7 ก.ค. 2023 เวลา 00:30 • ข่าวรอบโลก

"เสรีภาพ ความเสมอภาค ภราดรภาพ" และความหมักหมมในสังคมฝรั่งเศส

จากชนวนเหตุการเสียชีวิตของวัยรุ่นอายุ 17 ปี Nahel Merzouk ซึ่งตำรวจกระทำเกินกว่าเหตุ เพราะเพียงต้องการหยุดรถที่กระทำความผิดกฎหมายจราจรเท่านั้น ทำให้มารดาของ Nahel M. เจ็บแค้น และโพสต์วิดีโอบนแพลตฟอร์ม TikTok เรียกร้องให้มีการเดินขบวนประท้วงเพื่อทวงความยุติธรรมแก่ลูกชายของเธอ เสมือนประกายไฟถูกดีดออกไปในบรรยากาศที่เต็มไปด้วยเชื้อไฟจากกระแสความโกรธแค้น เกลียดชัง ในสังคมฝรั่งเศส การประท้วงจึงกลายเป็นจลาจลอย่างรวดเร็ว
Mounia M. แม่ของ Nahel M. ร่วมการเดินขบวนรำลึกถึงลูกชายของเธอในเมือง Nanterre ประเทศฝรั่งเศส /รูปภาพของ Abdulmonam Eassa / Getty
การเสียชีวิตของ Nahel M. เยาวชนเชื้อสายแอลจีเรีย เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2566 จากการกระทำผิดของตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่เกินกว่าเหตุ ถูกเชื่อมโยงไปยังประเด็นเรื่องการเหยียดเชื้อชาติ และความเจ็บปวดในอดีตจากลัทธิล่าอาณานิคมโดยฝรั่งเศส ซึ่งเข้ารุกรานแอลจีเรียในปี พ.ศ. 2373 ด้วยวิธีทำลายล้างทุกสิ่งที่ขว้างทางฝรั่งเศส จนในที่สุดฝรั่งเศสได้แอลจีเรียเป็นอาณานิคมเบ็ดเสร็จในปี พ.ศ. 2377 และแบ่งแอลจีเรียออกเป็น 3 เขต ได้แก่ แอลเจอร์ โอราน และคอนสแตนติน
ภาพเหตุสังหารหมู่เซติฟในแอลจีเรีย เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 1945 ทำให้ชาวแอลจีเรียเสียชีวิตเรือนหมื่น (ภาพจาก jazairhope.org)
การกดขี่ข่มเหงผู้อยู่อาศัยเดิมเกิดขึ้นเรื่อยมา ชาวแอลจีเรียถูกนับเป็นพลเมืองชั้นสอง มีการเลือกปฏิบัติกับคนที่ไม่ยอมเปลี่ยนศาสนา การลงโทษหนักหน่วงป่าเถื่อน การริบทรัพย์สินและที่ดิน เมื่อแอลจีเรียเรียกคืนเอกราช สงครามอันโหดร้ายก็อุบัติขึ้นซึ่งคร่าชีวิตผู้คนนับแสน โดยผู้สูญเสียส่วนใหญ่อยู่ฝ่ายแอลจีเรีย และนำไปสู่การสิ้นสุดการปกครองของฝรั่งเศสในปี 2505
การเรียกร้องสันติภาพในแอลจีเรีย
แม้รัฐบาลฝรั่งเศสจะแสดงจุดยืนว่า "ไม่แบ่งแยกเชื้อชาติ" แต่กลับมีปัญหาการเหยียดเชื้อชาติและความรุนแรงในการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจฝรั่งเศสอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ คนผิวดำหรือชาวอาหรับซึ่งสืบเชื้อสายมาจากอดีตอาณานิคมของฝรั่งเศส ส่วนใหญ่จะอาศัยอยู่ในที่ที่เรียกว่า บันลิเยอส์ (banlieues) ชานเมืองของเมืองใหญ่เช่น ปารีส มาร์กเซย หรือลียง พวกเขาถูกผลักออกไปนอกเมือง หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 มีการสร้างอาคารสูงเพื่อให้ผู้อพยพอยู่อาศัย ซึ่งบางครอบครัวมีคุณภาพชีวิตที่เรียกได้ว่าต่ำกว่าชนชั้นสองของสังคมฝรั่งเศส
