4 ก.ค. 2023 เวลา 09:18 • การเมือง

ว่าด้วยรัฐพิธีเปิดประชุมรัฐสภา

คุณเพนกวิ้นครับ ที่คุณเพนกวิ้นได้เขียนมาในโพสต์นี้เป็นการกล่าวที่ไม่ถูกต้องทั้งหมด และอาจสร้างความเข้าใจผิดๆ เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ได้
1. ในประเด็นของการบุกเข้าสภาของพระเจ้าชาร์ลสที่ 1 นั้นไม่ได้เป็นเหตุผลเดียวที่ทำให้เกิดสงครามกลางเมือง แต่ยังมีเหตุผลอื่นๆ ประกอบอยู่ด้วย เช่น การเก็บภาษี การลุกฮือของคนสก๊อต ความพยายามในการจับกุมสมาชิกสภาที่ไม่เห็นด้วยกับพระองค์ทำให้เกิดความตึงเครียด[1] และอาจมองได้ว่าละเมิดอำนาจสภา แต่ไม่มีหลักฐานปรากฏว่าการพยายามบุกเข้าสภาของพระองค์ หรือการถือ “เคล็ด” นี้ ที่ไม้ให้พระมหากษัตริย์เข้าสภาสามัญเกิดจากเหตุการณ์นี้
2. ธรรมเนียมการไม่ให้พระมหากษัตริย์เข้าสภาเกิดขึ้นหลังปฏิวัติรุ่งโรจน์ (Glorious Revolution) เมื่อปี 1688 ซึ่งชัดเจนมากกว่าที่มีการออกบทบัญญัติว่าด้วยสิทธิ (Declaration of Rights) ซึ่งมีกฎอยู่ 13 ข้อ อันเป็นจุดจุดเริ่มต้นของการแบ่งแยกอำนาจนิติบัญญัติโดยที่พระมหากษัตริย์ไม่อาจเข้ามายุ่งเกี่ยว
และในที่สุดนำไปสู่ธรรมเนียมที่พระมหากษัตริย์ไม่อาจแทรกแซงสภาได้อย่างค่อยเป็นค่อยไป[2] หรือก็คือเกิดการแบ่งแยกอำนาจซึ่งต่อมามงเตสกิเออร์จะเป็นผู้เขียนข้อสังเกตเรื่องการแบ่งแยกอำนาจของอังกฤษนี้ไว้นั่นเอง ดังนั้นพระมหากษัตริย์จะค่อยๆ กลายเป็นประมุขในเชิงสัญลักษณ์ต่อมา
3. ประเด็นที่สมาชิกสภาพยายามปิดประตูไม่ให้พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 1 เข้าสภาหรือ “พร้อมใจกันพยายามดันประตูปิดไม่ให้กษัตริย์เข้ามา ธรรมเนียมปิดประตูนี้เป็นเคล็ดว่าผู้แทนประชาชนสามารถ “ดื้อ” กับพระราชอำนาจของกษัตริย์ได้” ตามที่คุณเพนกวิ้นกล่าวนั้น เราไม่พบหลักฐานใดๆ ที่ยืนยันว่ามีความพยายามดังกล่าว และไม่พบว่ามีเหตุการณ์ใดๆ ที่ใกล้เคียงเกิดขึ้น แต่หากคุณเพนกวิ้นมีหลักฐานมายืนยัน พวกเราก็ยินดีรับฟังและแบ่งปันกับทุกคน เพราะนี่คือสังคมที่ต้องเดินด้วยความรู้
4. สุดท้ายนี้ “ธรรมเนียม” นั้นแปลว่า เป็นสิ่งทีมีพัฒนาการมาจนกระทั่งเกิดแบบแผนในการปฏิบัติ นั่นหมายความว่ารูปแบบของประเทศไทยและอังกฤษย่อมแตกต่างกัน การร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีก็คือธรรมเนียมของไทยเพราะเรามีพระมหากษัตริย์ผู้เปี่ยมด้วยความสามารถอย่างประจักษ์ ไทยก็คือไทย อังกฤษก็คืออังกฤษ การร้องเพลงดังกล่าวจึงมิใช่การ “ประจบเจ้า” แต่เป็นการแสดงออกถึงความเคารพเท่าที่จะทำได้ เรามีรูปแบบของเราเองเพราะเรามิใช่อาณานิคมของใคร
และ “ประเทศประชาธิปไตย” นั้นล้วนแล้วแต่มีความเคารพในวัฒนธรรมประเพณีทั้งสิ้น จะมีประเทศใดที่เป็นประชาธิปไตยดูถูกดูแคลนวัฒนธรรมหรือ?
โฆษณา