6 ก.ค. 2023 เวลา 15:18 • หนังสือ

Ch24: ขั้นเวลา [Act4]

แฮร์รี่ พอตเตอร์ ฉบับหัวขบถ โหมดเอาจริง
[ปิดเล่ม2]
ฮอกวอร์ตเป็นโรงเรียนที่ดีที่สุดจริงเหรอ?
ในชีวิตเราทุกคนจะต้องเจอครูที่ชอบและที่ไม่ชอบ และบ่อยครั้งครูที่เป็นปัญหาสำหรับบางคนอาจไม่เป็นปัญหาสำหรับบางคน
ในเล่ม 5 ผู้อ่านเกิน 80% เกลียดครูมนุษย์ป้าอย่างอัมบริดจ์ และเฮอร์ไมโอนี่ก็ลุกขึ้นต่อต้าน เราต้องชื่นชมเธอในจุดนี้แน่นอน แต่หากย้อนกลับไปดูเราอาจจะพบเรื่องน่าขบขันที่เจ็บแต่จริงนั่นคือเฮอร์ไมโอนี่ไม่ได้น่าประทับใจขนาดนั้น เธอใจร้ายกับทีลอนี่ย์ ต่อต้านอัมบริดจ์ แต่ก็มีแต่ครูผู้หญิง นางไม่มีปัญหาอะไรกับครูผู้ชาย
ทั้งนี้เราเห็นจากการที่นางหลับหูหลับตาแก้ตัวให้ล๊อคฮาร์ต ไม่มีปัญหากับการหักคะแนนแหลกลานของสเนป และหลับหูหลับตากับข้อเท็จจริงที่ว่าแฮกริดเกือบไร้ความสามารถในการสอน แก้ตัวเป็นไฟให้ความบกพร่องของดัมเบิลดอร์ หรือพูดให้ชัด ทุกคนมีอคติแม้แต่คนที่ดูมีศีลธรรมมากกว่าใครใน Golden Trio อคติของเธอไมโอนี่ยิ่งชัดเมื่อเราตระหนักว่าเกือบจะวิจารณ์แต่ผู้หญิงด้วยกันเช่นเฟอร์ (ที่ไม่รู้ไปทำอะไรให้เธอ?)
ดังนั้นมันเอาเข้าจริงๆ เฮอร์ไมโอนี่ก็ไม่ได้ต่างจากแฮร์รี่ที่เอะอะอะไรก็เป็นความผิดของสเนป
ข้อบกพร่องของครูก็ตีเข้าไปในความไม่พอใจของผู้อ่านเช่นกันและผู้อ่านส่วนใหญ่ไม่ได้สนใจว่า "ครูคนไหนบกพร่องหรือทำผิดมากกว่า" เราตัดสินด้วยอารมณ์ โดยเฉพาะถ้าเราเห็นด้วยกับตัวละครหลักในเรื่อง หรือครูในเรื่องเป็นภาพสะท้อนของครูที่เราไม่ชอบในโลกแห่งความจริง ซึ่งอัมบริดจ์อันดับต้นๆ ที่คนอ่านมักเกลียด ถัดมาก็คือสเนปซึ่งผมยอมรับว่าเป็นหนึ่งในครูที่มีปัญหาเยอะมาก
อย่างไรก็ดีผมตำหนิได้ไม่เต็มปากเพราะผู้เขียน JK Rowling ระบุ+ยอมรับอย่างหน้าชื่นตาบานว่าเธอใส่ครูเคมีลงไปในหนังสือเพื่อแก้แค้นเขา และครูคนนี้เป็นออทิสติก! ฉะนั้นต่อให้เราไม่ชอบสเนปแค่ไหนเราก็ต้องตัดสินเขาในฐานะคนออทิสติกเพราะเขาถูกเซ็ตติ้งมาแบบนั้นแล้ว คงไม่มีใครทะลึ่งประท้วงว่าตัวละครสร้างขึ้นจากสาววายและมีคาแรคเตอร์เป็นสาววายทุกประการเป็นคนปกติโดยอ้างว่า "คนเขียนไม่เคยระบุว่าตัวละครนี้เป็นสาววาย" หรอก
ใช่มั้ย?
รึใครทำ?