บล็อกที่อยู่อาศัยบนที่ดิน Frais-Vallon ใน Marseille
17 มิถุนายน 2550 Lamine Dieng เสียชีวิตใน Belleville
หลังจากการโต้เถียงระหว่างลามีน เดียงกับแฟนสาว จากข้อมูลขององค์กรสิทธิมนุษยชน แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ระบุว่า ตำรวจบังคับกดตัวเขาคว่ำหน้าลงกับพื้นเป็นเวลาครึ่งชั่วโมง เท้าของเขาถูกมัดไว้ด้วยกัน Diengหมดสติหายใจไม่ออก และเสียชีวิตขณะถูกจับกุม
การเดินขบวนในปารีส 10 ปีหลังจากการตายของ Lamine Dieng
สิบสามปีต่อมา ศาลสิทธิมนุษยชนแห่งยุโรปในเมืองสตราสบูร์กสั่งให้ฝรั่งเศสจ่ายเงินให้ครอบครัวของ Dieng 145,000 ยูโร (158,000 ดอลลาร์) เพื่อยุติการดำเนินคดีและหลีกเลี่ยงการตัดสินใหม่ หลังจากเกิดอาชญากรรม พี่สาวของ Dieng ได้ก่อตั้งคณะกรรมการความจริงและความยุติธรรมขึ้นเพื่อชี้แจงสิ่งที่เกิดขึ้นจริงระหว่างเหตุการณ์ดังกล่าว
9 มิถุนายน 2552 Ali Ziri เสียชีวิตใน Argenteuil
ชาวแอลจีเรียวัย 69 ปี กำลังไปฝรั่งเศสเพื่อซื้อของขวัญแต่งงานให้ลูกชาย เขาดื่มแอลกอฮอล์กับเพื่อนหลังจากช้อปปิ้ง เมื่อทั้งคู่ถูกตำรวจเรียกให้จอดรถ มีรายงานว่า Ali Ziri ขัดขืน เจ้าหน้าที่ตำรวจ 3 นายใส่กุญแจมือชายชราที่มึนเมา นำตัวเขาขึ้นรถตำรวจ และระหว่างทางไปสถานี ตำรวจได้จับเขาไว้โดยให้ศีรษะอยู่ระหว่างเข่า
การเดินขบวนในปารีสเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2017ภาพ: Francois Guillot/AFP
Ziri อาเจียนหลายครั้ง อยู่ในอาการโคม่าและเสียชีวิตที่โรงพยาบาลในเวลาต่อมา สาเหตุการตาย เนื่องจากขาดอากาศหายใจ ศาลสิทธิมนุษยชนยุโรปประณามฝรั่งเศส ในฐานะที่เจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหน้าที่ด้วย "ความประมาทเลินเล่อ" ลูกสาวของ Ziri ได้รับค่าเสียหายทางศีลธรรม 30,000 ยูโร และ 7,500 ยูโรสำหรับค่าใช้จ่ายต่างๆ
19 กรกฎาคม 2559 Adama Traore เสียชีวิตใน Beaumont-sur-Oise
ชายวัย 24 ปี ซึ่งพ่อแม่มาจากมาลี เขาหลบหนีตำรวจระหว่างการไล่ล่า แต่สุดท้ายก็ถูกจับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจ 3 นาย คุกเข่าบนหลังของเขา และตามรายงานการจับกุม Adama Traore บอกว่าเขาหายใจไม่ออก ตำรวจเรียกรถพยาบาล แต่ Traore ก็เสียชีวิตเมื่อมาถึงโรงพยาบาล
กรณีของ Adama Traore มีความคล้ายคลึงกันกับการสังหาร George Floyd ของตำรวจในสหรัฐอเมริกาในเวลาต่อมา /ภาพ: Jerome Gilles/NurPhoto
