รู้จัก "โซโบสไล" ตัวใหม่หงส์ นักเตะค่าตัวแพงที่สุดในประวัติศาสตร์ฮังการี
โดมินิค โซโบสไล (โซ-โบ-สะ-ไล) ถูกยกย่องว่า เป็นนักเตะฮังการีที่ดีที่สุด นับจากเฟเรนซ์ ปุสกัส แขวนสตั๊ดในปี 1966
เป็นคำชื่นชมที่ยิ่งใหญ่มาก ดูโอเวอร์ไปนิดๆ ด้วยซ้ำ แต่ถ้าคุณกางชื่อนักเตะฮังการีทั้งหมด นับจากปี 1966 ไล่มาทีละคน ก็ต้องยอมรับว่า มันไม่ใช่คำกล่าวที่เกินจริงแต่อย่างใด
ในสมัยเด็ก โซโบสไล มีไอดอลในใจคือคริสเตียโน่ โรนัลโด้
เขาเล่าว่า "ตอนผมอายุ 14 ในใจผมคิดแต่ว่าอยากเป็นคริสเตียโน่ โรนัลโด้ ก็เหมือนเด็กๆ หลายคนนั่นแหละ แต่พอผมโตขึ้น ผมเริ่มคิดถึงตัวเองมากขึ้น ผมไม่คิดอยากจะเป็นคนอื่นอีกแล้ว ชีวิตของผมก็ควรมีแค่ผมเท่านั้น"
"แต่โรนัลโด้ก็เป็นแรงบันดาลใจที่สำคัญนะ เพราะทัศนคติของเขาที่ทุ่มเท ทำงานหนักเพื่อความฝัน จนได้ทุกอย่างที่ต้องการ ดังนั้นผมเชื่อว่า ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้ ผมมีความฝัน และผมอยากจะไปให้ถึงฝันด้วย"
ด้วย Passion ที่อยากไปให้สูงที่สุด โซโบสไล ยอมรับว่าเขาไม่มีชีวิตวัยเด็ก เหมือนวัยรุ่นคนอื่นที่ได้ไปเที่ยว ไปดูหนังในโรง อะไรแบบนั้น เพราะชีวิตของเขาอยู่แต่ในสนามตลอด คือคนเราคงไม่ได้ทุกอย่างที่ต้องการ เมื่อเขาอยากประสบความสำเร็จมากๆ ในเชิงฟุตบอล ก็ต้องทิ้งสิ่งเร้าออกให้หมด
โซโบสไล ฝึกหนักมากกว่าเด็กรุ่นเดียวกัน แต่ละวันเขาซ้อมยิงไกลขั้นต่ำ 100 ลูก เพื่อให้กลายเป็นอาวุธเด็ดของตัวเอง ในเวลาไม่นาน โซโบสไล รับเหมายิงฟรีคิก เตะมุม และจุดโทษให้ทุกทีมที่ลงเล่น
โซโบสไล ย้ายไปอยู่ซัลซ์บวร์ก ตอนอายุ 18 และพัฒนาตัวเองอย่างรวดเร็วมากๆ จุดเปลี่ยนสำคัญคือในช่วงปี 2020 เขาจ้าง เชน ทูซัป โค้ชว่ายน้ำชาวสหรัฐฯ มาเสริมสร้างสภาพร่างกายให้แข็งแกร่ง ทำให้บอดี้ของเขาสมบูรณ์ยิ่งกว่าเดิม คราวนี้ไม่ใช่แค่สูง 186 ซม. เท่านั้น แต่รูปร่างยังหนาขึ้น แกร่งขึ้นอีกด้วย
ช่วงที่อยู่ซัลซ์บวร์ก โซไบสไล สนิทสนมกับเออร์ลิ่ง ฮาแลนด์เป็นพิเศษ เพราะเข้าใจความลำบากของเด็กหนุ่มนอร์เวย์ ที่ย้ายมาต่างแดน (ออสเตรีย) คนเดียว แบบไม่มีเพื่อน ครั้งหนึ่งตอนเขามาจากฮังการี ก็มาคนเดียวเช่นกัน ก็เลยเข้าใจกันดี
โซโบสไลเป็นคนสอนภาษาเยอรมันให้ฮาแลนด์ กินข้าวด้วยกัน ไปไหนมาไหนด้วยกัน ถึงวันนี้สองคนนี้ก็ยังสนิทกันอยู่
เรื่องฝีเท้าในสนามนั้น เจสซี่ มาร์ช เฮดโค้ชของซัลซ์บวร์ก เคยกล่าวถึงโซโบสไลว่า "โดมินิคคือความหวังของวงการฟุตบอลฮังการี เขาคือเฟเรนซ์ ปุสกัสคนต่อไป"
คำกล่าวของเจสซี่ มาร์ช ไม่ใช่เรื่องเกินจริง ในรอบ 30 ปีที่ผ่านมา เราแทบมองไม่เห็นนักเตะฮังการี ที่ก้าวไปสู่ระดับแถวหน้าของยุโรปได้ แต่โซโบสไล มีคุณสมบัติที่ดีพร้อม เขาเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกอย่างต่อเนื่อง ไม่มีอะไรเซอร์ไพรส์ที่เขาถูกแต่งตั้งเป็นกัปตันทีมชาติฮังการีตั้งแต่อายุ 22 ปี
ในปี 2021 โซโบสไล ย้ายจากซัลซ์บวร์กไปไลป์ซิกด้วยค่าตัว 20 ล้านยูโร กลายเป็นนักเตะฮังการี ที่ราคาแพงที่สุดในประวัติศาสตร์
เมื่อย้ายไปอยู่ไลป์ซิก ผลงานโดยรวมที่เยอรมันถือว่าสม่ำเสมอมาก ฤดูกาล 2021-22 ลงเล่น 45 นัดทุกรายการยิงได้ 10 ลูก ส่วนฤดูกาล 2022-23 ลงเล่น 46 นัด ยิงได้ 10 ลูก ทั้งสองซีซั่นพาไลป์ซิกได้แชมป์เดเอฟเบ โพคาล ทั้งคู่
เกร็ดเล็กๆ ในสนาม เกี่ยวกับโซโบสไล มีดังนี้
- ตำแหน่งที่แท้จริงของโซโบสไล คือมิดฟิลด์ตัวรุก (CAM) ตำแหน่งเบอร์ 10 แต่ปัญหาคือในวงการฟุตบอลปัจจุบัน ไม่ค่อยมีทีมไหนใช้แผนการเล่น ที่มีตำแหน่งเบอร์ 10 อีกแล้ว นั่นคือเหตุผลที่โซโบสไลต้องปรับตัวเองมาเป็น มิดฟิลด์ตัวกลาง (CM) ในสไตล์บ็อกซ์ทูบ็อกซ์ แบบหมายเลข 8 แทน
- โซโบสไล มีสถิติจ่ายคีย์พาส เฉลี่ย 2.3 ครั้งต่อเกม เป็นหนึ่งในนักเตะที่สร้างโอกาสให้เพื่อนได้เยอะที่สุดในบุนเดสลีกา
- สองฤดูกาลในบุนเดสลีกา เขาแอสซิสต์ได้ 16 ครั้ง มีความสม่ำเสมอมาก เป็นตัวเล่นเซ็ตพีซ ทั้งฟรีคิก และเตะมุม
- สองฤดูกาลในบุนเดสลีกา เขายิงได้ 12 ลูก แบ่งเป็นยิงไกลนอกเขตโทษ 5 ลูก และในเขตโทษ 7 ลูก เป็นตัวที่ส่องไกลได้อันตรายสุดๆ
- สามารถยิงไกลแบบ Knuckle Shot ให้บอลส่าย สไตล์โรนัลโด้ได้ แต่ยิงไกลแบบวางเท้าปกติก็ได้ ถือว่ามีความอันตรายหลายสไตล์
- ความเร็ว อยู่ในระดับที่โอเค ไม่ได้จี๊ดจ๊าด แต่สำหรับคนที่สูง 186 ซม. ก็นับว่าพอรับได้แล้ว (ในเกมฟีฟ่า มีค่าความเร็ว 77)
หลังจบฤดูกาล 2022-23 โซโบสไล ได้รับความสนใจจากทั้งเชลซี และนิวคาสเซิล แต่ไม่มีใครเดินหน้ารุกอย่างจริงจัง จนเปิดช่องให้ทีมที่ 3 นั่นคือ ลิเวอร์พูล
