5 ก.ค. 2023 เวลา 08:57 • ข่าว

ย้อน Timeline พลายศักดิ์สุรินทร์ช้างไทยสู้ชีวิตหลังกลับจากศรีลังกา

ย้อน Timeline พลายศักดิ์สุรินทร์จากช้างไทยสู้ชีวิต กลับคืนสู่มาตุภูมิที่สดใส
ตอนนี้ตามหน้าสื่อนอกจากประเด็นประชุมสภาอันดุเดือดในการสรรหาและเลือกนายกรัฐมนตรีต่างๆ ก็คงจะหนีข่าวที่เป็นที่ฮือฮาบนโลกโซเชียล อย่างข่าวของพลายศักดิ์สุรินทร์ไปไม่ได้ เพราะข่าวนี้เป็นข่าวใหญ่และเป็นข่าวที่คนไทยทุกคนให้ความสนใจเป็นอย่างมากสำหรับข่าวที่คนไทยทั้งประเทศจับตามอง
วันนี้เราจะพาไปย้อน Timeline น้องพลายศักดิ์สุรินทร์ ช้างไทยสู้ชีวิตที่ได้ไปอาศัยที่ประเทศศรีลังกากันว่า ชะตากรรมแบะเรื่องราวที่ร้อยเรียงเรียงเป็นอย่างไรบ้าง
.
เราขอเริ่มต้นเล่าย้อนไปเมื่อ มกราคม 2544 รัฐบาลไทยมอบช้างให้รัฐบาลศรีลังกา ประธานาธิบดีของประเทศศรีลังกา มีหนังสืออย่างเป็นทางการ ขอลูกช้างตัวผู้ จากประเทศไทย เพื่อนำไปฝึกสำหรับอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุนับว่าเป็นปฐมบทของเรื่องราวของพลายศักดิ์สุรินทร์ที่เป็นข่าว
และพฤษภาคม 2565 มีการร้องเรียนจากผ่านองค์กร RARE ซึ่งเป็นองค์การด้านการพิทักษ์สิทธิสัตว์ในศรีลังกา ถึงการใช้แรงงานอย่างหนักกับพลายศักดิ์สุรินทร์ ในขบวนแห่พระเขี้ยวแก้ว ที่ประเทศศรีลังกา หลังจากพบว่าพลายศักดิ์สุรินทร์มีสภาพผอมโซ ถูกล่ามโซ่ มีบาดแผลฝีที่สะโพก และขาบาดเจ็บ
จากนั้นมีการสอบถามข้อเท็จจริงกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) มีหนังสือสอบถามมายัง กรมอุทยานฯ ให้พิจารณาตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับช้างพลายศักดิ์สุรินทร์
เดือนสิงหาคมในปี 2565 ตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยทส.ขอความอนุเคราะห์กระทรวงการต่างประเทศ โดย สำนักเอกอัครราชทูต ณ กรุงโคลัมโบ ตรวจเยี่ยมความเป็นอยู่ของพลายศักดิ์สุรินทร์ และไล่มาจนถึงกันยายนปี 2565 ตรวจสอบสุขภาพ คณะผู้แทนไทย ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่และสัตวแพทย์จาก กรมอุทยานแห่งชาติฯ องค์การสวนสัตว์ และองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ เดินทางไปประเทศศรีลังกา เพื่อหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและตรวจสอบสุขภาพช้าง
ในเดือนตุลาคม 2565 เว็บไซต์ www.change.org เปิดแคมเปญ Ask the President of Sri Lanka to sign off the retirement of abused Muthu Raja เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยนำ พลายศักดิ์สุรินทร์ หรือ Muthu Raja จากประเทศศรีลังกา
