2 ก.ค. 2023 เวลา 01:32 • ความคิดเห็น
เวลาเราพูดถึงคำว่า สมาธิ ..สมาธิแบบไหน ..ที่จะช่วยลดละความโลภโกรธหลง สมาธิที่จะไปหยุดยั้งอารมณ์นึกคิด สมาธิที่จะทำให้รู้จัก คำว่าอารมณ์ รู้จักคำว่ากรรม เกิดเป็นปัญญาธรรมที่จิต คำว่า เกิดเป็นปัญญาธรรม เราก็มาเรียนรู้ฝึกหัด ในรอยทั้งสี่ขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า รอยยืนเดินนั่งนอน ด้วยจิตที่เป็นมัชฌิมา
เราก็ขออาราธนาเรียนรู้ศึกษาในรอยทั้งสี่ของท่าน รอยที่จะให้กายวาจาใจ มาอยู่สิ่งที่เรียกว่า ธรรม . ธรรมที่ไม่ได้มีเรื่องราวของอารมณ์ ธรรมที่ช่วยประคับประคองจิต ให้หลุดพ้นจากห่วงอบาย หลุดพ้นบ่วงกรรม หลุดจากการคล้องเวรกรรม ทั้งสิ่งที่มีชีวิตไม่มีชีวิต เมื่อเรานอบน้อม นำรอยทั้งสี่มาประพฤติได้มากเข้า จนสามารถทำกายนิ่งจิตเฉยได้ .
การที่จะทำกายให้นิ่งจิตเฉยได้
หากจิตไม่เกิดปัญญาธรรม มันก็ไม่สามารถจะแยกแยะ เรียบเรียงเหตุผล อะไรให้แก่จิตได้ จิตไม่มีความขันติบารมี ..อดทนที่จะบังคับ กายให้นิ่ง เป็นเหมือนเสาเหมือนหิน นิ่งจนเหมือนไม่มีตัวตน นิ่งเฉยที่ผจญลมฟ้าลมฝน ที่จิตเกาะเกี่ยวอยู่กับธาตุนะโมธาตุทั้งสี่ เรียนรู้จักสิ่งต่างๆ
เหมือนที่ว่า สิ่งต่างๆไหลมาแต่เหตุ เราก็เรียนว่ามันไหลมาจากตรงไหนบ้าง เราก็ค่อยดับ ปิดไม่ให้สิ่งที่ว่าไหลมาแต่เหตุเข้ามาสู่จิต ดับเหตุนั้นไป ทั้งกายทั้งวาจาใจ ก็จะค่อยหลุดพ้นจากโคลนตม หลุดพ้นจากอารมณ์ที่ห้อมล้อมจิต เค้าว่าเป็นคอกสามเหลี่ยม คอกความโลภโกรธหลงกักขังจิตอยู่ เป็นเหมือนปลักควาย
เมื่อจิตมันจมปลักควาย เดินวนในเข้าวงกต .เกิดเป็นความขี้เกียจขี้คร้าน ที่จะเสาะแสวงหา ทางเดินออกมาจากปลักควายไม่ได้ ก็เดินเป็นวงกลม กินแล้วนอน นอนแล้วกิน รื่นเริงกับอารมณ์นึกคิดในตัวตนมีอยากกับไม่อยาก หลงลืมนึกถึงความแก่เฒ่าชรา .ที่มีเวลาน้อยลงไปๆ จนวันตาย
การประพฤติปฏิบัติธรรม มาเดินยืนนั่งนอน ภาวนาพุทโธ เหมือนกับเรานำกายมาพายเรือทวนน้ำ ทวนกระแสอารมณ์ มีพายให้ยึดถือ คือว่า พุทโธ กายนั้นเป็นเหมือนลำเรือ จิตก็ตัวเรานั่งในเรือ พายด้วยสติด้วยจิตที่จับพาย คำว่าพุทโธ นอบน้อมในรอยของท่านมากระทำขึ้น ..สิ่งที่จะได้ เราก็จะค่อยรู้จักกรรม รู้จักอารมณ์ รู้จักโลกทีเป็นมายา จิตเราไปหลงไหลโลกเค้าเอง ยึดมายาโลกเอง
..สิ่งที่เป็นมายานำเกิดนำตาย มันอยู่ตรงไหนบ้าง ซ่อนเร้นตรงไหนบ้าง มันก็ซ่อนเร้นอยู่ที่ทรัพย์สินเงินทอง ทรัพย์สมบัติ บ้านช่องที่ไร่ที่นา สิ่งที่มีชีวิตไม่มีชีวิต ที่เราไปยึดถือหลงใหล นำพาเค้ามา ..มันยึดมายาของโลกว่ามีความสำคัญ สำคัญที่อารมณ์พาไปยึดถือว่าดีมีความสำคัญเป็นของเรา ใครมาแย่งชิงก็โมโหโกรธา สละออกไปเป็นทานเป็นบุญกุศลไม่ได้ ก็เสาะแสวงหามา ..มาเฝ้าถนุถนอม
.เค้าจึงว่า มันยึดถือ ..แม้ผ้าขี้ริ้วก็ยึดถือ..ยึดถือไปจนบ้านที่จิตอาศัยผุพังไป ..เหน็ดเหนื่อยเฝ้าทรัพย์สมบัติที่เอาไปไม่ได้ ..ดูเศรษฐีที่ป่วยติดเตียง ดูยาจกที่ป่วยติดเตียง เหมือนกันมั้ย เหมือนกันตรงไหน แตกต่างกันตรงไหน ที่นอนรอความตาย .เค้าว่าดูเค้าน้อยๆ แล้วก็กลับมาพิจารณาใคร่ครวญตัวเองให้มากๆ .
