ติดโควิดครั้งแรก รักษาตัวที่ไต้หวัน
ตั้งแต่ช่วงโควิดเริ่มระบาดแรกๆเมื่อปีท้ายปี 2019 จนถึงกลางปี 2023 หมีก็ไม่เคยมีประสบการณ์ติดโควิดเลย เพราะใส่หน้ากากอนามัยอย่างมิดชิด ล้างมือบ่อยๆ พ่นแอลกอฮอลล์ ครั้งนี้หมีไม่รอดจริงๆ หมีติดโควิดเป็นครั้งแรกจ้า!
ช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาหมีเริ่มตั้งใจดูแลรักษาสุขภาพร่างกายและใจของตัวเอง เพราะเมื่ออายุมากขึ้นได้เห็นโลกในมุมมองใหม่ๆที่กว้างขึ้น และเริ่มรู้สึกว่าช่วงนี้เสื้อผ้าคับ พุงยื่น เหนื่อยหอบง่าย ปวดเมื่อยบ่อย เพราะน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น หมีก็เลยเริ่มให้เห็นความสำคัญกับสุขภาพของตัวเอง โดยการเริ่มออกกำลังกายแบบเบาๆสำหรับผู้เริ่มต้นหลังตื่นนอน ทั้งคาดิโอ และเวทเทรนนิ่ง ลงทุนซื้อดัมเบลมาวางไว้ในห้องเลยนะเนี่ย
นอกจากนี้หมียังศึกษาโภชนาการอาหารที่ส่งผลต่อร่างกายและเวชศาสตร์ชะลอวัย เพื่อทำความเข้าใจแบบรู้จริงเพื่อที่จะได้ดูแลตัวเองให้ดี ไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐนะคะ
สองขีด แดงเข้มชัดๆ
Day 1
คือจริงๆแล้วแฟนเราติดโควิดมาก่อนหน้าเรา 3 วัน เราก็อาจจะรับช่วงต่อมาจากแฟนเพราะก่อนหน้า 3 วันนี้ เราไปกินไอศกรีมกับแฟน พอกลับถึงบ้านแฟนอาการออก คือ เจ็บคอ เวียนหัว เราวันต่อมาก็มีอาการเวียนหัว ร้อนๆหนาวๆ ซึ่งเป็นคาบเกี่ยวกับ PMS เราเลยไม่ได้เอะใจอะไร
สภาพที่นอนตอนเราแยกออกมานอนข้างนอก
วันมาทำงานวันอังคารตอนเช้า เราก็เริ่มมีอาการเวียนๆ จมูกไม่ค่อยได้กลิ่น จาม และมีน้ำมูกใสเล็กน้อย เมื่อทำงานตอนเช้าก็รู้สึกร้อนๆ หนาวๆ วูบวาบคล้ายจะเป็นไข้ พอตกเที่ยงพักกลางวัน เราไม่ได้กลิ่นและรสชาติของอาหารเลย ก็เอะใจแล้วว่าต้องติดโควิดมาจากแฟนแน่ๆเลย
หลังจากทานข้าวเสร็จเราก็จัดการตรวจโควิดด้วย ATK KIT แบบแหย่จมูก ปรากฎว่า “สองขีด” ชัดเจน เราก็จัดการแจ้งหัวหน้าและ HR ทำเรื่องขออนุญาตลาหยุดป่วยโควิด เราแจ้งทางบ้านและสามี ซึ่งตอนนั้นสามีอาการไข้ลดลงดีขึ้น
คลินิกเด็กและโรคทั่วไป Dr. Bear Clinic
จากนั้นเราก็โทรไปแจ้งคลินิกใกล้บ้านเพื่อขอพบแพทย์ ระหว่างทางกลับบ้านจากออฟฟิศ อาการหูอื้อ วิงเวียน มึนงง น้ำมูกไหล ไขขึ้นเป็นลำดับ เราต้องเดินจากออฟฟิศไปสถานีรถไฟฟ้าประมาณ 8 นาที นั่งรถไฟฟ้าไปอีก 30 นาที ต่อรถเมล์ขึ้นเขาไปหาหมอที่คลินิกอีก 15 นาที บวกกับวันนั้นอากาศที่ไทเปก็ร้อนอบอ้าวชึ้นแฉะไปหมด ไข้ขึ้นปรี๊ดเลยจ้า 39.7 องศา !!! คุณหมอให้เรานั่งรออยู่ข้างนอกคลินิกเพราะไข้เราสูงมากคงไม่ต้องการให้เราแพร่กระจายไปสู่คนอื่น แต่ก็นะ รอนานมาก ประมาณ 1.30 ชม.! คุณหมอถึงจะออกมาตรวจเรา ทรหดมาก