ในกรณีนี้ไม่มีพยานหรือบันทึกวิดีโอ สาเหตุที่แท้จริงของการเสียชีวิตเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ โดยศาลได้อ้างถึงอาการป่วยก่อนหน้านี้ การชันสูตรพลิกศพโดยครอบครัวของ Traore สรุปว่าเขาขาดอากาศหายใจเนื่องจากแรงภายนอก
5 มกราคม 2563 Cedric Chouviat เสียชีวิตในปารีส
คนขับรถส่งอาหารวัย 42 ปี ขี่สกู๊ตเตอร์ใกล้หอไอเฟล เมื่อตำรวจหยุดเขาเพราะถูกกล่าวหาว่าคุยโทรศัพท์ขณะขับรถ เกิดการโต้เถียงกันระหว่างเจ้าหน้าที่ทั้งสี่คนและ Cedric Chouviat ซึ่งจบลงด้วยการที่ Cedric Chouviat ถูกบังคับให้คว่ำหน้าลงกับพื้นโดยที่ยังสวมหมวกนิรภัยอยู่
การชุมนุมครบรอบหนึ่งปีการเสียชีวิตของ Cedric Chouviat /ภาพ: PHOTOPQR/LE PARISIEN/Olivier Corsan
มีภาพจากบันทึกวิดีโอ แสดงให้เห็นว่า Cedric Chouviat ตะโกนว่า "ฉันหายใจไม่ออก!" ถึงเจ็ดครั้ง แต่เจ้าหน้าที่ไม่ตอบสนองคำขอร้องของเขา Chouviat หมดสติและเสียชีวิตในโรงพยาบาลในอีก 48 ชั่วโมงต่อมา
ในปี 2565 มีบันทึกเหตุการณ์ 138 เหตุการณ์ที่ตำรวจฝรั่งเศสยิงปืนใส่รถที่กำลังแล่น และมีผู้เสียชีวิต 13 คนจากการยิงเพื่อหยุดรถ ในอดีต เจ้าหน้าที่ตำรวจฝรั่งเศสได้รับอนุญาตให้ยิงปืนบนยานพาหนะได้ต่อเมื่อเจ้าหน้าที่ตกอยู่ในอันตราย ซึ่งเป็นสิทธิในการป้องกันตนเองเช่นเดียวกับพลเมืองทั่วไป สหภาพตำรวจแย้งว่าพวกเขาควรมีอำนาจที่กว้างขึ้นในการต่อสู้กับอาชญากรรม
การทำแผนอาชญากรรม ซึ่งชายสองคนในรถถูกยิงเสียชีวิตเมื่อวันที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2565 ระหว่างการหยุดรถโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ติดอาวุธปืนไรเฟิล /เครดิต Thomas Coex/Agence France-Presse
ในปี 2560 มีการแก้กฎหมายที่ให้อำนาจตำรวจมากขึ้นหลังจากเจ้าหน้าที่สองคนได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการปฏิบัติหน้าที่ใน Viry-Châtillon (ชุมชนในเขตชานเมืองปารีส) ในเดือนตุลาคม 2559 กฎหมายฉบับใหม่ของฝรั่งเศสอนุญาตให้ตำรวจใช้อาวุธปืนใน 5 สถานการณ์
1. เมื่อชีวิตหรือความปลอดภัยทางร่างกายของพวกเขาหรือชีวิตของบุคคลอื่นตกอยู่ในความเสี่ยง
2. เมื่อสถานที่หรือบุคคลที่อยู่ภายใต้การคุ้มครองถูกโจมตี
3. เมื่อพวกเขาไม่สามารถป้องกันบุคคลที่มีแนวโน้มว่าจะคุกคามชีวิตหรือความปลอดภัยทางกายหรือของผู้อื่นให้หลบหนีได้
4. เมื่อพวกเขาไม่สามารถหยุดรถที่คนขับเพิกเฉยต่อคำสั่งให้หยุด และผู้โดยสารที่มีแนวโน้มจะเสี่ยงต่อชีวิตหรือความปลอดภัยทางกาย หรือของผู้อื่น
5. หากมีเหตุอันควรเชื่อว่าจะป้องกันการฆาตกรรมหรือพยายามฆ่าได้
