25 มิ.ย. 2023 เวลา 12:27 • ธุรกิจ

สรุปเนื้อหาจาก Live : CONTENT CREATOR OF TOMORROW บรรยายโดย CK Cheong(Fastwork)

Live ตัวเต็มสำหรับคนที่อยากฟังครับ
วันนี้ได้มีโอกาสฟังงานสัมมนาออนไลน์ในหัวข้อ "CONTENT CREATOR OF TOMORROW" ซึ่งบรรยายโดยคุณ CK Cheong หรือ CK Fastwork มาครับ เป็นคนที่มีความคิดและมุมมองที่น่าสนใจเกี่ยวกับหลายๆเรื่องดีครับ
นอกจากนี้ ตัวหัวข้อ Content Creator นั้นก็เป็นสิ่งที่ผมสนใจอยู่แล้ว เลยมาเขียนสรุปไว้สำหรับอ่านเองและแชร์แก่คนอื่นๆครับ
CONTENT CREATOR OF TOMORROW
1) การเป็น Content Creator ไม่ได้ถูกจำกัดอยู่ที Platform โซเชียลมีเดียๆนั้น คุณสามารถทำได้ทุก Platform เพราะสิ่งสำคัญอยู่ที่ตัวเนื้อหา Facebook IG Tiktok เป็นเพียงแค่เครื่องมือ
2) ทำไม Content Creator จะมีบทบาทมากขึ้นในอนาคต :
2.1 คนโดนดึง Attention ไว้ในโลกโซมีเดีย เช่น ใน BTS คนส่วนใหญ่ใช้เวลาเล่นมือถือระหว่างเดินทาง
2.2 เป็นครั้งแรกที่เกิดการ Power shifts โดยกลุ่มคน 1% ไม่ได้วัดด้วยเงิน แต่วัดด้วย "ฐานเสียง (Follower)" โดย 1 ล้านผู้ติดตามอาจจะมีค่ามากกว่า 10ล้านบาทด้วยซ้ำ
3) ถ้าทำ Content เพื่อเงิน จะไม่รอด ไม่ยั่งยืน เพราะคนเลือกกด Follow เพราะชอบตัว Content นั้นจริงๆ
4) การเป็น Content Creator นั้นจะต้องให้โดยที่เราไม่ต้องร้องขออะไรจะดีกว่า เหมาะกับการสร้างตัวตน สร้าง Personal Branding ของตัวเองให้คนอื่นจำได้
5) แรงผลักดันในการทำ Content ทุกวัน ของ CK :
CK ไม่ได้มีแรงผลักดัน แต่มี "วินัย" ในการทำทุกๆวัน ไม่สนความรู้สึกตัวเองแต่ละวัน วันดี วันแย่ แค่ทำ Content ไปเรื่อยๆ -> ความสม่ำเสมอ (Consistency)
6) อุปสรรคของ Content Creator :
ไม่มี! ส่วนใหญ่คิดกันไปเอง เมื่อก่อนอาจจะมี เพราะเน้นเรื่องความหล่อความสวยของตัวบุคคล แต่ ณ ปัจจุบันวัดกันด้วยความรู้ ความคิดสร้างสรรค์ และตัวเนื้อหา Content นั้นๆ
7) อย่าคิดเยอะ ทำ Content เยอะๆ ไปเลย เราจะสามารถเรียนรู้ได้เร็วมากจากการทำจริง
8) โอกาส ช่องว่างในตลาด Contents :
CK ไม่ชอบคำนี้ เพราะ everybody is niche ทุกๆคนต่างกัน มีคน 100 คน มี100 เรื่องราวของตัวเอง ขายความเป็นตัวเองจริงๆเท่านั้น
9) เคล็ดลับประสบความสำเร็จของ Content Creator :
Post ทุกวัน ซ้ำๆ หลายครั้ง เพราะอัลกอริทึมให้รางวัลสำหรับความสม่ำเสมอของ Content
3
10) ในตลาด Content Creator นั้น Quantity = Quality -> ต้องทำ Content ที่ดีและสม่ำเสมอเข้าไว้
11) ถ้าคุณไม่มี Brand คุณคือสินค้าที่ถูกทดแทนได้ ถ้าไม่มี Brand เราก็เป็นแค่คนๆหนึ่ง เป็นข้อมูลๆหนึ่ง
12) ได้รับ Comments แย่ๆทำยังไง :
