29 มิ.ย. 2023 เวลา 04:00 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์

Transformers: Rise of the Beasts (2023) – จักรกลอสูรผงาด

นับตั้งแต่แฟรนไชส์ Transformers กลับมาตั้งต้นใหม่ด้วย Bumblebee หนังหุ่นยนต์แปลงร่างก็เริ่มหาหนทางในการกรุยทางหวนคืนสู่ความรุ่งโรจน์แบบที่แฟรนไชส์เคยเป็นช่วงแรก ๆ และมันก็นำพามาสู่สงครามแรกของเหล่าจักรกล ด้วยเหล่าจักรกลแม็กซิมอล ในสงคราม Beast War อย่าง Transformers: Rise of the Beasts
Transformers: Rise of the Beasts เล่าเรื่องในช่วงปี 1994 อดีตพลทหาร โนอาห์ ดิแอซ กำลังหางานใหม่อย่างขะมักเขม้น เพื่อช่วยเหลือครอบครัวที่อาศัยอยู่ในย่านบรูคลิน จนตัดสินใจขโมยรถหรู หากแต่ในช่วงเวลาเดียวกัน เอเลน่า ก็ค้นพบเข้ากับรูปปั้นนกโบราณที่มีอักขระ “แม็กซิมอล” ปรากฎอยู่ ฝ่ายออโต้บอตจึงตัดสินใจเรียกรวมพล ซึ่งโนอาห์และเอเลน่า จึงติดหางเลขเข้ามาอยู่ในสงครามระหว่างจักรกล ที่ต้องรับมือกับยูนิคอร์น ตัวร้ายที่เตรียมเดินทางข้ามมิติเพื่อมากลืนกินดวงดาว
ถึงแม้แฟรนไชส์ Transformers จะห่างเหินจากตารางหนังไปนานราว 5 ปี ตัวหนังจึงเปิดประเดิมให้เรารู้พื้นหลังเรื่องราวของภาคนี้ ที่แนะนำให้เรารู้จักพิภพของเหล่าจักรกลแม็กซิมอล ที่มีร่างแฝงแปลงกายคล้ายอสูรกึ่งสัตว์ ก่อนที่จะพาเราไปรู้จักกับตัวละครหลักฝั่งมนุษย์ประจำภาคนี้อย่าง โนอาห์ อดีตนาวิกโยธิน และ เอเลน่า นักศึกษาฝึกงานฝ่ายโบราณคดี ที่ต้องไขความลับที่เหล่าแม็กซิมอลได้ซ่อนไว้บนโลก ก่อนจะประดังมาด้วยฉากแอ็คชั่นประปรายระหว่างทาง ที่ให้กลิ่นอายแบบหนังล่าสมบัติ
ขณะที่ภาคที่แล้ว Bumblebee ทำหน้าที่เป็นหนังวัยรุ่นก้าวข้ามพ้นวัย ที่มีใจกลางเป็นหุ่นยนต์สีเหลืองแสนคุ้นตาเท่านั้น ภาคนี้ อย่างการผงาดของจักรกลอสูร ก็ทำหน้าที่ขยับขยายเป้าหมายหลัก ให้กลายเป็นเรื่องราวการเดิมพันด้วยการดำรงอยู่ของมนุษย์อย่างเต็มขั้น
หลังตัวหนังทำให้เรารู้ถึงภยันตรายของยูนิคอร์นในฉากเปิด และพลางทำให้เรารู้จักภูมิหลังคร่าว ๆ ของตัวละครฝั่งมนุษย์ ทั้ง โนอาห์ และ เอเลน่า ซึ่งก็ถูกใส่มา ที่แม้จะดูเหมือนให้ก่อเกิดอารมณ์ร่วมก็ตาม แต่ก็ดูจะเป็นตัวละครฟังก์ชั่น ที่ออกแบบมาเพื่อเอื้อต่อการขับเคลื่อนของพล็อตมากกว่า
สิ่งที่ตัวหนังภาคนี้ทำได้ดี คือการเติมมิติและหัวใจให้กับฝั่งหุ่นยนต์พอสมควร ทั้งการสะท้อนถึงการสู้เพื่อดาวบ้านเกิดของแต่ละฝ่าย การให้แต่ละฝ่ายอย่างหุ่นยนต์และมนุษย์ หรือกระทั่ง แม็กซิมอล และ ออโต้บอต เอง มีอุดมการณ์ในการต่อสู้ที่คล้ายกันแต่ต่างวิธี ทำให้เพิ่มมิติของแต่ละตัวละครได้มากขึ้น
น่าสนใจตรงที่ภาคนี้ แม้จะไม่ได้อยู่ใต้ร่มเงาของไมเคิล เบย์ แบบแฟรนไชส์ช่วงแรกที่เต็มไปด้วยความวินาศสันตะโรก็ตาม แต่ฉากแอ็คชั่นทั้งหลายแหล่ ก็ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดูพอสนุก ทั้งความหวือหวาตื่นตาของการแปลงร่างของหุ่นเหล็กยักษ์ รวมถึงฉากไคลแมกซ์ประจัญบานขนานใหญ่ ที่แม้จะคาดเดาได้ง่ายก็ตาม
แต่อย่างที่กล่าวไป แม้เรื่องราวจะถูกออกแบบมาเพื่อสร้างความบันเทิงล้วน แต่ก็เป็นเรื่องราวที่เต็มไปด้วยความจับพลัดจับพลูที่แสนง่ายดาย ทั้งการที่ตัวละครถูกใส่มาเพื่อฟังก์ชั่นต่อเรื่องล้วน ๆ ทั้งมีภูมิหลังนาวิกโยธิน เพื่อให้เอื้อต่อการลงไปมีส่วนร่วมกับฉากแอ็คชั่นในฉากไคลแมกซ์ หรือการให้เอเลน่าเป็นนักโบราณคดี เพื่อเป็นตัวละครที่สามารถไขปริศนาอักขระโบราณได้ หรือกระทั่งฉากเซอร์ไพร์ซในตอนท้าย ก็ดูเป็นการออกแบบเรื่องราวที่ดำเนินไปสู่ไคลแมกซ์หรือบทสรุป ที่คาดเดาได้อยู่ไม่น้อย
กระนั้นเอง หากมองที่ภาพรวม Transformers: Rise of the Beasts ที่แม้จะไม่ได้แปลกใหม่ หรือเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ของแฟรนไชส์ แต่ก็เป็นก้าวที่หวนกลับมาหากลิ่นอายอันแสนคุ้นเคย ภายใต้การพิทักษ์โลกจากการผนึกกำลังกันระหว่างมนุษย์และหุ่นยนต์ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างบันเทิงและเรามีความรู้สึกอยากเอาใจช่วยไปด้วย
สรุปแล้ว Transformers: Rise of the Beasts อาจจะมาไม่พร้อมความสดใหม่ หรือเป็นการสร้างมาตรฐานให้กับแฟรนไชส์ ประดังมาด้วยฉากแอ็คชั่นที่ดูพอสนุก พร้อมเติมด้วยมิติและจิตใจจากตัวละครฝั่งหุ่นยนต์ ที่ล้วนมีเป้าหมาย ภายใต้เนื้อหาเรื่องราวที่จับพลัดจับพลูจนคาดเดาได้ กับตัวละครฝั่งมนุษย์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อฟังก์ชั่นและขับเคลื่อนพล็อตเท่านั้น แต่มันก็เป็นการหวนคืนสู่กลิ่นอายเดิมที่แสนคุ้นเคย
3.5 / 5
Transformers: Rise of the Beasts (2023)
Directed by Steven Caple Jr.
Screenplay by Joby Harold, Darnell Metayer, Josh Peters and Erich Hoeber & Jon Hoeber
Story by Joby Harold
Based on "Transformers" by Hasbro

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา