ตอนนี้กระแสสุดฮิตของของเล่น หรือ ART TOY กำลังตื่นตัวเป็นอย่างมาก แบรนด์ชื่อดังที่ได้รับความสนใจอย่าง “POP MART” ที่ล่อตาล่อใจด้วยกล่องสุ่มให้นักสะสมได้ตื่นเต้นและลุ้นกัน ทั้งครีเอเทอร์สร้างสรรค์งานออกมาอย่างงดงาม การผลิตงานที่ได้คุณภาพ ทำให้ POP MART อยู่ในกระแสของเหล่านักสะสมและตกคนเข้ามาเป็นแฟนคลับมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา
POP MART หรือที่คนจีนเรียกกันว่า เพ่าเพ่าหม่าเท้อ (泡泡马特: Pao Pao Ma Te) ก่อตั้งโดย หวางหนิง อดีตพนักงานบริษัท Sina Corporation เจ้าของแพลตฟอร์มโซเชียลอันโด่งดัง Weibo เขาลาออกเพราะอยากมีธุรกิจเป็นของตนเอง หลังจากนั้นก็เดินทางไปฮ่องกงเพื่อหาแนวทางและไอเดียในการทำธุรกิจก็พบกับร้านค้าปลีกชื่อ LOG-ON ที่ขายของหลากประเภท ก็สนใจจะทำธุรกิจที่มีคอนเซ็ปต์แบบนี้บ้าง จึงเปิดร้านชื่อ “POP MART” ร่วมกับเพื่อนๆ
แต่เกิดปัญหาเกี่ยวกับการบริหารจัดการอย่างมากไม่ว่าจะเป็นการจัดคลังสินค้า พนักงาน การให้คำแนะนำลูกค้า ทำให้ในปีพ.ศ. 2557 หวังหนิงตัดสินค้าอื่นๆ ออกไปเหลือเพียง ART TOY ที่เป็นกล่องสุ่ม เพราะเป็นที่นิยมที่สุดในร้าน
จุดที่โดดเด่นของ POP MART ที่ทำให้มีแฟนคลับไปทั่วโลกเลยก็คือการร่วมมือกับศิลปินมากมายเพื่อสร้างสรรค์ผลงานต่างๆ อย่างเช่น การเจรจากับศิลปินเข้ามาร่วมสร้างสรรค์ผลงาน อย่าง Kenny Wong ซึ่งเป็นเจ้าของผลงาน Molly สุดน่ารักที่สร้างยอดขายถล่มทลายไปมากถึง1,600 ล้านบาทในปีพ.ศ. 2563
นอกจากนี้ยังมีตัวดังตัวจิ๊ดที่มีนักสะสมคอยติดตามอีกมากมาย เช่น Skullpanda, Hirono, The Monsters
การร่วมกับพาร์ทเนอร์ระดับโลกอย่างเช่น The Walt Disney และ Universal Studios ซึ่งช่วยให้คนกลุ่มอื่นได้รู้จัก POP MART ด้วย นักสะสมสามารถหาซื้อ POP MART ได้ทั้งทางแพลตฟอร์มออนไลน์ หน้าร้านนับ 100 แห่ง และตู้ขายอัตโนมัติประมาณ 1,000 ตู้ ที่กระจายไปยังประเทศต่างๆ ด้วย ทั้งเกาหลี ญี่ปุ่น สิงคโปร์ เป็นต้น
การเติบโตของ Pop Mart International Group พุ่งทะยานอย่างต่อเนื่อง ในปีพ.ศ. 2562 บริษัทฯ มีรายได้รวม 2,510 ล้านหยวน ประมาณ 11,800 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตอยู่ที่ 49% ตัวการ์ตูนของ POP MART ครองตลาดเป็นสัดส่วน 67% และหลังจากหวางหมิงนำธุรกิจเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงเมื่อปลายปีพ.ศ. 2562 ทำให้มูลค่าทรัพย์สินพุ่งสูงขึ้นอีก 3 เท่า ปีพ.ศ. 2564 มีรายงานการเงินฉบับแรกของบริษัทฯ แสดงข้อมูลว่าบริษัทฯ มีกำไรถึง 63 % เป็นช่วงหลังจากเข้าตลาดหุ้นเมื่อสิ้นปีพ.ศ. 2563
POP MART จึงเป็นแบรนด์ผลิตของเล่นที่ประสบความสำเร็จทั้งในตลาดประเทศจีนและประเทศอื่นๆ เป็นอย่างมาก มีการผสมผสานและสร้างความเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใครให้เป็นจุดเด่น สร้างของเล่นให้กลายเป็นผลงานศิลปะที่มีมูลค่าให้ผู้คนสะสมและมีคุณค่ามากขึ้นเรื่อยๆ
ในประเทศไทยก็มีธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ POP MART มากขึ้นในช่วงนี้ ทั้งร้านขายปลีก การนำตุ๊กตา ART TOY มาตกแต่งของต่างๆ หรือคาฟ่ที่มีขายกล่องสุ่มด้วย ก็ทำให้เห็นว่าในประเทศไทยมีคนสนใจ POP MART มากพอให้เกิดธุรกิจเหล่านี้ขึ้นมาอีกด้วย