24 มิ.ย. 2023 เวลา 12:00 • ธุรกิจ

ทำไมเด็กดื้อ ถึงมีโอกาสประสบความสำเร็จมากกว่า

ทำไมเด็กดื้อ ถึงมีโอกาสประสบความสำเร็จมากกว่า (เหตุผลที่เราควรสอนให้เด็ก ดื้อเป็น)
1
ผมใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการศึกษาเรื่องราวของคนที่ประสบความสำเร็จในสาขาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นนักธุรกิจ นักกีฬา นักพูด นักขาย หรือแม้แต่ความสำเร็จทางด้านการศึกษาของนักเรียน ผมค้นพบว่า มีลักษณะนิสัยอย่างหนึ่งที่คนเหล่านี้มักมีเหมือนคือ “นิสัยดื้อรั้น”
แจ็ค หม่า ดื้อรันไม่ฟังคำพูดของผู้เชี่ยวชาญที่บอกว่า “ประเทศจีนยังไม่พร้อมกับธุรกิจ E-commerce เพราะประชาชนยังไม่มีอินเทอร์เน็ตใช้แบบทั่วถึง” หรือ คุณท๊อป จิรายุสเองที่ดื้อรั้น ยังรันธุรกิจคริปโตอยู่ทั้งๆ ที่มีคนมากมายบอกว่าเงินดิจิตอลก็เหมือนแชร์ลูกโซ่ มันไม่มีอนาคตหรอก
คนประสบความสำเร็จ มักรู้ว่า เมื่อไหร่ควรดื้อรัน และเมื่อไหร่ควรเชื่อฟัง
แต่เมื่อพูดถึง “เด็กดื้อ” ผมเชื่อว่าคุณพ่อ คุณแม่หลายคนคงเข้าใจดีว่ามันเหนื่อยแค่ไหนกับการต้องเผชิญหน้ากับเหล่า ลูกๆ ที่เป็น “เด็กดื้อ” แต่เชื่อไหมว่าเด็กเหล่านี้อาจกำลัง “โชว์พรสวรรค์แห่งความสำเร็จ” อยู่ก็ได้
งานวิจัยชิ้นหนึ่งซึ่งถูกเผยแพร่โดยเว็บไซต์ time.com แสดงให้เห็นว่าเด็กดื้อมีโอกาสประสบความสำเร็จมากกว่าเด็กทั่วไป โดยงานวิจัยได้ติดตามเด็กตั้งแต่อายุ 9 ขวบจนกระทั่งเติบโตเป็นผู้ใหญ่อายุ 40 พบว่าเด็กที่ฝ่าฝืนกฎหรือต่อต้านพ่อแม่บ่อยครั้งมักจะกลายเป็นเด็กที่ประสบความสำเร็จเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่ เด็กเหล่านี้มักเติบโตเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ เป็นมนุษย์เงินเดือนที่มีรายได้สูง รวมถึงมีโอกาสในการประสบความสำเร็จทางการศึกษามากกว่าเด็กทั่วไป
นักวิจัยตั้งสมมติฐานว่า เด็กดื้อมักมีนิสัยชอบการแข่งขัน โดยเฉพาะการแข่งขันในห้องเรียนซึ่งนำไปสู่ผลการเรียนที่ดีขึ้น เด็กเหล่านี้มีแนวโน้มที่อาจเรียกร้องมากขึ้นเมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ พวกเขามีแนวโน้มที่จะพยายามเอาชนะเมื่ออยู่ในการเจรจาต่อรองเงินเดือน พวกเขาเต็มใจต่อสู้เพื่อผลประโยชน์ทางการเงินของตนเอง แม้จะต้องเสี่ยงกับการกระทบกระทั่งกับเพื่อนร่วมงานที่น่ารำคาญก็ตาม
หรือแม้แต่ในโลกธุรกิจเอง ก็พบว่า คนที่มีนิสัยดื้นรั้น ต่อสู้ไม่ถอยและไม่ยอมเสียเปรียบในการเจรจาต่อรอง มักมีโอกาสประสบความสำเร็จมากกว่าคนทั่วไป
อย่างไรก็ตาม “เด็กดื้อแบบมีเจตจำนงแข็งแกร่ง” และ “เด็กดื้อแบบเอาแต่ใจ” มักมีเส้นบางๆ กั้นอยู่. แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าลูกๆ ของเราเป็นคนแบบไหน ?