ทีมหงส์แดงนั้นต้องการมิดฟิลด์คนใหม่ และจะดีมาก ถ้าเล่นตัวรุกได้ด้วยบางสถานการณ์ นั่นคือเหตุผลที่พวกเขาต้องการตัวเมสัน เมาท์ จากเชลซี แต่ในเมื่อเมาท์จะเลือกไปแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ลิเวอร์พูลต้องเปลี่ยนไปอ็อปชั่นอื่น ที่มีความเป็นไปได้
ข่าวแรกสุดที่หลุดออกมา ว่าลิเวอร์พูลสนใจโซโบสไลแบบจริงจัง คือวันที่ 28 มิถุนายน รายงานจาก The Athletic บอกว่า เอเยนต์ส่วนตัวของโซโบสไล ชื่อ มัทยาส เอสเตอร์เฮซี่ เดินทางมาที่อังกฤษเพื่อพูดคุยความเป็นไปได้ในการย้ายทีม
เอเยนต์ของนักเตะยืนยันกับทีมหงส์แดงว่า แม้โซโบสไล มีสัญญาถึงปี 2025 ก็จริง แต่ก่อนสิ้นเดือนมิถุนายน 2023 นักเตะมี Release Clause ถ้าสโมสรไหนจ่ายเงินซื้อตัวเข้ามาที่ 70 ล้านยูโร ไลป์ซิกต้องตอบตกลงสถานเดียวเท่านั้น
การบ้านของลิเวอร์พูลจึงมีสองอย่าง อย่างแรกคือ ไปหักลบกันว่า 70 ล้านยูโร (60.1 ล้านปอนด์) สำหรับโซโบสไล เป็นค่าตัวที่คุ้มค่าหรือไม่ ควรไปหานักเตะที่ถูกกว่านี้ดีไหม ยิ่งถ้ามองว่า อเล็กซิส แม็คอัลลิสเตอร์ จ่ายมา 35 ล้านปอนด์แค่นั้นเอง
การบ้านอย่างที่สองคือ สมมุติว่าตกลงใจว่า "จะเอา" คุณสามารถโน้มน้าวโซโบสไล ให้ย้ายมาได้หรือเปล่า อย่าลืมว่า เขาเล่นกับไลป์ซิกต่อ ก็ได้เล่นในเวทีแชมเปี้ยนส์ลีก แต่ถ้าย้ายมาเล่นลิเวอร์พูลต้องร่วงไปเล่นยูโรป้าลีก
ใช้เวลาคิดไม่นานนัก ลิเวอร์พูลตัดสินใจเด็ดขาดแล้วว่าจะเอา เพราะปรีซีซั่นก็ใกล้เข้ามาทุกทีแล้ว นักเตะฝีเท้าระดับนี้ในตลาดเหลือไม่มาก ถ้าจะซื้อก็ต้องซื้อตอนนี้เลย จึงแจ้งกับไลป์ซิกในช่วงเย็นวันที่ 28 มิถุนายน ว่าตกลงยอมจ่ายค่าตัว 70 ล้านยูโร
จากนั้นก็เข้าสู่กระบวนการเกลี้ยกล่อม โดยเจอร์เก้น คล็อปป์ โทรหานักเตะด้วยตัวเอง เล่าทุกอย่างทั้งแผนอนาคต สตอรี่เกี่ยวกับสโมสร แล้วบอกว่า โซโบสไล อาจเคยเล่นที่แอนฟิลด์มาแล้วตอนอยู่ซัลซ์บวร์ก แต่การลงเล่นในฐานะนักเตะลิเวอร์พูลมันเป็นคนละความรู้สึกกันเลย
โซโบสไลเล่าว่า "ผมจะไม่บอกรายละเอียดว่าเราคุยกันอะไรระหว่างวีดีโอคอล แต่ผมบอกได้ว่า การคุยกันครั้งนั้นทำให้ผมรู้สึกมั่นใจมากๆ คือนอกจากคล็อปป์จะเป็นหนึ่งในโค้ชที่เก่งที่สุดในโลกแล้ว เขายังเป็นคนที่น่าประทับใจมาก การสนทนาของเรามันสบายๆ มากเลย"
"เราคุยกันเหมือนรู้จักกันมาก่อนสัก 1 พันปี ผมบอกได้เลยว่า รอไม่ไหวแล้วที่จะทำงานร่วมกับเขา"