ความโกรธแค้นในการเสียชีวิตของ Nahel แพร่กระจายอย่างรวดเร็วโดยโซเชียลมีเดีย ผู้คนทั่วประเทศหลายหมื่นคนออกมาตามท้องถนน แสดงความโกรธแค้น และใช้ความรุนแรง ทั้งในปารีส เมืองลียง เกรอน็อบล์ มาร์กเซย ตูลูส สตราสบูร์ก ลีล และลุกลามไปไกลถึงเมือง Roubaix ซึ่งอยู่ตามแนวชายแดนเบลเยียมใกล้กับลีล ความพยายามเข้าควบคุมสถานการณ์ของรัฐบาล ทำให้เกิดการปะทะกันระหว่างตำรวจและผู้ประท้วงที่ส่วนใหญ่เป็นเยาวชน ปรากฏภาพฝรั่งเศสกลายเป็นรัฐล้มเหลวในการจัดการแพร่กระจายไปทั่วโลก
คำให้การของตำรวจผู้ก่อเหตุ ตามแถลงการณ์ของอัยการระบุว่า เวลาประมาณ 8.00 น. ของวันอังคารที่ 27 มิถุนายน ตำรวจ 2 นาย ขับขี่รถจักรยานยนต์พบเห็นรถเบนซ์ที่มีป้ายทะเบียนภาษาโปแลนด์ในเมืองนองแตร์ เมื่อเจ้าหน้าที่เปิดไซเรนไล่ตามภายในรถพบบุคคล 3 คน เจ้าหน้าที่คนหนึ่งบอกให้คนขับหยุดรถ แต่รถถอยออกไปโดยไม่สนใจสัญญาณไฟแดง เจ้าหน้าที่ได้แจ้งหน่วยของตนทางวิทยุ เมื่อเวลา 8:16 น.
ตำรวจได้หยุดรถเบนซ์ท่ามกลางการจราจรที่คับคั่ง และเจ้าหน้าที่ทั้งสองก็เข้ามาใกล้รถพร้อมเล็งปืนไปที่คนขับเพื่อ "ยับยั้งไม่ให้เขาขับรถออกไปอีก" ตำรวจทั้งสองขอให้คนขับปิดสวิตช์กุญแจ แต่รถกลับเคลื่อนไปข้างหน้า เจ้าหน้าที่คนหนึ่งยิงปืน ออกไป ทำให้ชายหนุ่มได้รับบาดเจ็บสาหัสที่หน้าอกและเสียชีวิตในเวลาต่อมา
มีการบุกค้นร้านค้าหลายสิบแห่ง และจุดไฟเผารถยนต์กว่า 2,000 คัน นับตั้งแต่การจลาจลเริ่มต้นขึ้น มีรายงานจากกระทรวงยุติธรรมว่าเหตุการณ์ครั้งนี้มีการจับกุมผู้กระทำความผิดกว่า 4,000 ราย ซึ่งเป็นผู้เยาว์มากกว่า 1,200 ราย โดยประธานาธิบดี มาครง เสนอแนวคิดให้ผู้ปกครองของเด็กที่ถูกจับในข้อหาทำลายทรัพย์สินหรือปล้นทรัพย์ต้องรับผิดชอบค่าเสียหายและค่าปรับ
เมื่อสถานการณ์ลุกลามไปเกินความคาดหมาย แม่ของ Nahel ได้ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ France 5 ว่าเธอเชื่อว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ยิงลูกของเธอเพราะ "เห็นหน้าเด็กอาหรับ" เธอโกรธเจ้าหน้าที่ที่ยิงลูกชายของเธอที่ป้ายจราจร แต่ไม่ใช่กับตำรวจโดยทั่วไป ส่วนยาย ของ Nahel กล่าวว่ากลุ่มผู้ก่อการจลาจลใช้การตายของ Nahel เป็นข้ออ้างในการก่อความหายนะ และบอกว่าครอบครัวต้องการความสงบ ไม่ต้องการให้เกิดความเดือดร้อนไปยังผู้อื่น และขอให้หยุดก่อการจลาจล
การจลาจลครั้งนี้ถือเป็นวิกฤตการณ์ที่เลวร้ายที่สุดสำหรับมาครง นับตั้งแต่การประท้วงของ "เสื้อกั๊กเหลือง"(gilets jaunes) เกี่ยวกับราคาเชื้อเพลิงที่ยึดครองพื้นที่ส่วนใหญ่ในฝรั่งเศสเมื่อปลายปี 2561
