3 ก.ค. 2023 เวลา 14:30 • ความคิดเห็น

DailyMent VIII

สวัสดีทุกท่าน ๆ นะครับ กลับมาพบกับ DailyMent อีกครั้ง หวังว่าบ้านของแต่ละท่านคงจะได้รับความชื่นช่ำจากฝนที่โปรยปรายลงมาในช่วงวันที่ผ่านมากันอย่างทั่วหน้านะครับ วันนี้ก็มีไม่กี่เรื่องที่อยากมาแชร์กับทุกท่านนะครับ ซึ่งมีหัวข้อดังต่อไปนี้
เรื่องแรกเป็นเรื่องเกี่ยวกับโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดตรัง ระบุว่าเป็นพิธีถวายราชสักการะ พระบรมราชินยานุสาวรีย์ สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในวันคล้ายวันพระราชทานกำเนิดโรงเรียนปีที่ 107 ซึ่งนักเรียนทุกคน “ต้อง” เข้าร่วม ทั้งวันซ้อมและวันจริง ไม่ว่าจะฝนตกหรือแดดออกก็ตาม ใช้เวลาเรียนมาจัดการซ้อม ขณะที่วันจริง โรงเรียนจะงดเรียน 1 วัน (ปีนี้ตรงกับวันเสาร์)
ปรากฏว่า ได้มีผู้ร้องเรียนเข้ามายังเพจ นักเรียนเลว ได้กล่าวว่า ในวันซ้อม มีนักเรียนหลายพันคนต้องทนตากแดดในวันซ้อม จนมีอาการเป็นลมแดดขณะทำพิธี ต้องทนคุกเข่าบนพื้นหินกรวดร้อนเป็นชั่วโมง แล้วยังมี นักเรียนพยายามถอดรองเท้าเอามารอง ป้องกันหัวเข่าถลอก แต่ครูก็ห้ามไว้ไม่ให้ทำ อ้างว่าถ่ายรูปไม่สวย ขณะที่คณะผู้บริหาร ครู ตลอดจนศิษย์เก่า มีเต็นท์กันแดดกันฝนนั่งแยกต่างหากเช่นเดียวกับพิธีเมื่อปี 2565 (https://www.facebook.com/photo?fbid=319021173782364&set=a.220707720280377)
สำหรับพิธีดังกล่าว ทางครูแจ้งว่า ต้องเข้าร่วมทุกคน เว้นแต่จะมีใบรับรองแพทย์ ใครไม่เข้าร่วมจะไม่ผ่านประเมินกิจกรรมสาธารณประโยชน์ ซึ่งต้องมีการซ่อม ซ้ำยังครูบางรายขู่ว่าจะหักคะแนนในรายวิชาเรียนเป็นการส่วนตัว และหนุนบวกคะแนนให้คนที่เข้าร่วมพิธี ส่อให้เห็นว่าเป็นการ “บังคับ” อย่างชัดเจน
นอกจากนั้น ผู้ร้องเรียนยังระบุเสริมอีกว่า พิธีนี้เคยถูกเรียกร้องไปแล้วเมื่อปี 2563 ว่า พบเด็กเป็นลมและบาดเจ็บจำนวนมาก แต่ทางโรงเรียนกลับไล่ล่าหาคนแฉจนต้องลบโพสต์หนีไป
ประกอบกับระเบียบโรงเรียนว่าด้วยการคุมประพฤตินักเรียนปี 2563 ระบุว่า ห้ามมิให้นักเรียนดูหมิ่นสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์และสถานศึกษา หากละเมิดจะหัก 50 คะแนน (จาก 100 คะแนน) และห้ามมีพฤติกรรมกระด้างกระเดื่อง ก้าวร้าวครูและบุคคลอื่น หากละเมิดจะหัก 60 คะแนน ซึ่งหนักกว่าความผิดฐานทะเลาะวิวาทตัวต่อตัวโดยใช้อาวุธ ล่วงละเมิดทางเพศ (หัก 50 คะแนน) ซะอีกด้วย