จุดแข็งของคล็อปป์ที่ทุกคนทราบดีคือ Charisma เสน่ห์นอกสนาม คำพูด คำโน้มน้าวต่างๆ เขาสามารถทำให้ผู้เล่นรู้สึกเชื่อมั่นได้ และในที่สุด
สำหรับค่าเหนื่อยนั้น รายงานเผยว่า โซโบสไล รับอยู่ที่ไลป์ซิก 80,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ แต่จะมารับที่ลิเวอร์พูล 120,000 ปอนด์ ถือว่ารายได้เพิ่มจากเดิมถึง 50% ทีเดียว
สุดท้ายดีลของทุกฝ่ายจบลงวันที่ 30 มิถุนายน ก่อนถึงเดดไลน์พอดี และโซโบสไล จึงกลายมาเป็นนักเตะคนใหม่ของทีมหงส์แดง สร้างความแข็งแกร่งในแดนกลาง เพิ่มขึ้นอีก 1 ตำแหน่ง
ความน่าสนใจอีกเรื่องของดีลนี้ คือลิเวอร์พูลไม่เคยประสบความสำเร็จกับนักเตะฮังการีมาก่อน จนกลายเป็นอาถรรพ์ไปแล้ว
11 นักเตะฮังการีที่เคยอยู่ลิเวอร์พูล มีแค่ 2 คนเท่านั้น ที่เคยได้ลงในพรีเมียร์ลีก ได้แก่ อิซวาน คอซม่า (6 นัด) และ อดัม บ็อกดาน (2 นัด)
แต่ที่เหลือ คริสเตียน เนเม็ธ, อันดราส ไซม่อน, คริสเตียน อดอร์ยาน, ปีเตอร์ กูลัคซี่, คริสตอฟ โพลการ์, ซอลต์ โพโลสกีย์, แพทริก พัวร์ และ อดัม ฮัชดู ทั้งหมดนี้ ได้โอกาสลงเล่น 0 นัด
ดังนั้นเป็นเรื่องที่โซโบสไล ต้องพิสูจน์ตัวเองเหมือนกันว่า เขาไม่ได้ย้ายมาแบบแป้ก แต่พร้อมจะเป็นคีย์แมนให้ทีมหงส์แดงได้ในอนาคต
อดัม บ็อกดาน อดีตทีมชาติฮังการีที่เคยอยู่ลิเวอร์พูลมาก่อน ขอร้องแฟนลิเวอร์พูลว่า "มันสำคัญที่ทุกคนต้องอดทนนะ อย่าคาดหวังว่าเขาจะมาเปรี้ยงทันทีแบบฮาแลนด์ อยากให้ดูว่าผู้เล่นอย่างแจ๊ค กรีลิช กับจอห์น สโตนส์ ก็ไม่ได้สุดยอดทันทีในปีแรก อย่าลืมว่าโดมินิคย้ายมาอยู่ในสิ่งแวดล้อมใหม่ และได้ย้ายมาอยู่กับหนึ่งในสโมสรที่โด่งดังที่สุดในโลก แฟนบอลต้องเชื่อใจเขา เหมือนที่ลิเวอร์พูลเชื่อใจและจ่ายเงินระดับนี้ซื้อมาร่วมทีมด้วย"
แต่ถามว่าเขาจะกดดันไหม? แน่นอนว่าต้องมีบ้าง เพราะค่าตัวของโซโบสไล แพงที่สุดเป็นอันดับ 4 ของลิเวอร์พูล ต่อจากเวอร์จิล ฟาน ไดค์ (84.65 ล้านยูโร) ,ดาร์วิน นูนเยซ (80 ล้านยูโร) และ อลิสซอน เบ็คเกอร์ (72.5 ล้านยูโร)
และเป็นนักเตะที่แพงที่สุดอันดับ 44 ตลอดกาลของโลกใบนี้ แพงกว่าริคาร์โด้ กาก้า (มิลานไปเรอัล มาดริด), เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ (ดอร์ทมุนด์ไปแมนฯ ซิตี้) และ หลุยส์ ฟิโก้ (บาร์เซโลน่า ไปเรอัล มาดริด) เสียอีก