โลกให้มายา ..แล้วมายาเป็นลักษณะอย่างไร มันก็มีรายละเอียด มีความละเอียดอ่อน ที่จิตจะไปรู้จัก ไฟจะทำให้เห็นผู้อื่นไม่ใช่มิตร ซึ่งมีรายละเอียด มีความละเอียดละออ ..ในการศึกษาเรียนรู้ ..เพื่อที่จะหยุดยั้ง..ไม่สร้างกรรม สร้างบุญกุศลบารมี หนีเวรกรรม ท่านว่า การหนีเวรกรรม ..หากเราไม่รู้จักกรรม เราจะหนีเค้าไปได้อย่างไร มันหลุดพ้น พ้นทุกข์ที่ต้องเกิดๆตายๆไปไม่ได้เลย
เหมือนคนที่เกิดมาเป็นมนุษย์ ที่ชอบเกิด ..เกิดเรื่องชอบไม่ชอบ เกิดอารมณ์ นึกเกลียด นึกรักชอบ หลงกายวาจาใจ คนนั้นคนนี้..ชอบเกิด..ก็ไม่เคยนึกคิดใคร่ครวญ พิจารณา.ในสิ่งที่เกิดขึ้น ..อารมณ์ที่เกิดขึ้น นำพาให้เกิดอะไรบ้าง..ไม่เคยนำพาใคร่ครวญ พิจารณา ..ทุกข์หรือสุข ทุกข์สุขที่เป็นมายาของอารมณ์ที่เราหลงใหลเอง
เรื่องราวของพระพุทธเจ้า ที่ท่านแนะนำ ทั้งเศรษฐียาจก ให้ปฏิบัติธรรม สร้างบุญกุศล สมัยต้นพุทธกาล ท่านกระทำอย่างไร จนมีผู้บรรลุธรรมสำเร็จเป็นพระอรหันต์ เป็นพระเสขะ อะเสขะกัน ท่านมีการประพฤติปฏิบัติธรรมอย่างไร แม้แต่การสร้างบุญกุศลของอุบาสกอุบาสิกา ท่านกระทำด้วยกิริยาอาการของกายวาจาใจอย่างไรกันบ้าง ในการสร้างบุญกุศลไว้ในศาสนาขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านกระทำอย่างไร
แล้วคำว่าบุญกุศลนั้น เค้าเก็บไว้ที่ไหนกัน ..อุบาสกอุบาสิกาต้นพุทธกาล..จึงได้เกิดเป็นเทพบุตรเทพธิดา ท่านมีการกระทำด้วยกายวาจาใจอย่างไร
แล้วภาพเหล่านั้น ..มันก็ไม่มีให้เราได้เห็น ย้อนไปในสมัยต้นพุทธกาล .นั่นคือ สิ่งที่เราอยากจะเรียนรู้จัดในสิ่งที่สมัยต้นพุทธกาลท่านกระทำกัน .เราจะเดินตามรอยท่านไป ด้วยสติปัญญา ด้วยเรือนกายที่พ่อแม่เราสงเคราะห์ให้เรา
ขอให้จิตเราเป็นผู้มีความกตัญญูรู้คุณรู้จักพระคุณ ขอให้จิตข้าพเจ้านอบน้อมถ่อมตน ..อย่าเห็นตัวเองดีแล้วเลย ..ข้าพเจ้านอบน้อมสักการะบูชาในพระธรรมคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ขอให้เกิดปัญญาธรรมมีดวงตาเห็นธรรมเป็นที่พึ่งแก่จิตของข้าพเจ้าไปทุกภพทุกชาติ ขอให้พบธรรม สร้างบุญกุศลบารมี หนีเวรกรรมไปทุกภพทุกชาติ. ให้มีกายเป็นมนุษย์ครบอาการสามสิบสอง พรั่งพร้อมด้วยสติปัญญา มีความเฉลียวฉลาดทั้งทางโลกทั้งทางธรรม ..นำกายวาจาใจ เดินไปตามรอยขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเทอญ
โฆษณา