จากเรื่องดังกล่าว แอดมินเห็นว่า หากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงทราบด้วยญาณวิถีใดแล้ว คงต้องเศร้าสลดพระราชหฤทัยเป็นอย่างมากแน่ เพราะหนึ่งในพระบรมราโชบายสำคัญของการปรับปรุงบ้านเมืองก็คือ การยกเลิกประเพณีหมอบคลาน จึงส่งผลให้การถวายบังคมที่ประกอบการหมอบคลานนั้น เปลี่ยนมาเป็นการโค้งศีรษะไปแทนตามธรรมเนียมสากล ต่อมาก็ได้มีการพัฒนาให้ผู้หญิงมาถอนสายบัว
ไม่แน่ใจว่า ทางคณะผู้บริหาร คณะครู ตลอดจนศิษย์เก่าทั้งหลายของโรงเรียนนี้ ได้ศึกษาประวัติศาสตร์กันบ้างหรือเปล่า? หรือสักแต่ว่าท่องจำเป็น “นกแก้วนกขุนทอง” เข้าไปสอบเสร็จแล้วก็ลืมกันหรือเปล่านะครับ ถึงได้ทำอะไรที่มันสวนกระแสแบบนี้ หากกล่าวแบบนี้ไป พวกท่านก็สามารถปรามาสแอดมินกลับมาได้ว่า มันคือวัฒนธรรมไทยที่แสดงออกถึงเอกลักษณ์ความเป็นไทย นู่นนี่นั่น...เราจึงต้องอนุรักษ์ไว้
ถ้าอย่างนั้น ไม่เป็นไรครับ ถ้าอยากจะให้มีการหมอบคลานก้มกราบอยู่ ได้ครับ ทำไปเลย แต่ถ้าจะทำก็ช่วยดู “กาลเทศะ” หน่อยนะครับว่า บริบทในช่วงนั้น ๆ เหมาะสมพอจะกระทำหรือไม่ เช่น สภาพแวดล้อมอำนวยหรือเปล่า รวมถึงสภาพร่างกายของแต่ละคนพร้อมไหม เพราะทุกอย่างล้วนไม่แน่นอน ถ้าจะถือสิ่งที่ทำกันมาให้เที่ยงแท้แน่นอน มองว่าเป็นสิ่งที่ทำต่อ ๆ กันมาอย่างเดียวแล้ว คุณคือคน “ขวางโลก” ครับ ถ้าหากมีนักเรียนตายเพราะลมแดดจากการทำพิธีที่เห็นว่า “ศักดิ์สิทธิ์” ละ คุณจะรับผิดชอบชีวิตเขาคนนั้นอย่างไรครับ
ที่สำคัญ ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะตั้งคำถามในเรื่องที่เห็นว่าแปลกหรือไม่เหมาะสมต่อสังคมที่ตัวเองอยู่ครับ อย่าคุกคามหรือไล่บี้คน ๆ หนึ่ง เพียงแค่เห็นต่าง เพราะนั่นคือพฤติกรรมของคน “อันธพาล” ไม่ใช่ “บัณฑิต” ครับ ขอฝากด้วยนะครับ
ฝากไปถึงคณะผู้บริหาร คณะครู ตลอดจนศิษย์เก่าทั้งหลายของโรงเรียนดังกล่าว รวมถึงสถานศึกษาต่าง ๆ ที่ยังคงยึดถือประเพณีต่าง ๆ ไว้ด้วยนะครับว่า จะทำอะไรก็ตาม “กาลเทศะ” เป็นสิ่งสำคัญและ “ชีวิต” แต่ละชีวิตล้วนมีค่า ถ้าจะต้องเสียใครไปเพราะการทำสิ่งที่ทำสืบต่อกันมาแล้ว มันช่างได้ไม่คุ้มเสียเอาซะเลยนะครับ จะบอกให้
เรื่องต่อมานะครับ เป็นเรื่องเกี่ยวกับประเด็น ส.ว. ผู้ทรงเกียรตินะครับ ที่ล่าสุดมีประเด็นว่า ไปให้สัมภาษณ์กับสื่อหนึ่ง ซึ่งในส่วนของการสัมภาษณ์ได้ระบุว่า “ไม่ใช่หน้าที่ของ ส.ว. จะรับฟังเสียงของประชาชน” พร้อมกับชี้ว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ไม่เหมาะสมกับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยเรื่องนี้ได้เปิดเผยกับสำนักข่าวญี่ปุ่นที่ชื่อว่า Japantimes (https://www.thansettakij.com/politics/569667 )
เมื่อประเด็นนี้ได้ถูกนำเสนอออกไป ก็ได้กลายเป็นกระแสที่ร้อนแรงอย่างมาก พอ ๆ กับอุณภูมิของความร้อนที่ใช้ในการเผาศพยังไงยังนั้น
แต่ก็ปรากฏว่า ส.ว. ท่านดังกล่าวก็ได้ออกมาแก้ตัวว่า ตัวเองไม่ได้กล่าวอย่างนั้น และไม่ได้ให้สัมภาษณ์กับ Japantimes ด้วย แต่เป็นสำนักข่าว Bloomberg ต่างหาก โดยรายละเอียดต่าง ๆ ได้มีการลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวไว้แล้ว (https://www.facebook.com/prapanth.koonmee/posts/pfbid0yDeTdEDynMravktZhWMVpaJqCNX3CjSde4NMKRAu3YCoP5xuQopNnqsu2619Gu73l)
โดยส่วนตัวของแอดมินแล้ว แอดมินไม่มีความคิดเห็นใด ๆ กับเรื่องนี้นะครับ ไม่ว่าเรื่องนี้จะจริงหรือเท็จก็ตาม แต่สิ่งที่อยากจะฝากไปถึงวุฒิสภาอันทรงเกียรติทั้งหลายว่า เวลาพวกท่านมาก็ไม่ได้มาด้วยความชอบธรรม ฉะนั้นหากพวกท่านยังดื้อด้าน ต้านทานความเป็นธรรมชาติทางประชาธิปไตยอยู่แบบนี้แล้ว พวกท่านก็จะได้ถูกขับไสออกไปอย่างไม่เป็นธรรมเหมือนกันแหละครับ
แต่จะด้วยวิธีการไหน แอดมินก็ไม่รู้นะครับ เพราะในหัวของแอดมินหนักสุดเห็นจะมีแต่กระถางต้นไม้ ไม่ก็ก้อนอิฐเท่านั้นครับ ขนาดใครต่อใครออกมาพูดก็แล้ว ว่าก็แล้ว ด่าก็แล้ว แต่ก็ยังไม่ยอมฟัง ทำตัวเป็นจระเข้ขวางคลอง ไม้หลักปักขี้เลนไปได้
แต่สำหรับท่านใดที่ยอมอ่อนข้อและหลีกทางให้กระแสแห่งการเปลี่ยนแปลงเข้ามาอย่างเต็มใจแล้ว แอดมินก็ขออนุโมทนาต่อท่านเหล่านั้นด้วย เพราะพวกท่านคือทรัพยากรบุคคลที่มีคุณค่าและประโยชน์ต่อสังคมอย่างแท้จริงครับ
.
DailyMent ของวันนี้ก็มีเพียงเท่านี้ครับ หวังว่าเราทุกคนจะได้มีโอกาสเห็น “ท้องฟ้าสีทองผ่องอำไพ ประชาชนย่อมเป็นใหญ่ในแผ่นดิน” กันอย่างทั่วหน้านะครับ ขอบคุณครับ
#AdminField #ชอบเล่าชอบแชร์แต่ไม่ชอบเป็นคนดีย์
#DailyMent #ลูกแม่แก้ว #สวมีไว้ทำไม
โฆษณา