Hospital Playlist
เริ่มต้นเดือนใหม่ วันนี้มาชวนดู Hospital Playlist ค่ะ เป็นซีรีส์ตั้งแต่ปี 2020 พอได้ข่าวว่าผู้กำกับและคุณนักเขียนจะมีผลงานร่วมกันอีก เราเลยมาตามเก็บเรื่องนี้ค่ะ ถ้าใครคุ้นเคยกับมุกใน Reply 1988 (2015) และ Prison Playbook (2017) เรื่องนี้ก็ยังคงความฮากระจาย และไม่เหมาะกับการดูตอนกินข้าวด้วยประการทั้งปวง 🥹
ไม่รู้มีใครเป็นเหมือนกันไหม เวลาเริ่มดูซีรีส์เรื่องใหม่ๆ ถ้าซีรีส์ไม่ได้ดึงดูดเราใน 15-20 นาทีแรก เราไปต่อไม่ได้เลยค่ะ หรืออย่างแย่ที่สุดคือ 5 นาที ในยุคที่การดูซีรีส์เป็นเรื่องที่ทำได้ตลอดเวลา และมีให้เลือกมากมาย เหมือนเราบอกตัวเองว่าต้องเร็วนะ ซึ่งอาจจะทำให้พลาดซีรีส์ที่เราอาจจะชอบมากๆก็ได้ไป
และขอสารภาพว่าเราพยายามดู Hospital Playlist เกิน 5 รอบแล้วค่ะ จนแล้วจนรอดก็ไม่เคยก้าวข้ามฉากไฟดับได้ 5555 จนไปแอบชอบน้อง Med student ท่านหนึ่ง เพื่อนบอก งั้นเรื่องนี้ตอบโจทย์ ก็นั่นแหละค่ะ เลยมาตามเก็บจนจบ ดังนั้นจะบอกว่า นี่ไม่ใช่ซีรีส์ที่ย่อยง่ายนะคะ แม้จะเป็นซีรีส์ฟีลกู้ดก็ตาม
อ้อ..แล้วพอดูจบก็ชอบน้องMedท่านนั้นน้อยลงไปเลยค่ะ เพราะดูแล้วสงสารชีวิตหมอมากๆ วันๆเห็นกินแต่กาแฟ รามยอน ชีวิตไม่อยู่บ้าน ก็เข้าเวร ไม่เห็นจะได้กินดี นอนดี จนไม่อยากได้เวลาจากเค้าเลยค่ะ คุณหมอทุกท่านควรได้มีเวลาพื้นฐานให้ตัวเองบ้าง แง้ 🥲
สำหรับ Hospital Playlist เราจัดให้เป็นซีรีส์ที่ปลอบโยน Gen Y อย่างเข้าใจ พร้อมกับตบบ่า และโอบกอดเราอย่างอบอุ่น ชาวเจนวายจะต้องเลิฟแน่นอนค่ะ เพราะมันฮีลใจอย่างที่สุด และซีรีส์ยังพาเราไปเจอความสัมพันธ์แบบต่างๆ ที่ทำให้เราได้ตระหนัก ทบทวน และนึกถึงความสัมพันธ์ของเรากับคนรอบตัวเลยล่ะค่ะ และไม่แน่ว่าเราอาจจะเข้าใจคนอื่นๆมากขึ้นก็ได้
แต่สำคัญที่สุด เราควรจะอ่อนโยนและให้อภัยตัวเองได้เสมอ เพราะเวลาที่เราทำผิดพลาด คนอื่นอาจจะรู้สึกกับมันแค่แป๊บเดียว แต่กับเรา..มันเหมือนจะยาวนานตลอดไป เพราะฉะนั้น ต่อให้เจอเรื่องอะไรมา ก็ใจดีกับตัวเองกันด้วยนะคะ :)
ซีรีส์ชุดนี้มี 2 ซีซันแล้วค่ะ โดยจะมีซีซันละ 12 ตอน เฉลี่ยตอนละ 1 ชั่วโมง 20 นาที สำหรับเราซีซัน 1 ดูได้เพลินๆรวดเดียวจบเลยค่ะ แต่ซีซัน 2 เหมือนดูสารคดีตามติดชีวิตหมอ เราดูได้วันละไม่เกิน 2 ตอน เพราะมีหลายช่วงที่เนื้อหาทางการแพทย์ค่อนข้างเข้มข้น ต้องค่อยๆปรับใจ ปรับมู้ด ยอมรับว่ามีหม่นๆอยู่บ้างค่ะ แต่ฉากไหนโบ๊ะบ๊ะก็ยังหัวเราะจนกรามค้างเหมือนเดิม 5555
และซีรีส์เรื่องนี้ค่อนข้างแตกต่างจากซีรีส์หมอเรื่องอื่น เพราะเป็นการเล่าเรื่องธรรมดาๆที่เกิดขึ้นในแต่ละวันในโรงพยาบาล ดังนั้นใครเป็นสายชอบดูซีรีส์เพื่อความสนุก ก็อาจจะไม่ใช่แนวนะคะ แต่ถ้าใครเป็นสายซีรีส์ฟีลกู้ด คืนวันหยุดแบบนี้ ไม่มีแพลนไปไหน อยากหาอะไรดู เปิด Netflix ตอนนี้ได้เลยค่า
สำหรับวันนี้ต้องไปแล้วค่ะ (ไปลุ้นหวย 555)
เจอกันใหม่ blog หน้านะคะ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
