Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
S
SixtyPlusYearsYoung
•
ติดตาม
30 มิ.ย. 2023 เวลา 04:07 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
เราใช้น้ำบาดาลกันมากขนาดไหน
เมื่อสัปดาห์ก่อนผมได้คุยกับเพื่อนรุ่นน้องกลุ่มหนึ่งถึงปัญหาที่น่าจะเกิดขึ้นในช่วงสองสามปีข้างหน้าเพราะภัยแล้งอันเนื่องมาจากภาวะเอลนิโญ่ที่คาดการณ์กันว่าจะรุนแรงอย่างที่เคยมีมาก่อนในบันทึกทางอุตุนิยมวิทยาเท่าที่เคยทำกันมา
หัวข้อสนทนาของเรามุ่งเป้าไปที่ภาคการเกษตรเป็นหลักเนื่องจากน้องๆ กลุ่มนั้นเป็นวิศวกรที่ทำงานเกี่ยวกับการพัฒนาแหล่งน้ำและระบบส่งน้ำเพื่อการเกษตร
หนึ่งในจำนวนนั้นให้ความเห็นว่า ต่อให้ไม่มีน้ำชาวนา ชาวไร่ ชาวสวน ก็คงต้องดินรนหาทางปลูกพืชกันจนได้เพื่อหารายได้มาเลี้ยงครอบครัว และปริมาณการใช้น้ำบาดาลจะเพิ่มสูงขึ้น
ถัดมาไม่กี่วันก็ให้บังเอิญเจอบทความที่พาดหัวเสียน่ากลัวว่า เราสูบน้ำบาดาลมาใช้กันเสียจนกระทั่งทำให้โลกหมุนเพี้ยนไปจากที่เคยเป็น [1]
ใครที่ชื่นชอบภาพยนตร์แนวไซ-ไฟ พออ่านหัวข้อแล้วอาจจะจินตนาการถึงภาพหายนะภัยใหญ่หลวงที่อาจเกิดขึ้นเมื่อแกนหมุนของโลกพลิกกลับจากที่เคยตั้งกลายเป็นตะแคง
ซึ่งก็อาจจะเกิดขึ้นได้ในอีกหลายร้อยล้านปีข้างหน้า แต่ไม่ใช่ในอนาคตอันใกล้แน่นอน และเมื่อถึงเวลานั้นสาเหตุคงไม่ได้มาจากการสูบน้ำบาดาล
หากจะอธิบายปรากฏการณ์นี้ด้วยภาษาที่เป็นวิทยาศาสตร์หน่อยก็ต้องไล่เลียงกันดังนี้[2],[3]
ประการแรก โลกหมุนรอบตัวเองโดยมีแกนสมมุติแกนหนึ่ง ลองนึกภาพลูกชิ้นปิ้งมีไม้เสียบที่กำลังหมุน ไม้เสียบคือแกนสมมุติอันนั้น ซึ่งแกนหมุนก็จะควงรอบตัวเองนิดหน่อยแบบเดียวกับการหมุนรอบตัวเองของลูกข่าง
ประการที่สอง การเคลื่อนที่ของมวลขนาดใหญ่บนผิวโลก ทำให้ตำแหน่งของแกนสมมุตินี้บ่ายเบนไปจากเดิมได้ มวลขนาดใหญ่ที่เคลื่อนที่ได้เร็วที่สุดก็คือน้ำ นักวิทยาศาสตร์พบมาหลายปีแล้วว่าการละลายของธารน้ำแข็งและน้ำแข็งขั้วโลกซึ่งส่งผลให้มวลน้ำที่เคยสะสมอยู่ในตำแหน่งแห่งที่ที่คงที่บนผิวโลกมานาน ตอนนี้กระจายไปในทะเลและมหาสมุทร ทำให้แกนหมุนของโลกควงมากขึ้นกว่าเดิม
ประการที่สาม มีการค้นพบอิทธิพลของการกระจายตัวของมวลน้ำที่มีต่อการบ่ายเบนแกนหมุนของโลกตั้งแต่ปี 2016 แต่แบบจำลองทางคณิตศาสตร์ที่พัฒนาขึ้นโดยโฟกัสที่การละลายของธารน้ำแข็งกลับไม่แม่นยำเท่าที่ควร จนกระทั่งล่าสุดได้มีการนำเอาปัจจัยเรื่องการกระจายตัวของมวลน้ำบาดาลที่ถูกสูบขึ้นมาใช้เข้ามาพิจารณาด้วย ซึ่งแบบจำลองก็สามารถคำนวณผลลัพธ์ได้อย่างแม่นยำ
ประมาณกันว่าในระหว่างปี 1993-2010 มีการสูบน้ำบาดาลขึ้นมาใช้คิดเป็นน้ำหนัก 2 ล้านล้านตัน หรือถ้าคิดเป็นปริมาตร น้ำที่มีน้ำหนักเท่านี้จะทำให้ระดับน้ำทะเลทั่วโลกสูงขึ้นได้ 6 มิลลิเมตร
ซึ่งการค้นพบข้อนี้ทำให้ทำนายการบ่ายเบนของแกนโลกแม่นขึ้นอีกตั้ง 4.3 เซนติเมตรต่อปี โดยพื้นที่ที่อ่อนไหวต่อการสูบน้ำบาดาลที่สุดคือในโซน mid-latitude หรือที่ประมาณเส้นแวงที่ 45 องศาเหนือ ซึ่งสอดคล้องกับข้อเท็จจริงด้านปริมาณการใช้น้ำบาดาลที่พบมากในทางตะวันตกของอมเริการเหนือและตะวันตกเฉียงเหนือของอินเดีย
ตามปรกติแล้วแกนหมุนของโลกสามารถแกว่งไกวได้มากถึงหลายเมตรต่อปี ดังนั้นการที่แกว่งเพิ่มขึ้นอีกเพียง 4.3 เซนติเมตรต่อปีจึงไม่ได้ส่งผลต่อสภาพภูมิอากาศหรือฤดูกาลอันใด
เรื่องนี้จึงเป็นเพียงรู้ไว้ใช่ว่า ถ้าจะห่วง ห่วงเรื่องใช้น้ำบาดาลมากจนหมดหรือเกิดแผ่นดินทรุดตัวดีกว่า สองข้อนั้นเป็นพายนะภัยใกล้ตัวของจริง
อ้างอิง
[1]
https://phys.org/news/2023-06-weve-groundwater-nudged-earth.html
[2]Rampant groundwater pumping has changed the tilt of Earth’s axis (
nature.com
)
[3] Humans Are Pumping So Much Water Out Of The Ground That Earth’s Tilt Is Changing (
forbes.com
)
การเกษตร
สิ่งแวดล้อม
โลกร้อน
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย