เปิดเผยบทสนทนา “การเจรจายุติเหตุไม่สงบกับปริโกซิน” จากปากของ “ลูกาเชนโก”
27 มิถุนายน 2023 “อเล็กซานเดอร์ ลูกาเชนโก” ได้มีกล่าวแถลงการณ์ที่ทำเนียบประธานาธิบดีเบลารุส โดยมีใจความสำคัญอยู่ที่เรื่อง “เนื้อหาการเจรจากับปริโกซินในการยุติเหตุจลาจลในรัสเซีย” ทางเพจได้สรุปรวบรวมเนื้อหาที่เป็นประเด็นเด่นจาก Belta สื่อท้องถิ่นของเบลารุสมาไว้ในบทความเดียวนี้ (ข้อมูลอ้างอิงทั้งหมดอยู่ด้านล่าง)
“ลูกาเชนโก” ได้แถลงเกี่ยวกับบทสนทนาในการเจรจาไว้ดังนี้ (ทางเพจแปลมาไม่ได้เป๊ะๆ แต่ใช้ภาษาที่อ่านแล้วเข้าใจง่าย)
เมื่อ “ช่วงเวลาแห่งความวุ่นวาย” อย่างที่ปูตินเรียกมันกำลังเกิดขึ้นในรัสเซีย ทุกคนที่นั่นนั่งตัวสั่นเทาอยู่ในมุมของตัวเอง ทุกคนที่แต่เดิมเก่งในการโบกกำปั้นและกล่าวใส่ไฟ “บีบ” คู่ต่อสู้หลังแมตซ์ มันจึงมีเหตุผลที่ผมต้องการพูดเกี่ยวกับเหตุการณ์เหล่านี้ซึ่งผมเองก็อยู่ในมุมมืดมิดเช่นกันในตอนนั้น
เมื่อวันศุกร์ที่ 23 มิถุนายน ตอนแรกผมไม่ได้สนใจรายงานข่าวที่กระจัดกระจายจาก “รอสตอฟ” มากนัก ผมคิดแต่เพียงว่าเมื่อมีสงคราม เป็นเรื่องปกติที่ข่าวสารรอบตัวจะมีเกิดขึ้นมากมาย ไม่เป็นหมวดหมู่ และต้องใช้เวลากรองพิจารณา แต่เมื่อถึงเช้าวันเสาร์ (24 มิถุนายน) ผมได้รับข้อมูลที่น่าเป็นห่วงจากทางฝั่งรัสเซีย เมื่อ FSB ของรัสเซียได้รายงานแจ้ง KGB ของเบลารุสว่า “ปูตินต้องการติดต่อผมด่วน”
เมื่อ 10:00 น. ของวันที่ 24 มิถุนายนที่ผ่านมา “ปูติน” กล่าวแถลงการณ์ฉุกเฉินในรัสเซีย หลังจากนั้นเวลา 10:10 น. ปูตินโทรหาผมและแจ้งรายละเอียดให้ผมรู้ ผมตระหนักดีว่าสถานการณ์ในรัสเซียมีความซับซ้อนและมีการตัดสินใจที่เด็ดขาดแล้ว ความคิดของพวกเขาคือ “ต้องการกำจัดปริโกซิน”
ผมแนะนำปูตินไปว่าเขาไม่ควรเร่งรีบและควรพูดคุยกับ “ปริโกซิน” และผู้บัญชาการของเขาก่อน “มันไม่มีประโยชน์” ปูตินพูด “เขา [ปริโกซิน] ไม่รับโทรศัพท์” ผมเลยถามปูตินว่า “ตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน?” “ในรอสตอฟ” เขาตอบ และผมจึงพูดว่า “สันติภาพที่ไม่สมบูรณ์ยังดีกว่ามีสงครามใดๆ ผมจะพยายามตามตัวเขาให้ได้” ปูตินกับผมคุยกันได้ครึ่งชั่วโมง เขาบอกผมว่าเกิดอะไรขึ้นที่แนวรบหน้า ผมยังจำได้ว่าเขาพูดว่า “มันน่าแปลก หลายอย่างกำลังดีขึ้นที่แนวหน้า แต่กลับเกิดเหตุในรัสเซีย”