คุณหมอวินิจฉัยว่าอาการโควิดเราไม่เป็นอะไรมาก เลยให้ยาลดไข้ ยาฆ่าเชื้อ ยาแก้เจ็บคอ แก้ไอ แก้น้ำมูกไหล มาทานประมาณหนึ่งอาทิตย์ ค่าเสียหาย ค่าหมอและค่ายารวม 500 NTD ค่ะ เพราะเรามีบัตรประกันสุขภาพของไต้หวัน เลยจ่ายราคาประหยัดไปได้ พอถึงบ้านปุ๊ปเราก็กินยานอนเลยค่ะ เพราะไข้ขึ้นไม่ไหว ไม่ได้แยกห้องนอนกับแฟนนะคะ เพราะแฟนเรายังเวียนๆมึนอยู่ ก็กักตัวด้วยกันไปเลยค่ะสองสามีภรรยา ดูแลดูไข้กันไปพร้อมๆกันเลย แต่หมีแอบดีใจนะที่ได้กลับมานอนข้างๆแฟนอีก อิๆ
Day 2
เพราะกินยาลดไข้สองมื้อเช้าเย็น และก่อนนอน เลยทำให้เรามีแรงลุกขึ้นมากินข้าวกินน้ำ เดินไปเดินมาในห้องได้ อาการเจ็บคอเริ่มเจ็บแบบกลืนน้ำลายแล้วยังเจ็บจี๊ดเลย ก็เลยจิบน้ำไปเยอะๆ พอยาหมดฤทธิ์ไข้ก็ขึ้นสูงเลย อาการครั่นเนื้อครั่นตัว ไม่มีแรงเลย กลิ่นอาหารไม่ต้องพูดถึง ทั้งสองรูจมูกไม่ได้กลิ่นอะไรเลย ทานอาหารก็ไม่อร่อย ไม่มีรสชาติ เพราะไม่อยากอาหาร นอนซมจนเหงื่อไหลพลั่กๆ
ยาที่คุณหมอออกให้ เยอะจนไตพัง
Day 3
อาการดีขึ้นเพราะฤทธิ์ยาของทั้งสองมื้อ และก่อนนอน วันนี้ก็ต้องจิบน้ำเปล่าไปเรื่อยๆตลอดเพราะหวังให้อาการเจ็บคอและไข้ขึ้นได้ทุเลาลง แต่ก็ไม่ยังโอดครวญเหมือนเดิม เซ็งสุดๆ ยามไข้ขึ้น
จิบน้ำๆ
Day 4
สมาชิกครอบครัวที่เหลือติดโควิดกันหมด แต่มีอาการไอเพิ่มมาด้วย นี่ขนาดหมีปิดประตูห้องสนิทดีแล้วนะ ชามข้าว ตะเกียบ แก้วน้ำ สก็อตไบรท์ ก็แยกชัดเจนดีแล้ว ยังติดโควิดได้เลย
หลังจากเราทานยาครบตามกำหนดที่คุณหมอสั่งทั้งเจ็ดวันแล้ว อาการไข้ขึ้นก็ดีขึ้นมาก แต่เหลือคงเหลืออาการน้ำมูกไหล จมูกไม่ได้กลิ่น เจ็บคอเล็กน้อย และวิงเวียนศรีษะจากการทานยามากเกินไป มั้ง (เราเดานะ เพราะรู้สึกกระเพาะไม่ค่อยสบายดีเลย ท้องเสียด้วย) เราก็เลยรวบรวมพลังทั้งหมดไปทำงานในเช้าวันต่อไปเพราะรู้สึกเกรงใจเพื่อนร่วมงานมากที่ช่วยทำงานแทนในวันก่อนๆ ไปทำงานแบบซอมบี้นะ มึนๆ เดินช้าๆ 555
Day 15
เราตรวจโควิดด้วยตนเองแบบแหย่จมูกผลออกมาเป็นบวก แต่อาการจมูกไม่ได้กลิ่น กับน้ำมูกไหล ก็ยังเหมือนเดิม เราเลยอาศัย การนอนหลับให้เพียงพอ เลือกทานผักและผลไม้ กับจิบน้ำเปล่าบ่อยๆ และก็ล้างมือบ่อยๆ ใส่หน้ากากอนามัยให้มิดชิดเมื่ออยู่ท่ามกลางฝูงชน หวังว่าอาการ Long Covid นี้จะดีขึ้น
หลังจากวันนั้นเราก็จัดการเก็บกวาดห้องนอน เก็บผ้าปู หมอน ผ้าห่ม เสื้อผ้า เอาไปซักให้สะอาด และก็เช็ดลูกบิดประตูกับสวิตซ์ไฟด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรค ถึงแม้เชื้อโควิดมันได้กระจายไปตามซอกมุมทั่วทั้งบริเวณบ้านแล้ว แต่อย่างน้อยหมีก็ต้องการให้สภาพอากาศภายในห้องและในบ้านที่มีกลิ่นไอเหงื่อ และซากกระดาษทิชชู่ที่เช็ดน้ำมูก จางหายไปบ้าง
เปิดประตูหน้าต่าง รับลม
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