โซโบสไล กลายเป็นนักเตะค่าตัวแพงที่สุดตลอดกาลของฮังการีอีกครั้ง ด้วยตัวเลข 70 ล้านยูโร เอาเป็นว่า นักเตะฮังการีที่ซื้อขายกันแพงสุด อันดับ 2-7 เอามาบวกกันยังไม่ถึง 70 ล้านยูโรด้วยซ้ำ
นี่เป็นตัวเลขที่โหดอยู่ แต่เมื่อลิเวอร์พูลคิดมาดีแล้วว่าจะจ่าย ก็ต้องมาดูกันว่าจะคิดถูกหรือคิดผิด
ปิดท้ายเรื่องของโซโบสไล คือเบอร์เสื้อที่เขาเลือกคือ "เบอร์ 8"
เจ้าตัวอธิบายเหตุผลว่า "แน่นอน นี่คือเบอร์ที่ยิ่งใหญ่ ใส่โดยนักเตะที่ยอดเยี่ยมหลายต่อหลายคน และที่สำคัญแขนของผมมีรอยสัก เป็นคำพูดของสตีเว่น เจอร์ราร์ด ซึ่งนั่นคือ อีกหนึ่งเหตุผลที่เลือกเบอร์นี้ด้วย"
แขนซ้ายของโซโบสไล มีประโยคเขียนว่า "พรสวรรค์คือสิ่งที่พระเจ้าประทาน แต่ถ้าไม่มีความมุ่งมั่นตั้งใจ และความถ่อมตัวมันก็จะไม่เหลือค่าอะไรเลย" นี่คือ Quote ที่เจอร์ราร์ดเคยพูดไว้นั่นเอง
จากนี้ไปเราก็ต้องติดตามกันว่า นี่จะเป็นดีลที่คุ้มค่าของหงส์แดงหรือไม่ และโซโบสไล จะยืนอย่างไรในไลน์อัพของหงส์แดง
แม็คอัลลิสเตอร์ ดีกรีแชมป์โลก, ฟาบินโญ่ มิดฟิลด์ตัวรับแกนหลักของทีม, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กัปตันทีม, เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เล่นดีมากในตำแหน่งมิดฟิลด์กับทีมชาติ นี่ยังไม่นับ ติอาโก้ อัลคันทาร่าที่หายกลับมาแล้ว
ยังมีดาวรุ่งทั้ง เคอร์ติส โจนส์ ที่เล่นดีช่วงปลายซีซั่น, ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ ที่เพิ่งยิงได้ในเกมทีมชาติเยาวชน รวมถึงสเตฟาน บายเซติชอีกคน
คำถามคือ โซโบสไล จะสอดแทรกอย่างไร ยืนตรงไหน แล้วใครจะหลุด ในไลน์อัพที่ใส่มิดฟิลด์ได้แค่ 3 คน นี่เป็นการบ้านที่สำคัญของคล็อปป์จริงๆ
เช่นเดียวกับตัวโซโบสไล ก็น่าสนใจดีว่า เขากล้าใส่เบอร์ 8 อย่างมั่นใจ คือถ้าคนที่ไม่ใจเด็ดพอ ก็จะขยับไปเบอร์ไกลๆ หน่อย เช่นเบอร์ 16, 23, 25 อะไรทำนองนั้น แต่โซโบสไล เลือกเบอร์ 8 เลย
ท้ายที่สุดแล้ว แฟนหงส์แดงก็ต้องมาลุ้นกันว่า โซโบสไล จะเป็นเบอร์ 8 แบบไหน
New Steven Gerrard
หรือ New Naby Keita
เขาจะฉายแววได้สมราคานักเตะพรสวรรค์สูงสุดของฮังการีในรอบ 57 ปีหรือไม่ อีกไม่นานเราก็จะได้รู้คำตอบกันครับ
#NEXTPUSKAS
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