นักบำบัดกล่าวว่า เด็กที่มีเจตจำนงเข้มแข็ง มักเต็มใจทำสิ่งที่ถูกต้องมากกว่าทำตามกระแสของเพื่อนๆ พวกเขามักสามารถอธิบายเหตุผลเบื้องหลังการกระทำของตัวเองได้ หากผู้ปกครองหรือผู้ใหญ่สามารถกระตุ้น และเปลี่ยนแรงผลักดันเหล่านี้ไปสู่การกระทำที่ดี ทั้งในโรงเรียนหรือเพื่อจุดประสงค์ที่แท้จริงของตัวเด็กเอง เด็กเหล่านี้จะกลายเป็นผู้นำที่เข้มแข็ง พวกเขาพร้อมที่จะทำสิ่งที่ถูกต้องแม้ว่าจะต้องทำคนเดียวก็ตาม
ทั้งหมดฟังดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่ดี ผมเชื่อว่าพ่อแม่ทุกคนล้วนอยากให้ลูกของตัวเองกลายเป็นผู้นำที่ยอดเยี่ยมและเปี่ยมไปด้วยแรงบันดาลใจ เป็นลูกที่เข้มแข็งและประสบความสำเร็จ อย่างไรก็ตาม สิ่งเหล่านี้ก็ย่อมต้องแลกมาด้วยกับเวลามากมายที่อาจต้องสูญเสียไปกับการต่อสู้กับเด็กๆ โดยเฉพาะในวัยกำลังโต. คำถามคือ เราจะจัดการปัญหานี้อย่างไร ?
หนึ่งในวิธีที่พ่อแม่ ผู้ปกครองสามารถใช้ในการจัดการกับสถานการณ์ความขัดแย้งเหล่านี้ได้ คือ การเปิดช่องทางการการพูดคุยไว้เสมอ ฟังพวกเขา ขอให้พวกเขาอธิบายมุมมองของตัวเอง เมื่อเราฟังสิ่งที่พวกเขาคิด เราจะเริ่มจับได้ว่า พวกเขาเป็นเด็กมีเหตุผลหรือเป็นเด็กที่ขาดตรรกะ เราอาจยอมให้พวกเขาทำผิดบ้างในบางครั้ง ขณะเดียวกันก็กำหนดเงื่อนไขบางอย่างเอาไว้
ในชีวิตจริง มันก็คงรู้สึกเหนื่อยและยากที่คนเป็นพ่อแม่จะต้องมาเจรจากับว่าที่ทนายความอายุ 9 ขวบ อย่างไรก็ตามสิ่งที่ผมอยากฝากกับคุณพ่อ คุณแม่ คือพยายามงดใช้วิธีประเภท “ฉันเป็นแม่และลูกห้ามเถียงฉัน” ให้ได้มากที่สุด เพราะนั่นเสมือนการทำลายจุดเด่นของเด็กๆ ไป
==================================
เพราะเราเชื่อว่า “ความรู้” คือสิ่งเดียวจะเปลี่ยนชีวิต
คุณได้ กดติดตามเพจ The Founder เพื่อให้
"ความรู้ดี ๆ” ปรากฏบนหน้าฟีตของคุณทุกวัน
==================================
#thefounder
Image by storyset on Freepik
==================================
📌ช่องทางการติดตามเพจ “The Founder”
==================================
#thefounder #ธุรกิจ #พัฒนาตนเอง
โฆษณา