ไล่มาตั้งแต่ ยุคคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ที่ Microsoft เอาชนะ Apple ไปได้ ถึงขั้นที่ว่า Steve Jobs ต้องสูญเสียอำนาจในการควบคุม Apple ในยุคนึงเลยทีเดียว ก่อนที่จะมาคำรามได้อีกครั้งในการกลับมาในคำรบที่สอง
2
หลังจากนั้น เรียกได้ว่า การแข่งขันทางด้านเทคโนโลยี ดุเดือด เลือดพล่าน ทุ่มเทสรรพกำลังกันแบบหมดหน้าตัก อินเทอร์เน็ต , Ecommerce , Search Engine , Social Media , Smartphone , Tablet ซึ่งเราจะได้เห็นกลุ่มผู้เล่นเดิม ๆ ที่บดบี้กันแบบสนุกมาก ๆ ทั้ง Micrososoft , Apple , Google หรือ แม้กระทั่ง Meta เจ้าพ่อโซเชียลมีเดีย
เมื่อเวลาผ่านไป ทุกฝ่ายต่างไปตั้งฐานที่มั่นในธุรกิจที่ตัวเองถนัด เพื่อไม่ให้ถูกคุกคามจากเหล่าเพื่อนบ้านใน Silicon Valley เหล่านี้ ที่พร้อมจะย่างกรายเข้ามาตะครุบเหยื่อได้ทุกเมื่อ
JPMorgan กำลังใช้ AI เพื่อช่วยทำนายพฤติกรรมของ Federal Reserve และ Plantir บริษัทซอฟต์แวร์ AI ของ Peter Thiel กำลังมี demand แบบไม่เคยปรากฎมาก่อนสำหรับแพลตฟอร์มข่าวกรองในสนามรบ
สำหรับ Ives มองว่าผู้นำตัวจริงเสียงจริงของเทคโนโลยี AI ในตอนนี้คือ Microsoft ซึ่งเขาเชื่อว่าบริษัทของ Satya Nadella จะสามารถแย่งชิงส่วนแบ่งการตลาดในธุรกิจ Search Engine จาก Google ได้ เนื่องจากมีการรวม ChatGPT เข้ากับ Bing ในเครื่องมือค้นหาของพวกเขา
“สำหรับ Microsoft โอกาสในการสร้างรายได้จาก Bing นั้นมีอยู่มหาศาล” เขากล่าว “ทุก % ของส่วนแบ่งที่แย่งชิงมาจาก Google จะนำไปสู่การเกิดใหม่ของ Bing ซึ่งสามารถเปลี่ยนเป็นเม็ดเงินโฆษณามูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์”
Microsoft ยังอยู่ในสถานะที่ดีที่จะได้กำไรจากการพัฒนา AI ในช่วงเริ่มต้นเนื่องจากธุรกิจคลาวด์อย่าง Azure ซึ่ง Scott Guthrie รองประธานบริหารกลุ่มคลาวด์และ AI ของ Microsoft ได้ให้รายละเอียดไว้ว่า Microsoft ได้ทุ่มเททรัพยากรเป็นเวลาหลายปีในการสร้างทรัพยากรทางด้าน supercomputing ในธุรกิจคลาวด์เพื่อช่วยสนับสนุนเทคโนโลยี AI
3
Scott Guthrie รองประธานบริหารกลุ่มคลาวด์และ AI ของ Microsoft (CR:GeekWire)
ในขณะที่ Ives เชื่อว่า Microsoft เป็นผู้นำด้านนคลาวด์คอมพิวติ้งที่ทำให้พวกเขาเป็นผู้นำตลาดที่ชัดเจนในการแข่งขันด้าน AI ในขณะนี้
Ives ยังได้ตั้งข้อสังเกตด้วยว่า บริษัทอื่น ๆ รวมถึงยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีอย่าง Google , Apple , Meta , Nvidia และ Amazon รวมถึงบริษัทขนาดเล็กเช่น C3.AI และ SoundHound จะต่อสู้กันในทศวรรษหน้าและใช้จ่ายเงินหลายพันล้านในการเดิมพันกับธุรกิจนี้
1
ซึ่งโดยรวมแล้ว เหล่านักวิเคราะห์เชื่อกันว่า AI จะเป็นธีมเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดในรอบหลายทศวรรษ และนักลงทุนควรรีบฉวยโอกาส เพราะธีม AI จะเป็นหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงมากที่สุดที่เราจะได้เห็นในรอบ 22 ปีของการ Boom ขึ้นมาในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีนั่นเองครับผม