27 มิ.ย. 2023 เวลา 09:11 • กีฬา

2 กองหน้าไทยบ้านไม่รวย แต่สู้ยิบตาจนมีเงินเดือนหลักแสน

ในชีวิตของนักฟุตบอลทีมชาติหลายคน ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ พวกเขาเกิดมาในครอบครัวที่ไม่ได้ร่ำรวยนัก แต่ก็กัดฟันสู้ จนประสบความสำเร็จได้เงินเดือนมั่นคง สามารถเลี้ยงดูพ่อแม่ได้
1
ผมอยากยก 2 case study ของกองหน้าไทยยุคปัจจุบัน ที่ทำให้เราได้รู้ว่า ถ้าเราไม่มีทุนทรัพย์ ชีวิตเราจะมีโอกาสน้อยกว่าคนอื่น แต่ถ้าหากสู้สุดใจ ก็อาจไขว่คว้าโอกาสนั้นเอาไว้ได้เช่นกัน
คนแรก คือศุภชัย ใจเด็ด กองหน้าวัย 24 ปี จากบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
ศุภชัยเป็นคนปัตตานี คุณพ่อ-คุณแม่ มีอาชีพรับจ้างเก็บรังนก ไม่ได้ร่ำรวยเงินทองอะไร แต่ตัวเขาก็ตั้งใจเล่นฟุตบอลตั้งแต่เด็ก จนใครๆ ก็ยอมรับว่ามีแวว
ในวัย 12 ปี โรงเรียนปทุมคงคาเปิดคัดตัวนักกีฬาที่กรุงเทพฯ โดยจะเอาเด็กๆ ที่มีพรสวรรค์แค่ 10 คนเท่านั้น ศุภชัยกำเงินก้อน 1,500 บาท นั่งรถไฟจากปัตตานี ขึ้นมาคัดตัว และสุดท้ายได้รับเลือกเป็นคนที่ 10 พอดี
ศุภชัยตั้งใจเล่นอย่างเต็มที่กับปทุมคงคา เขาได้เป็นกัปตันทีมโรงเรียน ลงแข่งทั้งฟุตบอล 7 สี และฟุตบอลไพรม์มินิสเตอร์ คัพ และในวันหนึ่งที่ปทุมคงคา เตะเกมอุ่นเครื่องกับสโมสรโอสถสภา "โค้ชโต่ย" ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย โค้ชเยาวชนของโอสถสภาเห็นแววพอดี จึงคว้าตัวมาร่วมทัพด้วย
สัญญาอาชีพฉบับแรกของศุภชัยกับโอสถสภา อยู่ที่เดือนละ 4,500 บาท แม้จะไม่มากแต่นั่นคือเงินก้อนแรกของเขา
ศุภชัยพัฒนาตัวเองต่อไปเรื่อยๆ จนติดทีมชาติชุด u-19 และเป็นที่สนใจของสองทีมใหญ่ในไทยลีก ทั้งเมืองทอง และ บุรีรัมย์ แต่ศุภชัยเลือกบุรีรัมย์ และย้ายไปด้วยราคาค่าตัว 10 ล้านบาท และสัญญาฉบับแรกกับบุรีรัมย์เขาได้เงิน 50,000 บาท ซึ่งตัวเจ้าภูมิใจที่สุดแล้ว
จากวันนั้นมา ศุภชัยก็มีรายได้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนปัจจุบันอยู่ในตัวเลขเดือนละ 5 แสนบาท ในวัย 24 ปี ศุภชัยวางแผนการเงินอย่างรอบคอบ มีการแบ่งไปซื้อกองทุน และซื้ออสังหาริมทรัพย์ ณ เวลานี้ มีบ้านสามแห่ง คือที่บุรีรัมย์ กรุงเทพ และ ปัตตานี คือพอมีเงินแล้ว ต้องวางแผนการเงินอย่างชาญฉลาด
1
กองหน้าทีมชาติไทยอีกคนที่มีประวัติเรื่องครอบครัวลำบากมาก่อน คือ ฟรองซ์-ปรเมศย์ อาจวิไล หัวหอกจากเมืองทอง ยูไนเต็ด ที่มีอายุเท่าศุภชัย ใจเด็ด (24 ปี)
ปรเมศย์ เกิดในชุมชนคลองเตย พ่อแม่ทำอาชีพรับจ้างทั่วไป เขาเป็นลูกคนที่ 4 จากทั้งหมด 5 คน โดยปรเมศย์ หารายได้เสริมช่วยครอบครัวด้วยการรับจ้างเดาะบอลโชว์
เวลามีงานแข่งฟุตบอลต่างๆ มีอีเวนต์อะไร เขาก็จะขอผู้จัดงานไปเดาะบอลเปิดหมวกโชว์ ส่วนใหญ่จะได้เงิน ในช่วง บางวันได้เงิน 70-100 บาท แต่ครั้งที่ได้เยอะสุด เคยได้เงินถึง 9,000 บาท
ชื่อเสียงของเขาในฐานะนักเดาะบอลรุ่นจิ๋ว ไปเข้าหูสปอนเซอร์รายหนึ่ง และจ่ายเงินให้เขาถึง 1 แสนบาท แลกกับทุกครั้งที่ไปเดาะบอล ให้ใส่เสื้อผ้าที่เป็นของแบรนด์ยี่ห้อนั้น
1
ชีวิตของปรเมศย์เริ่มดีขึ้น หลังจากตอนอายุ 15 ปี ได้โควต้าเข้าไปเรียน ที่โพธินิมิตวิทยาคม ที่เป็นอะคาเดมี่ของเมืองทอง จากนั้นได้เซ็นสัญญาอาชีพครั้งแรกได้เงินเดือน 5,000 บาท ฉบับที่สองได้ 7,000 บาท และในช่วงก่อน AFF ครั้งล่าสุด เขาได้เงินเดือน 55,000 บาท
1
สัญญาฉบับปัจจุบันของปรเมศย์ถูกเซ็น หลังจากเขาช่วยทีมชาติไทยคว้าแชมป์ AFF ได้สำเร็จ โดยมีผลงานยิง 1 ประตูที่ฮานอยด้วย และคราวนี้ รายได้ก็สามารถอัพขึ้นไปถึงหลักแสนต่อเดือนได้สำเร็จ (150,000 บาท) คราวนี้พ่อแม่ไม่ต้องลำบากเหมือนเดิมอีกแล้ว
เราจะเห็นได้ว่า เส้นทางของนักเตะทีมชาติไทยนั้น ไม่ได้ง่ายดายเสมอไป บางคนเกิดในครอบครัวที่ไม่ได้สบายนัก แต่พวกเขาอดทน ทำหน้าที่ของตัวเองไป ฝึกปรือฝีมือไปเรื่อยๆ รอวันที่ฟ้าเปิด โอกาสมาเมื่อไหร่ ก็ไขว่คว้ามันมาครองได้ทันทีครับ
โฆษณา