เวลา 11:00 น. ผมได้โทรหาปริโกซิน โดย Yevkurov (คนที่ทำการเจรจากับปริโกซินในตอนนั้น) เรียกเขามารับสายผม ผมรู้สึกว่าตัวเขาไม่ได้เครียดอะไรในช่วง 30 นาทีแรก เราคุยกันเรื่องสัพเพเหระ
แต่แล้วพอผมพูดกับเขาว่า “ไม่มีใครให้ ‘ชอยกู’ หรือ ‘เกราซีมอฟ’ แก่คุณหรอก คุณรู้จักปูตินพอๆ กับผม เขาจะไม่พบกับคุณหรือแม้แต่คุยโทรศัพท์กับคุณหากมีการตั้งเงื่อนไขนี้” เขาเงียบ แล้วเขาก็ตะโกนใส่หูผมว่า “เราต้องการความยุติธรรม! พวกเขากำลังกลืนกินเรา! เราจะไปเคลื่อนพลไปที่มอสโก!” และผมก็พูดกับเขาว่า “พวกเขาจะทุบคุณเหมือนแมลงเมื่อคุณไปถึงครึ่งทาง” เขาตอบกลับ “ไม่พวกเขาจะไม่ทำ”
ผมใช้เวลานานในการพยายามพูดเกลี้ยกล่อมเขา ในที่สุดผมก็บอกเขาว่า “ถ้างั้นทำในสิ่งที่คุณต้องการ แต่อย่าถือโทษโกรธผมเลย เราได้เตรียมกองทหารไว้แล้ว และเราพร้อมที่จะปกป้องมอสโกเหมือนในปี 1941” และนี่ไม่ใช่เพราะรัสเซียคือปิตุภูมิของเรา แต่เป็นเพราะหากการจลาจลนี้แพร่กระจายไปทั่วรัสเซีย เบลารุสจะเป็นรายต่อไป
ผมบอกสื่อเบลารุสว่า อย่ายกย่องผมเป็นฮีโร่ในสถานการณ์นี้ รวมถึงทั้งปูตินหรือปริโกซิน เพราะเราทุกคนต่างเงียบและปล่อยผ่านเรื่องนี้มานานจนสถานการณ์มาถึงจุดนี้ และเมื่อมันเริ่มพัฒนาขึ้น ทั้งปูตินและผมคิดว่ามันจะมอดไปเอง แต่ก็ไม่เป็นเช่นนั้น และในอีกทางคนที่มีประสบการณ์สองคน [ชอยกู กับ ปริโกซิน] ที่เคยผ่านศึกกันมากำลังเผชิญหน้ากัน บางครั้ง “ชอยกู” ถูกวิพากษ์วิจารณ์โดยไม่มีเหตุผลที่ดี แต่ผมเชื่อว่าเขาสามารถรับรู้จะปรับให้ทำงานมีประสิทธิภาพดีขึ้นได้
เมื่อผมคุยกับปริโกซินเป็นครั้งที่สองหรือสาม ผมพูดว่า “เยฟกินี! จดจำคำพูดของผม ต้องไม่มีการนองเลือด มิฉะนั้นจะไม่มีใครหน้าไหนคุยกับคุณอีกเลย” เขาสาบานกับผมว่าจะไม่มีการนองเลือด นอกจากนี้เขายังกล่าวอีกว่าเขาจะไม่เรียกร้องให้ปูตินส่งตัวชอยกูหรือเกราซีมอฟให้เขาอีกแล้ว
หลังจากนั้นหลังเวลา 16:00 น. ของวันที่ 24 มิถุนายน เขาโทรหาผมและพูดว่า “ผม [ปริโกซิน] ยอมรับเงื่อนไขทั้งหมดของคุณ แต่ผมจะทำอย่างไร ถ้าเราหยุด พวกเขาจะเริ่มสังหารพวกเราทุกคน” ผมพูดว่า “พวกเขาจะไม่สังหารคุณ ผมรับประกันได้”
