รองประธานบริหารกลุ่มคลาวด์และ AI ของ Microsoft (CR:GeekWire)
ในขณะที่ Ives เชื่อว่า Microsoft เป็นผู้นำด้านนคลาวด์คอมพิวติ้งที่ทำให้พวกเขาเป็นผู้นำตลาดที่ชัดเจนในการแข่งขันด้าน AI ในขณะนี้
Ives ยังได้ตั้งข้อสังเกตด้วยว่า บริษัทอื่น ๆ รวมถึงยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีอย่าง Google , Apple , Meta , Nvidia และ Amazon รวมถึงบริษัทขนาดเล็กเช่น C3.AI และ SoundHound จะต่อสู้กันในทศวรรษหน้าและใช้จ่ายเงินหลายพันล้านในการเดิมพันกับธุรกิจนี้
1
ซึ่งโดยรวมแล้ว เหล่านักวิเคราะห์เชื่อกันว่า AI จะเป็นธีมเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดในรอบหลายทศวรรษ และนักลงทุนควรรีบฉวยโอกาส เพราะธีม AI จะเป็นหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงมากที่สุดที่เราจะได้เห็นในรอบ 22 ปีของการ Boom ขึ้นมาในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีนั่นเองครับผม
3
◤━━━━━━━━━━━━━━━◥
หากคุณชอบคอนเทนต์นี้อย่าลืม 'กดไลก์'
หากคอนเทนต์นี้โดนใจอย่าลืม 'กดแชร์'
คิดเห็นอย่างไรคอมเม้นต์กันได้เลยครับผม
◣━━━━━━━━━━━━━━━◢
The original article appeared here https://www.tharadhol.com/game-ai-of-thrones/
ติดตามสาระดี ๆ อัพเดททุกวันผ่าน Line OA ด.ดล Blog
คลิกเลย --> https://lin.ee/aMEkyNA
รวม Blog Post ที่มีผู้อ่านมากที่สุด
——————————————–
ติดตาม ด.ดล Blog เพิ่มเติมได้ที่
=========================
โฆษณา