"อย่าทุบกระจกแตกอีกนะ เพราะฉันต้องเอาเงินค่าซ่อมกระจกไว้จ่ายค่าสวัสดิการสังคมให้แม่ของเธอ" คำขอร้องจากเจ้าของร้านที่ได้รับผลกระทบจากจลาจล
กิจกรรมแฟชั่นเฮาส์ในปารีส และคอนเสิร์ต รวมถึงกิจกรรมทางวัฒนธรรมหลายรายการถูกยกเลิกเนื่องจากการจลาจล ภาคการท่องเที่ยวของฝรั่งเศสเผชิญกับการยกเลิกเนื่องจากความไม่สงบ โรงแรมและร้านอาหารกำลังเผชิญกับการยกเลิกเนื่องจากเหตุการณ์ความไม่สงบครั้งใหญ่ในฝรั่งเศส หลังเกิดเหตุตำรวจยิงวัยรุ่นเสียชีวิต
ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานูเอล มาครง ได้เสนอแนวคิดในการประชุมร่วมกับนายกเทศมนตรีชาวฝรั่งเศสที่ชุมชนได้รับผลกระทบจากการจลาจล โดยเขาเห็นว่าควรมีการจัดระเบียบการเข้าถึงแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของคนหนุ่มสาวเพื่อระงับความขัดแย้ง
เราต้องคิดถึงวิธีที่คนหนุ่มสาวใช้โซเชียลเน็ตเวิร์ก ในครอบครัว ที่โรงเรียน ควรมีข้อห้าม … และเมื่อสิ่งต่าง ๆ อยู่นอกเหนือการควบคุม เราอาจต้องควบคุมหรือตัดออก
ประธานาธิบดีฝรั่งเศส  กล่าวระหว่างการประชุม
เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากกลุ่มผู้สนับสนุนสิทธิเสรีภาพว่าแนวคิดนี้ เป็นกลยุทธ์จัดระเบียบสังคมใน "ระบอบเผด็จการ" เช่นเดียวกับประเทศในโลกที่สาม เช่น จีน รัสเซีย อิหร่าน อินเดีย เคนยา คิวบา และอื่น ๆ ซึ่งรัฐบาลได้พยายามอธิบายว่า นี่เป็นเพียงการสกัดกั้นการเข้าถึงสื่อสังคมออนไลน์ "เป็นครั้งคราวและชั่วคราว" เท่านั้น
การตัดสินใจของประธานาธิบดี มาครง ที่จะปฏิรูประบบบำนาญของประเทศเมื่อต้นปีนี้ ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลฝรั่งเศสกับชาวฝรั่งเศสตึงเครียดอย่างที่สุด และสิ่งต่างๆ ก็ดูเหมือนจะเลวร้ายลงเรื่อยๆ เมื่อเกิดเหตุการณ์การเสียชีวิตของ Nahel Merzouk จึงเป็นแรงกระตุ้นความโกรธแค้นให้ชนชั้นแรงงานก่อการจลาจลอย่างรวดเร็ว แม้สถานการณ์ขณะนี้จะดูสงบลง แต่กระแสเรียกร้องให้มีการปฏิรูปตำรวจและความโกรธแค้นต่อการรับรู้ถึงการแบ่งแยกเชื้อชาติของชาวฝรั่งเศส ยังคงอยู่
ปัญหาการชุมนุมประท้วงที่เกิดขึ้นในฝรั่งเศส กลายเป็นวัฒนธรรมจากความกดทับในสังคมของชนชั้นแรงงาน ผู้อพยพ และผู้ด้อยโอกาสกลุ่มต่าง ๆ และยังถูกครอบงำภายใต้ความขัดแย้งทางการเมืองอีกด้วย นี่คือความท้าทายในการแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน เมื่อกรุงปารีสและเมืองอื่นๆ ในฝรั่งเศสจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในปีหน้า และความไม่สงบภายในประเทศฝรั่งเศสได้สร้างความกังวลในต่างประเทศ
การจลาจลเป็นภาษาของผู้ที่ไม่มีใครได้ยิน
มาร์ติน ลูเธอร์ คิง  กล่าว
โฆษณา