ต่อมาเดือนพฤศจิกายน 2565 สถานทูตในกรุงโคลัมโบ ย้ายพลายศักดิ์สุรินทร์ ไปที่สวนสัตว์ Dehiwala หลังมติการประชุมร่วมระหว่าง ทส. กระทรวงการต่างประเทศ เห็นว่าช้างมีปัญหาสุขภาพ ควรได้รับการรักษาพยาบาลที่เหมาะสม โดยในชั้นต้นควรย้ายช้างไปยังสถานที่ที่เหมาะสม
ย่างเข้าสู่กุมภาพันธุ์ปี 2566 รัฐบาลศรีลังกาเห็นชอบ เห็นว่าพลายศักดิ์สุรินทร์ ควรได้รับการดูแลสุขภาพที่เหมาะสมโดยเร่งด่วน และขอบคุณรัฐบาลไทยสำหรับความช่วยเหลือ ในการดูแลสุขภาพช้าง จึงเห็นชอบในการนำพลายศักดิ์สุรินทร์มารักษาอาการป่วยที่ประเทศไทย
ถัดมาเดือนมีนาคม 2566 นายทองสุก มะลิงาม และพี่ชาย ควาญช้าง และเคยเลี้ยงพลายศักดิ์สุรินทร์ก่อนถูกส่งไปที่ศรีลังกา เดินทางไปฝึกช้าง และดูแลช้างเพื่อปรับให้คุ้นชินกับคนไทย เตรียมความพร้อม แต่เดินทางกลับไทยเพราะมีปัญหาสุขภาพ
เดือนพฤษภาคม 2566 ต่อมีการต่อกรงขึ้นพิเศษ เพื่อใช้ในการขนย้ายพลายศักดิ์สุรินทร์ ต่อขึ้นใหม่ ขนาด 2.1 × 6.55×3.075 เมตร มีความหนาของเหล็ก 21 ซม.ให้เหมาะกับขนาดตัวช้างที่สูง 2.9 ม.ลำตัวจากงาจรดหาง 4.55 ม.
มิถุนายน2566 กรมอุทยานฯ และองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (อ.อ.ป.) ส่งควาญช้าง 4 คนเดินทางไปฝึกความพร้อม นายทรชัยสิทธิ์ ศิริ นายศุภชัย บุญเกิด นายไกรสร เครือจันทร์ และนายกิติชัย ศรีประเสริฐ โดยมีแผนในการฝึกความคุ้นชิน เข้าออกกรง การเคลื่อนย้าย
ปฏิบัติการในการฝึกพลายศักดิ์สุรินทร์ เพิ่มความเข้มข้นขึ้น มีการจำลองเสียงดัง ใช้เครนยก และซ้อมเสมือนจริงเส้นทางจากสวนสัตว์ มายังสนามบินกรุงโคลัมโบ ซึ่งใช้เวลา 3 ชั่วโมงในการซ้อม
ทีมกรมอุทยานฯ-ส่งทีมสัตวแพทย์ ไปประเมินอาการรอบสุดท้ายก่อนเดินทางด้วยเครื่องบิน ด้วยเครื่องบิน Ilyushin IL-76 ของรัสเซีย
และเมื่อวันที่ 29 มิถุนายนปี 2566 ทางนาง สาวกัญจนา ศิลปอาชา ได้เดินทางไปรับพลายศักดิ์สุรินทร์ถึงประเทศศรีลังกา เพื่อเตรียมความพร้อม1วันก่อนนำพลายศักดิ์สุรินทร์กลับมาพักรักษาตัวที่ไทย และเป็นหนึ่งผู้อยู่เบื้องหลังในการประสานและสละทรัพย์ส่วนตัวในการถวายสีทองในการทาองค์พระธาตุที่ศรีลังกาจำนวน 2.8 ตัน
และล่าสุดพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงรับพลายศักดิ์สุรินทร์ไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์แล้ว นับว่าเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดไม่ได้ที่ทรงพระกรุณาต่อพลายศักดิ์สุรินทร์
.
แม้พลายศักดิ์สุรินทร์จะกลับสู่เมืองไทยแล้ว แต่ก็ยังต้องเฝ้าดูอาการดูแลอย่างใกล้ชิดในกรอบระยะเวลา 30 วันตามที่ รัฐมนตรี วราวุธ ศิลปอาชา แถลงข่าว และประชาชนทุกคนสามารถติดตามดูอาการของเจ้าพลายศักดิ์สุรินทร์อย่างใกล้ชิดผ่านระบบถ่ายทอดสดตลอด 24 ชม.อีกด้วย
#พลายศักดิ์สุรินทร์
#กัญจนาศิลปอาชา
#กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
โฆษณา