24 มิ.ย. 2023 เวลา 07:24 • ประวัติศาสตร์

สงครามที่ "พลิกล็อค" ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์

ในประวัติศาสตร์ มีศึกสงครามหลายครั้งที่ฝ่ายที่กำลังพลน้อยกว่าสามารถพลิกกลับมาชนะอีกฝ่ายที่มีกำลังมากกว่าได้
สงครามที่ผมกำลังจะเล่าให้ฟังนี้คืออีกหนึ่งสงครามที่เรียกได้ว่าพลิกล็อคครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ นั่นคือ "ยุทธการที่ซัลซู (Battle of Salsu)"
ยุทธการนี้ไม่เป็นที่รู้จักมากนัก หากแต่นี่เป็นสงครามที่น่าจดจำที่สุดครั้งหนึ่ง เมื่อกองทัพเกาหลีสามารถบดขยี้กองทัพจีนที่มีกำลังพลมากกว่าฝ่ายตนกว่า 30 เท่า
ยุทธการที่ซัลซู คือศึกสงครามระหว่างกองทัพของราชวงศ์สุยแห่งแผ่นดินจีน สู้รบกับจักรวรรดิโคกูรยอแห่งเกาหลีในปีค.ศ.612 (พ.ศ.1155) โดยกองทัพราชวงศ์สุยได้บุกมาจากทางเหนือ บุกเข้ารุกรานโคกูรยอ โดยกำลังทหารฝ่ายราชวงศ์สุยมีมากถึง 1.1 ล้านนาย
2
ราชวงศ์สุยกับจักรวรรดิโคกูรยอนั้นมีความขัดแย้งกันมาตั้งแต่ค.ศ.598 (พ.ศ.1141) และทำสงครามกันมาตลอด หากแต่ครั้งนี้ ราชวงศ์สุยตั้งใจจะบดขยี้จักรวรรดิโคกูรยอให้เละจมดิน และคว้าชัยชนะกลับไปได้ซะที
1
องค์จักรพรรดิแห่งราชวงศ์สุยนั้นทุ่มเทสรรพกำลังเต็มที่ โดยให้ทหารจำนวน 300,000 นายเดินทัพล่วงหน้าไปปิดล้อมเมืองเปียงยาง ซึ่งเป็นเมืองหลวงของจักรวรรดิโคกูรยอ
ทางฝ่ายจักรวรรดิโคกูรยอนั้น มีทหารที่ทำหน้าที่รักษาเมืองอยู่เพียง 10,000 นายเท่านั้น น้อยกว่าทหารฝ่ายราชวงศ์สุยที่เดินทัพมาโจมตีกว่า 30 เท่า
หากแต่แม่ทัพฝ่ายราชวงศ์สุยก็ทำพลาด โดยแม่ทัพฝ่ายราชวงศ์สุยนั้นได้ตัดสินใจให้ทหารแต่ละนายแบกสัมภาระและเสบียงของตนติดตัวไปกันเอง
ทหารแต่ละนายจะได้รับข้าวและน้ำจำนวนมาก โดยแต่ละคนก็ต้องแบกสัมภาระของตนเอง ทำให้ทหารแต่ละนายนั้นเหนื่อยล้า ประกอบกับอากาศที่ร้อนขึ้นเรื่อยๆ เหล่าทหารจึงเหน็ดเหนื่อยและหงุดหงิด
ยิ่งเดินทัพไกลเท่าไร เหล่าทหารราชวงศ์สุยก็ยิ่งเหนื่อยล้า ทหารหลายนายก็โยนสัมภาระของตนทิ้ง และกว่ากองทัพของราชวงศ์สุยจะเดินทางมาถึงกำแพงเมืองเปียงยาง ทหารฝ่ายโคกูรยอก็ได้นำกำลังไปซุ่มโจมตีเรือเสบียงของราชวงศ์สุย ทำให้ไม่สามารถเข้ามาส่งเสบียงเพิ่มเติม เหล่าทหารจึงหิวโหยและอ่อนล้า
เรียกได้ว่ายังไม่ทันเริ่มรบ ทหารฝ่ายราชวงศ์สุยก็ไม่มีแรงจะรบแล้ว
เมื่อมาถึงหน้ากำแพงเมืองเปียงยาง ทหารฝ่ายราชวงศ์สุยนั้นก็ไร้เรี่ยวแรงจะโจมตี แม่ทัพฝ่ายราชวงศ์สุยจึงสั่งให้ถอยทัพ
1
ทหารฝ่ายจักรวรรดิโคกูรยอที่เห็นศัตรูจำนวนมากกว่าถอยทัพไป ก็เกิดฮึกเหิม และยกทัพตีทหารราชวงศ์สุยที่ถอยทัพ
1
ฝ่ายกองทัพราชวงศ์สุยจำนวน 300,000 นาย ได้ถอยทัพมาถึงริมฝั่งแม่น้ำซัลซู และมีตัวเลือกอยู่เพียงสองทาง
1.หันกลับไปต่อสู้กับศัตรู
2.ข้ามแม่น้ำ
1
ปรากฎว่ากองทัพราชวงศ์สุยเลือกทางที่สอง และได้พยายามจะข้ามแม่น้ำ หากแต่ก็ไม่สำเร็จ และสุดท้าย ก็ถูกทหารฝ่ายจักรวรรดิโคกูรยอซึ่งมีจำนวนน้อยกว่ามากสังหารจนหมดสิ้น
จากบันทึกนั้น ทหารฝ่ายราชวงศ์สุยนั้นล้มตายเกือบ 100% ทั้งกองทัพ โดยจำนวนทหารฝ่ายราชวงศ์สุยที่เสียชีวิตนั้นมีสูงถึงราว 300,000 นายเลยทีเดียว
นี่ทำให้สงครามครั้งนี้เป็นสงครามที่พลิกล็อคที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ และความพ่ายแพ้ครั้งนี้ ก็เรียกได้ว่าเป็นความอัปยศครั้งใหญ่ของราชวงศ์สุย
แม่ทัพฝ่ายราชวงศ์สุยถูกจับกุมและลงโทษ ถูกถอดยศเป็นสามัญชน ส่วนทหารอีกกว่า 1.1 ล้านนายก็ไม่สามารถจะบุกไปเอาชนะได้
1
เรียกได้ว่าเป็นสงครามที่น่าจดจำครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์
โฆษณา