สัญญาณแรกของการประสบความสำเร็จคือการมีศัตรู แปลว่าเรามีจุดยืนของตัวเอง เค้าอาจเกลียด เค้าอาจรัก แต่เค้าไม่ลืมคุณอย่างแน่นอน
13) ระหว่างการสร้าง Personal Branding กับ Brand สินค้าปกติ :
Personal Branding ง่ายกว่าเยอะ เพราะผู้คนจำหน้าคนได้ แต่จำโลโก้ไม่ค่อยได้
14) CK ยกตัวอย่างพรรคก้าวไกล ถ้าให้ทุกคนวาดโลโก้พรรคก้าวไกลจริงๆ หลายคนน่าจะวาดผิดกัน แต่เกือบทุกคนสามารถจำหน้าคุณพิธาได้ เพราะคุณพิธามี Personal Branding ที่แข็งแกร่งมาก
15) เจตนาการทำ Content สำคัญ คนมองออกว่าเจตนาจริงๆคืออะไร ถ้าทำเพื่อขายของ คนอาจจะไม่เชื่อ เดี๋ยวนี้คนยอมจ่ายเงิน youtube premium เพราะไม่อยากดูโฆษณา ควรทำเพราะมีเจตนาที่จะช่วยจริงๆ
16) ร่างกาย ความสวย ความหล่อ เป็น Depreciation Asset
แต่ ความคิดเป็น Appreciation Asset
( ปล. ส่วนตัวชอบ Quote นี้มากๆครับ )
17) ความเห็นของการเข้ามาของ AI :
จะเข้ามา Disrupt หลายๆอย่าง ดังนั้น ควรใช้ AI เป็น Tools ในการสร้างและพัฒนา Brand
18) ให้ AI วาดรูปกับศิลปินวาดรูป ราคาต่างกัน เพราะรูปที่คนวาดนั้นมี Story ของผู้วาด คนชอบเรื่องราว คนไม่ได้ซื้อเพราะความสวยของรูป แต่ซื้อเพราะที่มาของรูป
19) นิทาน วัฒนธรรม เรื่องเล่าต่างๆ เป็นการ Add Value ให้กับสิ่งอื่นๆ ผู้คนมีเรื่องเล่า แต่ AI ไม่มี
20) วิธีการรักษาความเป็นตัวตน :
เป็นตัวของตัวเองอย่างแท้จริง มีคนรวยพอๆกับ Elon Musk เยอะ แต่ที่เขาดังเพราะเขาเป็นคน Post ข้อความลง Twitter ด้วยตัวเอง
21) ทำ Content เอง พิมพ์เอง ลงเอง เป็นตัวเองให้มากที่สุด ไม่ต้องมีสคริปต์
22) Taylor Swift รับงานร้องเพลงแต่งงาน แม้ดูไม่คุ้มค่าตัว แต่ Impact ต่อ brand นั้นมหาศาล ถูกพูดถึงกันเยอะ ดังนั้น เป็นตัวของตัวเอง และทำให้เข้าถึงได้ง่ายเข้าไว้
23) ปัญหาคนฉลาดจากการศึกษาในระบบ :
คนฉลาดในระบบหาคำตอบได้ดีมากๆ แต่ไม่ได้ย้อนดูคำถามว่าเป็นคำถามที่ถูกไหม เพราะโฟกัสแต่กับการหาคำตอบ ดังนั้น คำถาม > คำตอบ ถามเยอะๆ เราเรียนรู้จากคำถามมากกว่าคำตอบ
24) Content ที่ไม่ควรทำ :
เรื่องละเอียดอ่อนต่างๆ ไม่ควรโจมตีใคร อย่าลง Content ขายของเป็นหลักในช่วงแรกๆ
25) มีสินค้าจะขาย อย่าขายที่ตัวสินค้า แต่ให้ขายความรู้สึก
26) แม้ทุกคนจะเป็น Content Creator แต่ใช่ว่าทุกคนจะประสบความสำเร็จ แต่ถ้าไม่ทำ โอกาสประสบความสำเร็จ = 0 ทันที
27) ถ้าทำแล้วได้ผล การทำครั้งต่อไปจะง่าย
ขอบคุณที่อ่านมาจนจบครับ อาจมีความคิดของผมปนไปบ้างแต่เพื่อทำให้เรียบเรียงง่ายขึ้น และหวังว่าเนื้อหานี้จะมีประโยชน์กับใครหลายๆคนครับ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา