24 มิ.ย. 2023 เวลา 14:23 • ประวัติศาสตร์

LOVERS OF MODENA | คู่รักร่วมเพศที่ความตายก็ไม่อาจพราก

การค้นพบโครงกระดูกสองโครงที่ฝังร่วมกันจากสุสานโบราณในอิตาลีที่เดิมเคยเชื่อว่าเป็นของคู่รักต่างเพศ ทำให้ได้รับฉายา “คู่รักแห่งโมเดน่า” แต่เมื่อมีการศึกษาอย่างลึกซึ้งกลับพบว่านี่คือโครงกระดูกมนุษย์เพศชายที่นอนเคียงข้างกันมานานกว่า 1,500 ปี
โครงกระดูกทั้งสองถูกขุดพบจากสุสานโบราณบริเวณที่เรียกว่าสุสานชิโร เมน็อตติ (Ciro Menotti necropolis) ในเมืองโมเดน่า (Modena) ประเทศอิตาลีตั้งแต่เมื่อปีค.ศ.2009 สุสานดังกล่าวกำหนดอายุได้ช่วงราวคริสต์ศตวรรษที่ 4-5 ตรงกับช่วงอาณาจักรโรมันแยกออกเป็นโรมันตะวันออก-โรมันตะวันตก ตัวเมืองโมเดน่านั้นอยู่ในการปกครองของอาณาจักรโรมันตะวันตก
Credit : ARCHEOMODENA via BBC
ลักษณะของโครงกระดูที่พบจากสุสานแห่งนี้มีร่องรอยการบาดเจ็บที่สอดคล้องกับบาดแผลจากอาวุธซึ่งสอดคล้องกับภาวะสงครามที่เกิดขึ้นอยู่เนืองๆ จากการรุกรานของอนารยชนภายนอกกับความไม่สงบภายใน โดยโครงกระดูกสองร่างที่เรากล่าวถึงถูกพบฝังอยู่ร่วมกันในท่าทางที่ดูโรแมนติก มือของทั้งสองประสานกันอย่างสนิทสนมจนนักโบราณคดีตตั้งชื่อว่า “คู่รักแห่งโมเดน่า” ตามท่าทางของโครงกระดูก
Credit : ARCHEOMODENA via BBC
แต่ในเวลาดังกล่าว โครงกระดูกนั้นไม่สามารถระบุเพศได้เนื่องจากอยู่ในสภาพที่ไม่ค่อยดีนัก จึงสันนิษฐานตามภาพที่เห็นว่าโครงกระดูกทั้งสองคงเป็นคู่รักต่างเพศทั่วไป ทว่าการศึกษาใหม่ทำให้ทราบว่าแท้จริงโครงกระดูกทั้งสองเป็นเพศชาย ไม่ใช่ต่างเพศตามความเข้าใจเดิม
เทคโนโลยีที่เปิดเผยข้อมูลน่าสนใจเรียกว่าคราบโปรตีนบนเคลือบฟัน ดำเนินการโดยทีมวิจัยจากภาควิชามรดกทางวัฒนธรรม ม.โบโลญญ่า (Department of Cultural Heritage at the University of Bologna) คือ Federico Lugli กับ Giulia Di Rocco จากภาควิชาเคมีและวิทยาศาสตร์ธรณีวิทยาแห่งม.โมเดน่า (Department of Chemical and Geological Sciences at the University of Modena) และนักวิจัย Reggio Emilia
ทำการเก็บตัวอย่างจากฟันของทั้งคู่เพื่อนำมาศึกษา จึงพบร่องรอยของโปรตีนที่ชื่อว่า amelogenin isoform Y ซึ่งจะพบจากเคลือบฟันของผู้ชายเท่านั้น
