4 ก.ค. 2023 เวลา 02:58 • ท่องเที่ยว
SO/ Bangkok

SO/ Bangkok Hotel

โรงแรม จะอยู่ตรงหัวมุมถนนสาธรและพระราม 4 ถ้าเดินทางด้วยรถส่วนตัวทางเข้าโรงแรมจะอยู่ ถ.สาธร แต่สามารถออกได้ 2 ฝั่ง ส่วนถ้าเดินทางด้วยรถไฟฟ้า สถานนีที่ใกล้ที่สุด คือ สถานี MRT สายสีน้ำเงิน ลุมพินี ใช้ทางออกหน้าอาคาร Q House
จอดรถเสร็จมาก็มา Check-in ที่ชั้น 9 เป็น Park Lobby จุดเด่นของที่นี่ ก็คือ วิวสวนลุม และ กลุุ่มอาคารตรงถ.สุขุมวิท หลังสวน ซึ่งชั้น 9 จะเป็นชั้นที่มองวิวนี้ได้สวยที่สุด
แต่เพราะเราเป็นสมาชิก Accor Plus เลยได้ไปเช็คอินกันที่เลาจ์ ชั้น 25
ระหว่าง Check-in ก็มี Welcome Drink ให้ เป็นน้ำลิ้นจี่ สับปะรด ใบเตย มะนาว ผสมกันมาใน 1 แก้ว สดชื่นมาก เปรี้ยวนำหวานนิด ง่วงๆอยู่ตื่นแน่นอน
ห้องพักที่ So/Bangkok จะตกแต่งโดยอ้างอิงจากธาตุทั้ง 5 วันนี้เราพักกันที่ธาตุดินกันก่อน เป็นห้อง So Suite "Earth Element"
เดินเข้าไปในห้อง อารมณ์แรก คือ เหมือนถ้ำ และตามผนังห้อง ก็จะมีภาพเขียนเหมือนภาพฝาผนังสมัยก่อน และห้องก็ใหญ่ขนาดประมาณ 85 ตร.ม. ภายในห้องจะแยกเป็นห้องนั่งเล่น ห้องนอน ห้องแต่งตัว ซึ่งห้องนั่งเล่นอาจจะแปลกนิดหน่อย คือ ในห้องจะเป็นชุดกาแฟ และโซฟาสำหรับนั่งจิบกาแฟ แต่จะเหงาๆหน่อย เพราะห้องนี้ไม่มีทีวี
ไฮไลท์ของห้องนี้ คือ ห้องนอน เราคิดว่า 100% ถ้าใครได้มาพักห้องนี้จะต้องชื่นชอบแน่นอน เพราะ ขนาดของห้องใหญ่ เตียงตั้งหันหลังให้หน้าต่างที่เห็นวิวสวนลุมแบบเต็มตา เตียงนอนใหญ่นุ่ม สบายมาก
ห้องน้ำเดินเข้ามาก็เจออ่างอาบน้ำก่อน และอ่างล้างหน้าก็จะเป็นแบบ His & Hers ขนาดใหญ่ และ อีกด้านก็เป็นห้องอาบน้ำและห้องสุขภัณฑ์ อุปกรณ์ในห้องน้ำก็จะแยกเป็นของท่านชาย และ ท่านหญิง ซึ่งของข้างในก็แตกต่างกัน
ถ้านั่งแช่อ่างตอนกลางคืนแบบนี้ ก็จะเห็นวิวสี่แยกวิทยุ แต่ก็แอบเขิลเหมือนกันนะ เพราะเราคิดว่าข้างนอกน่าจะเห็นข้างในได้แน่นอน แต่เราอยู่ชั้นสูงก็อาจจะไม่เห็น
ช่วงกลางคืน ก็จะมีแม่บ้านมา Turndown ให้ พอปิดม่านทั้งห้อง บรรยากาศเหมือนในถ้ำ และดูโรแมนติกไม่เบาเหมือนกัน
อย่างที่เล่าให้ฟังตอนแรก ห้องพักของโรงแรมจะแบ่งตามธาตุทั้ง 5 ดิน น้ำ ลม ไฟ อีกห้องที่เราได้มีโอกาสไปพัก คือ ห้อง "ธาตุน้ำ"
ห้องนี้เป็นห้องธาตุน้ำ อยู่ชั้น 25 ห้องเดียวกับเลาจ์ ที่เรา Check-in เปิดประตุเข้ามาก็เป็นทางเดินยาว ตกแต่งโทนสีดำ-ทอง
ห้องแรกที่จะเจอ คือ ห้องนอน และภายในห้องนอนก็จะมีห้องแต่งตัว ซึ่งภายในห้องแต่งตัวจะมีโต๊ะแต่งหน้า แต่โทนสีห้องก็จะออกส้มๆ แต่งหน้าอาจจะยากสักหน่อย
ห้องนอนจะออกแนวขรึมๆมืดๆ ส่วนตัวเราว่าห้องนี้นอนดีกว่าห้อง Earth Element เพราะจะมืดกว่า แต่ทุกอย่างเตียง หมอนไม่ต่างกัน และในห้องนอนก็มีโต๊ะทำงาน นั่งหันหน้าออกเห็นวิวถ.พระราม 4 และกลุ่มอาคาร One Bangkok ที่กำลังก่อสร้าง เราว่าเป็นมุมทำงานที่วิวดีทีเดียว
ห้องน้ำห้องนี้ไม่ได้กว้างขวางเหมือนห้อง Earth Element แต่ก็ใช้งานก็ครบถ้วน มีอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ พื้นที่รอบอ่างค่อนข้างเยอะ ส่วนอ่างล้างหน้าก็เป็น His & Her แต่ไม่ได้ใหญ่มาก และมีของใช้ในห้องน้ำแยกชาย-หญิง เหมือนกัน ส่วนโถสุขภัณฑ์อยู่ในสุด เงียบสงบ ทำธุระได้สบายใจ
ออกมาจากห้องนอนก็เดินเข้ามาสุดทางของห้อง จะเป็นห้องนั่งเล่น มีกระจกบานใหญ่ทำให้ห้องดูโล่ง โปร่ง และสว่างไม่อึดอัด ถึงแม้การตกแต่งภายในจะเป็นโทนสีดำก็ตาม
ภายในห้องจะมีทีวีจอใหญ่ โซฟาตัวใหญ่ นุ่ม นั่งสบาย หรือจะเอนหลังนอนเลยก็ยังได้ ใช้ชีวิตในห้องนี้ได้ทั้งวัน และตู้เย็นก็ขนาดใหญ่มาก อ้อ! มีเตาไฟฟ้าให้ใช้ด้วยนะ
จุดเด่นของห้องนั่งเล่นนี้ คือ ห้องน้ำ ที่เป็นห้องแบบ Powder Room นั่งปลดทุกข์ วิวดีที่สุดในกรุงเทพแล้วมั้ง แต่เวลาใช้ก็แอบเขิลนิดนึง
ตอนเย็นแม่บ้านก็มา Turndown ให้เหมือนเดิม บรรยากาศก็จะโรแมนติก เคร่งขรึม
ห้องต่อไป คือ " Wood Element" ตัวแทน "ธาตุลม" ห้อง Type: So Studio
ภายในห้องจะตกแต่งด้วยไม้เป็นส่วนใหญ่ ทำให้รู้สึกอบอุ่น เหมือนอยู่บ้าน ห้อง Studio ไม่ได้ใหญ่เหมือนห้อง Suite แต่ในความรู้สึกเราว่ากำลังดี
ห้องน้ำกว้างขวาง และสีขาวหินอ่อน สบายตา
ตื่นเช้ามา เราลงมาทานอาหารกันที่ชั้น 7 ห้องอาหาร Red Oven ซึ่งเป็นตัวแทนของธาตุไฟ เพราะการตกแต่งของร้านอาหารจะเป็นโทนสีแดง ดำ และวิวจะเห็นสวนลุมพินีได้สวยงามมาก
ห้องอาหารขนาดใหญ่ เพดานสูง และกระจกบานใหญ่ ทำให้ห้องอาหารดูโล่ง โปร่ง สบาย
ไลน์อาหารเช้าเยอะมาก
ส่วนชั้น 25 ที่คลับเลาจ์ ซึ่งที่นี่เราสามารถขึ้นมาใช้บริการได้ทั้งวัน (เฉพาะ Club Benefit เท่านั้น) ตอนบ่ายก็จะมี Afternoon Tea และช่วงเย็นก็จะมี Tapas และคลับเลาจ์นี้ ก็สามารถสั่งอาหารเล็กๆน้อยๆ (เมนู Room Service) มาทานได้เหมือนกัน
ชั้นล่างของโรงแรมเป็นที่ตั้งของร้าน ChocoLab เป็นคาเฟ่เครื่องดื่มและช็อคโกแลต รสชาติหลากลาย ให้เลือกเยอะแยะเลย หรือถ้าได้ Welcome Drink ก็ลงมาแลกที่นี่ได้เหมือนกัน
อีกไฮไลท์ของโรงแรมนี้อีกอย่าง คือ "Sunday Brunch" ที่ได้รับความนิยม แบบแรงไม่ตกเลย เต็มทุกสัปดาห์ ที่ห้องหาร Red Oven อยู่ชั้น 7 (ห้องเดียวกับอาหารเช้า)
ไลน์อาหารเยอะมาก นานาชาติ จริงๆ ทั้ง ไทย ยุโรป จีน ญี่ปุ่น
เมนูที่ทุกโต๊ะต้องสั่งกัน คือ "ฟรัวกราส์" นั่นเอง
ไลน์ของหวานของจัดเต็มเช่นกัน
ตอนนี้เหลือแต่ห้อง Metal Element ตัวแทน "ธาตุเหล็ก" ที่ยังไม่ได้เข้าไปพัก ถ้ามีโอกาสได้ไปพัก แล้วจะพาไปดูกันนะ
โดยรวมเราว่า So Bangkok เป็นโรงแรมที่ดี ชอบตรงห้องพักที่ตกแต่งแบ่งเป็น Theme ต่างๆ ถ้าจะพักให้ครบก็ต้องมาได้ 4 รอบ วิวก็ถือว่าสวยที่สุดวิวหนึ่งของกรุงเทพฯที่เราเคยเห็น
** ถ้าชอบการท่องเที่ยว ร้านอาหาร โรงแรม แค้มปิ้ง มาเจอเราได้ที่
โฆษณา