"Kevin Smith"
ผู้เชี่ยวชาญด้านของตัวละคร Batman และหนึ่งในทีมเขียนบทของ DC Studios ได้เปิดเผยในรายการพอดแคสต์ “Fatman On Batman” ว่า WB เคยติดต่อให้ "Christain Bale" กลับมารับบท Cameo เป็น "Bruce Wayne" ในหนัง "The Flash" อยู่หลายครั้ง ซึ่งนั่นเป็นความจริง แต่ Bale ก็ตอบปฏิเสธ WB ไป เพราะเขาเคยลั่นวาจาเอาไว้ว่าจะไม่กลับมาสวมชุด Batman อีก ถ้าหากว่าไม่มีผู้กำกับ "Christopher Nolan" เป็นคนทำหนัง ทีมผู้สร้างก็เลยต้องหันไปดึงเอา "George Clooney" มารับบท Cameo แทนนั่นเอง....
เหตุเกิดมาจากการที่หลังจาก "David Zaslav" ผู้บริหาร WB คนใหม่ ได้ทำข้อตกลงกับ "James Gunn" และ "Peter Safran" เพื่อมาเป็นผู้บริหารของ DC Studios อย่างเป็นทางการ และ Gunn ก็มีแผนงานในหัวของตัวเองอยู่แล้ว และในแผนนั้นก็จะไม่มี DCEU ยุคเก่าอยู่เลย ทำให้ Gunn และ Safran ต้องเปลี่ยนตอนจบของ The Flash อีกครั้ง(เคยเปลี่ยนไปแล้ว 2 ครั้ง) ให้เป็นแบบที่ไม่มี "Superman"(Cavill) กับ "Wonder Woman"(Gadot) อยู่ในฉาก อย่างที่ถูกถ่ายเอาก่อนหน้านี้
แล้ว Gunn ก็ใช้ไอเดียที่ว่า 'ถ้าเราอยากให้ Batman อยู่ในหนัง เราสามารถจะใช้ Batmanได้กี่คน???' ก็เลยเกิดตอนจบแบบที่ 3 ซึ่งใช้จริงในหนัง The Flash อย่างที่ผู้ชมได้เห็นกันในจอก็คือ "Bruce Wayne" ได้โทรหา "Barry" ในตอนท้ายเรื่อง
ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ Bruce จะเดินทางมาถึงศาลโดยมี Barry ยืนรอเขาอยู่ที่นั่น แต่ปรากฏว่าเมื่อ Bruce มาถึงกลับกลายเป็น "George Clooney" ที่เป็น Batman ในหนังเวอร์ชั่นปี 1997 แทน "Ben Affleck" ที่เป็น Batman ในไทม์ไลน์ปกติของเขา ก็เลยทำให้ Barry รู้ว่าเขาเดินทางผิดไทม์ไลน์อีกแล้ว!!!!
ฉากจบนี้ถ่ายทำกันเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยมี George Clooney มาทดสอบหน้ากล้องอยู่ 2 รอบ และใช้เวลาถ่ายทำกันอีกครึ่งวันเท่านั้น โดย Clooney บอกว่าเขาถูกผู้กำกับและฝ่ายบริหารของ DC Studios โทรมาชวนให้กลับไปเล่นเป็น Cameo อยู่ 2-3 ครั้ง ในทีแรกเขาก็ไม่อยากเล่น เพราะเขาไม่ชอบตัวเองในบทของ Batman ในหนังปี 1997 แต่สุดท้ายเขาก็ยอมกลับมาเล่นเพราะเล่นเป็นแค่ Bruce Wayne และไม่ต้องใส่ชุด Batman นั่นเอง....
#TheFlash #ChristinaHodson
#DCStudios #WBD #หนังMan
#JamesGunn #PeterSafran
#Batman #ChristianBale
#Brucewayne #DC
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
