กาแฟไทยสู่เวทีระดับโลกผ่านคุณเจน กวินนาถ วีระวรเวท
คุณเจนบาริสต้าตัวแทนประเทศไทยจากเวที Thailand Barista Championship 2023 สู่การเดินทางเข้าแข่งขันในเวทีระดับโลก “World Barista Championship 2023” ณ กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ แน่นอนว่าเมื่อประกาศรายชื่อผู้ที่ผ่านเข้ารอบ Semi-Final 16 คนสุดท้ายแล้ว วงการกาแฟไทยก็คึกคักพอสมควร ในขณะเดียวกันก็มีอีกหลายคนที่ลุ้นกันอย่างใจจดใจจ่อถึงการแข่งขันรอบต่อไปของคุณเจน
Coffee Traveler มีโอกาสได้พูดคุยกับคุณเจนตอนที่เธอได้แชมป์ประเทศไทยใหม่ ๆ ถึงจุดเริ่มต้นและแพสชันของการเดินสายอาชีพบาริสต้าที่ไม่ได้เป็นช้อยส์แรกของการตัดสินใจว่าอยากจะทำอะไร แต่เมื่อการใช้ชีวิตอยู่ออสเตรเลียเป็นระยะเวลา 1 ปี กลายเป็นการนับหนึ่งของการก้าวเข้ามาสู่โลกกาแฟพร้อมพ่วงตำแหน่งบาริสต้าอย่างเต็มตัว โดยคุณเจนมีโอกาสได้เข้าไปทำงานในสาย Hospitality ในตำแหน่งรับออเดอร์และเสิร์ฟอาหารให้กับลูกค้า เมื่อทำงานมาสักระยะหนึ่งจึงได้เข้าไปทำในตำแหน่งบาริสต้า
“ตัวเราชอบทำขนมตั้งแต่เด็กซึ่งไม่เคยชอบหรือสนใจกาแฟเลย แต่มีโอกาสได้ไปเรียนที่เมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ในตอนนั้นเราได้เข้าไปทำงานเป็นพนักงานรับออเดอร์และเสิร์ฟอาหารจนได้มีโอกาสทำในส่วนของบาริสต้า ทำให้เรารู้สึกว่าสายงานนี้มีเสน่ห์ ตั้งแต่ตอนนั้นจึงหลงใหลในอาชีพนี้มาโดยตลอด เมื่อกลับมาประเทศไทยก็ได้เข้าทำงานในสายที่ตัวเองเรียนจบมาแต่กลายเป็นว่าเราไม่ชอบแล้ว จากนั้นเราก็ไปคุยกับกลุ่มเพื่อนที่เจอกันในออสเตรเลียซึ่งเรากินกาแฟคล้าย ๆ กัน ไลฟ์สไตล์คล้ายกัน เลยรวมตัวเปิดร้าน FIKA & CO. Cafe”
หลังจากคุณเจนกลับมาประเทศไทยและเปิดร้านในปี 2019 แน่นอนว่าเป็นเวลาเดียวกันกับสถานการณ์เชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้บรรยากาศภายในร้านของคุณเจนมีลูกค้าน้อยลง จนทำให้คุณเจนเริ่มรู้สึกเบื่อและตั้งคำถามกับตัวเองว่า “เราทำกาแฟเพราะเป็นอาชีพหรือเพราะชอบ” ซึ่งสุดท้ายแล้วคำตอบของคุณเจนยังคงเป็นความชอบและหลงใหลในสายอาชีพนี้ จึงตัดสินใจเริ่มลงแข่งขันในเวทีต่าง ๆ เพื่อพัฒนาตัวเองต่อไป
“เราเคยลงแข่งตั้งแต่ปี 2015 ในเวที Latte Art Smackdown ซึ่งเป็นสนามแรกจึงเกิดความตื่นเต้นและมือสั่นมากจนทำอะไรไม่ได้เลย ในตอนนั้นเลยคิดว่าการแข่งขันไม่น่าเหมาะกับเราแล้ว แต่เมื่อมาถึงในจุดที่รู้สึกว่าต้องพัฒนาต่อ การแข่งขันก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่ดี เพราะว่าในช่วงเวลาสั้น ๆ จะได้เรียนรู้อะไรเยอะมาก หรือเรียกว่าเป็น Super Advance Course ได้เลย”
ด้วยประสบการณ์ที่ได้รับจากสนามแรก ทำให้คุณเจนกลับมาพัฒนาฝีมือเพื่อเตรียมตัวต้อนรับสนามต่อไป โดยในสนาม Thailand Barista Championship 2023 คุณเจนใช้เวลาในการฝึกซ้อมพอสมควรเลยทีเดียว เพื่อให้ได้คอนเซ็ปต์ตามที่ตั้งใจไว้และสามารถนำมาปรับใช้ให้อยู่ภายในระยะเวลา 15 นาที ประกอบกับการฝึกซ้อมในด้านต่าง ๆ จนเกิดเป็น Routine เพราะฉะนั้นการฝึกซ้อมและความมุ่งมั่นในเป้าหมายจึงกลายเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คุณเจนเป็นตัวแทนประเทศไทยสู่การแข่งขันบาริสต้าระดับโลกได้ในที่สุด
“ทั้งหมดขึ้นอยู่กับว่าเรามีแพสชันขนาดไหน เพราะมุมมองการทำกาแฟหน้าร้านกับการแข่งขันคล้ายกันมาก เราสามารถเอาความรู้ที่ได้จากการแข่งขันมาปรับใช้กับหน้าร้านได้ ทุกคนมีโอกาสคว้าชัยชนะเพียงแต่ต้องใส่ใจรายละเอียดเหมือนกับบริการลูกค้าโดยการส่งต่อหรือสื่อสารสิ่งที่ตัวเองชอบออกไป สุดท้ายเวลา 15 นาที ตอนแข่งขันก็จะเหมือนการทำงานหน้าบาร์จริง ๆ เมื่อเกิดความผิดพลาดต้องแก้ไขปัญาหาเฉพาะหน้าได้”
มุมมองที่มีต่อการแข่งขันที่คุณเจนเล่าให้เราฟังในวันนั้น จึงไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมเธอคนนี้จึงเป็นหนึ่งใน 16 คนสุดท้ายของสนาม “World Barista Championship 2023”
แน่นอนว่าการแข่งขันกาแฟในเวทีระดับโลกย่อมเป็นที่จับตามองของเหล่าคอกาแฟทั่วโลก รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมกาแฟด้วย เนื่องจากเมล็ดกาแฟที่ผู้เข้าแข่งขันใช้นั้นมักถูกหมายปองเป็นพิเศษ เนื่องจากกาแฟที่ใช้แข่งขันโดยส่วนใหญ่เป็นกาแฟค่อนข้างหายาก หรือผลิตในปริมาณที่จำกัด (Micro lots) ซึ่งในการแข่งขันครั้งนี้คุณเจนเลือกใช้กาแฟจากไร่ The First Valley Coffee Estate ของพี่เอก สุวรรณโณ “Pink Sapphire” กาแฟที่เกิดจาก Jewel Series Experiment 2020/21
โดยใช้เฉพาะเชอร์รีกาแฟสีเหลืองผ่านกระบวนการหมักแบบ Temp Controlled Double Anaerobes Multi Microbes with Organic Compounds Enhanced หรือที่พี่เอกเรียกว่า Unique Process ซึ่งเป็นการหมักด้วยวิธีเฉพาะใช้กลุ่มจุลินทรีย์ที่คัดเลือกร่วมกับเนื้อผลไม้ภายใต้การควบคุมอุณหภูมิต่ำ ในระยะเวลา 20 - 24 ชั่วโมง แล้วนำมาตากแบบ DH&TC (Dehumidification & Temperature Control Room) ทั้งเปลือก และเก็บบ่มในรูปกายภาพแบบเชอร์รีแห้ง (Dried Cherry)
ในห้องปิดที่มีการควบคุมอุณหภูมิและความชื้นสัมพัทธ์คงที่เป็นระยะเวลานานกว่า 6 เดือน จนกลายมาเป็น Pink Sapphire เพื่อนคู่ใจของคุณเจนในสนาม “World Barista Championship 2023” เพราะฉะนั้นเวทีนี้จึงกลายเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของวงการกาแฟไทยเลยก็ว่าได้ เพราะนอกจากคุณเจนจะเป็นที่รู้จักในเวทีระดับโลกแล้ว กาแฟไทยเองก็จะเป็นที่รู้จักและหมายปองจากทั่วโลกด้วยเช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตามแม้ว่าคุณเจนจะไม่ได้เข้าสู่รอบไฟนอล แต่การพาตัวเองเข้าไปสู่รอบ 16 คนสุดท้ายได้ก็ถือว่าไม่ธรรมดา อีกทั้งการที่กาแฟไทยสามารถผ่านกรรมการระดับโลกจนเข้าไปสู่รอบนี้ได้นั้น ก็นับเป็นเครื่องหมายการันตีถึงคุณภาพของกาแฟไทยได้อย่างชัดเจนเลยทีเดียว Coffee Traveler ขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้คุณเจนสำหรับการฝึกซ้อมและกลับมาเดินหน้าต่อในสนามถัดไป
ร่วมเดินทางท่องโลกไปกับเราทั้งรูปแบบนิตยสารและออนไลน์
ติดตามข้อมูลข่าวสารความรู้ด้านกาแฟได้ตามลิงก์ด้านล่าง
Facebook : www.facebook.com/CoffeetravelerMagazine
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