เมื่อมีการระบุเพศจากโครงกระดูกได้สำเร็จ คำถามต่อมาคือพวกเขาทั้งสองคนมีความสัมพันธ์ต่อกันอย่างไร เป็นคู่เกย์ที่มาก่อนกาลหรือไม่? พิจารณาจากความเสียหายและบาดเจ็บของกระดูก นักวิชาการเสนอว่าพวกเขาอาจเป็นได้ทั้งพี่น้อง ญาติ ไปจนถึงคู่สหายสงครามซึ่งเสียชีวิตไปพร้อมกัน
บางทฤษฎีให้น้ำหนักกับการเป็นพี่น้องหรือญาติรุ่นราวคราวเดียวกันมากกว่าคู่รักคงเป็นเพราะโครงกระดูกทั้งสองมีอายุไล่เลี่ยกัน คือไม่เกิน 20 ปีขณะที่เสียชีวิต รวมถึงมุมมองของอาณาจักรโรมันขณะนั้นที่ไม่ได้มีทัศนคติทางบวกต่อรักร่วมเพศเท่าไร การถูกฝังอยู่ร่วมกันอาจเป็นเพราะพวกเขาเสียชีวิตพร้อมกัน ไปจนถึงเป็นคนในครอบครัวเดียวกันก็ได้
แต่อย่างไรก็ตามเราคงไม่อาจตัดแนวคิดที่ว่าพวกเขาเป็นคู่รักร่วมเพศหรือเกย์ออกไปได้ เพราะลักษณะท่าทางในการฝังนั้นมีความคล้ายคลึงกับตัวอย่างโครงกระดูกคู่รักที่พบจากแหล่งอื่นๆ แม้จะมีความคิดแง่ลบเกี่ยวกับ LGBT+ แต่ก็มีจักรพรรดิโรมันบางพระองค์สามารถเปิดตัวคนรักที่เป็นเพศเดียวกันได้ เช่น จักรพรรดิเฮเดรียน (Hadrian) ซึ่งครองราชย์ช่วงค.ศ.117-138 สามารถแสดงความรักที่มีต่อชายที่ชื่อแอนทินอส (Antinous) อย่างเปิดเผย
ข้อถกเถียงเรื่องเพศสภาพ (Gender) ของโครงกระดูกคู่รักแห่งโมเดน่ายังต้องเผชิญกับแนวคิดทางศาสนาที่ต่อต้านการเป็นรักร่วมเพศ เพราะในพื้นที่และยุคสมัยของพวกเขา ชาวโรมันตะวันตกเริ่มเข้ารีตเป็นชาวคริสต์มากขึ้น ซึ่งแนวคิดของคริสต์ศาสนานั้นไม่ได้เปิดรับเรื่องรักร่วมเพศและมองว่าเป็นพฤติกรรมไม่เหมาะสม ไปจนถึงการนำเสนอกฎหมายที่ต่อต้านความหลากหลายทางเพศในภายหลัง
คู่รักแห่งโมเดน่ากลายเป็นสัญลักษณ์ของการพิสูจน์ความรักนับตั้งแต่บริบทร่วมสมัยตอนที่พวกเขามีชีวิตอยู่ ไปจนถึงข้อถกเถียงของคนในยุคของพวกเขา และคงดำเนินไปจนกว่าที่จะมีหลักฐานด้านอื่นๆ ที่ให้น้ำหนักไปทางทฤษฎีใดทฤษฎีหนึ่งมากกว่านั่นเอง
References :
ช่องทางติดตามArchaeoGO
*ไม่อนุญาตให้คัดลอก (Copy) เนื้อหาและรูปภาพด้วยอาจติดปัญหาด้านลิขสิทธิ์ ถ้าชอบเนื้อหาสาระจากทางเพจ สามารถช่วยให้เรื่องราวของพวกเราไปไกลมากยิ่งขึ้นได้ง่ายๆ เพียงการแชร์ ฝากกดไลค์และติดตาม Archaeo GO เพื่อรับชมเนื้อหาใหม่ๆ เกี่ยวกับวัฒนธรรมและโบราณคดีไปกับเรา หรือเข้าชมบทความในรูปแบบเว็บไซต์ได้ทาง archaeogo.org
โฆษณา