จากกรณีเกิดเหตุจลาจลขึ้น ในกรุงปารีส และหลายเมืองทั่วฝรั่งเศส หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงเด็กหนุ่มอายุ 17 ปีเสียชีวิต ระหว่างหยุดรถเพื่อขอตรวจค้น ในย่านนองแตร์ชาน ในกรุงปารีส เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน ที่ผ่านมา เนื่องจากเขาทำผิดกฎจราจร
ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความไม่พอใจให้กับประชาชน และออกมาประท้วงก่อนที่เหตุการณ์จะลุกลามบานปลาย กลายเป็นเหตุจลาจล ผู้ประท้วงยิงพลุไฟเข้าใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ และจุดไฟเผารถยนต์ ตลอดจนทรัพย์สินอื่นๆ มีรายงานการจับกุมผู้ก่อเหตุวุ่นวายมากกว่า 1,100 คนทั่วประเทศ
นอกจากนี้ยังมีรายงานการปล้นสะดมในหลายพื้นที่ รวมถึงกลางกรุงปารีส รัฐบาลส่งกำลังตำรวจ 40,000 นายเข้าควบคุมสถานการณ์ ด้านประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส เรียกประชุมคณะรัฐมนตรีฉุกเฉิน และขอให้ผู้ปกครอง ดูแลบุตรหลานวัยรุ่นให้อยู่แต่ภายในบ้าน และรัฐบาลฝรั่งเศสกำลังพิจารณา ‘ทุกทางเลือก’ เพื่อฟื้นคืนความสงบเรียบร้อย ซึ่งเหตุการณ์จราจล ในครั้งนี้ ยังคงบานปลาย
ล่าสุด วันที่ 2 ก.ค. 66 สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า เหตุการประท้วงของประชาชนทั่วประเทศฝรั่งเศส ในขณะนี้ ได้ลุกลามไปยังเมืองบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม และประเทศสวิสเซอร์แลนด์ แล้ว โดยมีร้านค้าถูกปล้นหลายแห่งในเมืองโลซานน์
ขณะเดียวกัน สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปารีส ประกาศเตือนคนไทยและนักท่องเที่ยวชาวไทยในฝรั่งเศส ให้เพิ่มความระมัดระวังในการเดินทาง หลีกเลี่ยงพื้นที่ชุมนุมและการออกจากที่พักในยามวิกาล ชหากไม่มีความจำเป็น ทั้งนี้ ขอให้ติดตามรายงานสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด และปฏิบัติตามคำแนะนำของทางการฝรั่งเศสอย่างเคร่งครัด