ผมได้ขอ Bortnikov (ผอ. FSB รัสเซีย) อย่างหนักแน่นว่าไม่ให้ทำ แต่เขากล่าวว่า “ผม [Bortnikov] ไม่ได้งี่เง่า ผมรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น” ดังนั้นผมจึงพูดกับปริโกซินและให้การรับประกันแก่เขาแทน ลูกาเชนโกพูดว่า “อะไรจะเกิดขึ้นต่อไป ผมจะพาคุณและพวกของคุณไปที่เบลารุสและรับประกันความปลอดภัยอย่างเต็มที่”
ในตอนเย็นของวันที่ 24 มิถุนายน ได้มีการติดตั้งแนวป้องกันนอกกรุงมอสโก พวกเขารวบรวมทุกคนที่ทำได้ ไปจนถึงนักเรียนนายร้อย ปูตินกล่าว ตำรวจก็อยู่ชุดกำลังสำรองอีกด้วย พวกเขารวบรวมทหาร 10,000 นาย ในเครมลินและบริเวณใกล้เคียง ผมกังวลว่าหากทหารวากเนอร์ปะทะกับกองทหารรัสเซียที่อยู่ห่างจากมอสโก 200 กิโลเมตร ทุกอย่างจะจบสิ้น
ผมขอให้ “ปริโกซิน” ติดต่อหา Bortnikov [ผอ. FSB รัสเซีย] “เขาไม่ตอบในตอนแรก” ต่อมาเขาบอก “เขาจะคุย” จากนั้นผมก็โทรหา Bortnikov และบอกให้เขารับสายถ้าปริโกซินโทรมาหาเขา ตอนนั้น Bortnikov โกรธมาก ผมขอให้เขาละทิ้งมันไว้ ดังนั้นการสนทนาของพวกเขาจึงได้เริ่มขึ้น หลังจากนั้นจึงมี “สัญญาณสิ้นสุดของการก่อรัฐประหาร” ปริโกซินบอกจะไม่เคลื่อนพลต่อแล้ว
หน่วยงานความมั่นคงรับประกันตามที่ “ปูติน” เคยกล่าวสัญญาไว้ วันนี้ “ปริโกซิน” ได้เดินทางมาที่เบลารุส อย่างที่ผมสัญญาไว้ ถ้าพวกคุณอยากใช้เวลาที่นี่โดยออกค่าใช้จ่ายเอง เราสามารถช่วยคุณได้ แต่อย่างที่ Khrenin (รัฐมนตรีกลาโหมเบลารุส) พูด “ผมไม่รังเกียจหน่วยวากเนอร์เข้ามาร่วมอยู่ในกองทัพ” ผมเห็นด้วยกับเขา เรายังไม่ได้สร้างค่ายใดๆ สำหรับกลุ่มวากเนอร์ แต่ถ้าพวกเขาต้องการให้เราสร้าง เราจะจัดให้ ในขณะนี้ พวกเขาพักอยู่ในค่ายของพวกเขาในภูมิภาคลูฮานสก์ เราได้เสนอฐานทัพที่ถูกทิ้งร้างให้พวกเขา
ในการเจรจาครั้งนี้ “ไม่มีใครเป็นฮีโร่” เพราะปูตินกับผมต้องโทษที่ไม่ดำเนินการให้เร็วกว่านี้ แต่เราก็สามารถหยุดเหตุการณ์เลวร้ายนี้ไว้ได้
เครดิตภาพ: BELTA
เรียบเรียงโดย Right SaRa
28th June 2023
- ■แหล่งข่าวอ้างอิง:
<เครดิตภาพปก: BELTA>
- 9
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