สเนปเป็นครูทึ่แย่จริงๆ ผมไม่เถียง ไม่ต้องไปไกล แค่คิดถึงว่าครูคนหนึ่งประกาศจะวางยาพิษสัตว์เลี้ยงนักเรียน แม้ครูจะมียาแก้พิษเตรียมไว้ แต่ถ้าจะทำแบบนี้จริงๆ ในโลกแห่งความจริงเราคงต้องเรียกตำรวจ
ผมเห็นบางคนโพสว่า ไม่เข้าใจว่าคนชอบสเนปได้ไงเพราะนางเกลียดหมอพอๆ กับอัมบริดจ์ ซึ่งผมก็อมยิ้มนะว่ามันก็เป็นสิทธิของเขาที่จะเกลียดเพราะผมก็มีครูที่ผมไม่ชอบในนิยายเรื่องนี้ คือศาสตราจารย์มักกอนนากัล (แค่ไม่ได้เกลียดขนาดนั้น) ใครสอนให้คว้าหูนักเรียนแล้วลากไปบนทางเดิน!? แม้แต่ยุค 90 ที่ยังตีนักเรียนด้วยไม้เรียวพฤติกรรมของมักกอนนากัลต่อเดรโกในเล่มแรกก็ยังเกินกว่าเหตุ
มักกอนนากัลชอบหักหน้าเพื่อนร่วมงานอย่างทีลอนี่ย์ และเธอไม่ได้เล่นพรรคเล่นพวกน้อยกว่าสเนปเพียงแต่ใช้วิธีการที่มีศิลปะกว่ามาก กระนั้นผมจะหยุดเรื่องมักกอนนากัลไว้ก่อนเพราะเรื่องของเธอคือตอนถัดไปซึ่งเป็นตอนแรกของเล่ม 3 แต่สิ่งที่อยากจะให้เราตั้งข้อสังเกตคือฮอกวอร์ตไม่ได้เป็นเซฟโซนและและไม่ใช่สถานที่ๆ ปลอดภัยที่สุดอย่างที่อ้าง จริงๆ ข้อนี้ 100 ทั้ง 100 ของผู้อ่านต้องรู้อยู่แล้ว
เริ่มจากเล่ม 1 ผมว่าคนอ่านที่ชั่งคิดหน่อยแค่อ่านผ่านๆ ก็คงตะหงิดๆ ว่าวาทะกรรม "ฮอกวอร์ตคือสถานที่ๆ ปลอดภัยที่สุด" มันโหกทั้งเพ สถานที่ปลอดภัยที่สุดในโลกแบบไหนเริ่มต้นเทอมแรกด้วยการประกาศว่าอย่าขึ้นไปชั้นบนถ้าไม่อยากตายอนาจ? แถมสอบสวนไปสอบสวนมากลายเป็นว่าโรงเรียนที่ซ่อนสัมบัติที่คนร้ายจ้องจะขโมย ต่อให้คุณมีซูเปอร์แมนเป็นอาจารย์ใหญ่ก็อย่าเอาของแบบนี้มาซ่อนในโรงเรียนเว้ย มันไม่ตลก มันอันตรายมาก!!
สิ่งที่น่าโมโหคือดัมเบิลดอร์เห็นได้ชัดว่าไม่ได้เดือดร้อนกับการที่ "ตำแหน่งอาจารย์สอนวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืด" นั้นต้องคำสาป ทำไม เพราะเขาไม่ได้ทำอะไรเพื่อเป็นการจัดการกับปัญหานี้นอกจากจ้างครูคนใหม่ในแต่ละปี แต่โดยการนี้กองอวยยังคงอวยต่อไป ดัมเบิลดอร์ฉลาด บลาๆๆ แต่ผมสงสัยว่าคนฉลาดแบบดัมเบิลดอร์คู่ควรกับการบริหารโรงเรียนหรือไม่เมื่อเขาไม่ได้สนใจสวัสดิภาพของบุคลากรที่จะเข้ามาทำงานหรือประสิทธิภาพทางวิชาการของนักเรียน
นักเรียนฮอกวอร์ตและผู้อ่านพากันเดือดร้อนกับการที่อัมบริดจ์เข้ามาสอนวิชานี้แล้วทำให้นักเรียนไม่ได้เรียนอะไรเลยแต่กลับไม่เดือดร้อนกับการที่ดัมเบิลดอร์สังเวย 1 ปีของเขากับคนไร้ความสามารถอย่างล๊อคฮาร์ทซึ่งสุดท้ายนักเรียนก็ไม่ได้เรียนห่าอะไรเหมือนกับที่อัมบริดจ์สอนนั้นแหละ การเปิดโปงล๊อคฮาร์ทมีค่ามากเกินกว่าความสำเร็จทางการศึกษาของเด็กๆ ที่เป็นอนาคตของโลกเวทมนตร์หรือไม่
อีกครั้ง วาทะกรรม "ฮอกวอร์ตคือโรงเรียนเวทมนตร์ที่ดีที่สุดในอังกฤษ" นั้นโคตรตอแหล
นับตั้งแต่ตำแหน่งนี้ถูกสาป ไม่จำเป็นต้องใช้เวลาหลายปี เพียงสองปีก็เพียงพอแล้วที่ดัมเบิลดอร์จะยื่นเรื่องเกี่ยวกับกระทรวงเวทมนตร์เกี่ยวกับคำสาปลึกลับที่พ่อมดศาสตร์มืดกระทำกับตำแหน่งนี้แล้วหาวิธีแก้ปัญหา หรือถ้าต้องการเวลาที่จะสอบสวนเกี่ยวกับคำสาป ภายใน 7 ปีควรเห็นชัดเจนเกี่ยวกับรูปแบบของคำสาปมั้ย? จากนั้นทางออกที่ดีที่สุดคือการยุบตำแหน่งวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืดแล้วแทนที่ด้วยวิชาอื่นที่มีลักษณะคล้ายกัน
หรือผมมีข้อเสนอ: ให้ตำแหน่งคงอยู่แต่ไม่มีการเรียนการสอนในคลาสนี้ แล้วมอบหมายใครครูแต่ละวิชาหลักสอดแทรกเนื้อหาของวิชานี้ลงไปในบทเรียนซึ่งไม่ยากเพราะหากเราอ่านนิยายเรื่องนี้ดีๆ เราจะพบความซ้ำซ้อนของบทเรียน เช่นบ๊อกการ์ด, กรินดี้โรว์, พิกซี่, กัปปะ พวกนี้ตามหลักควรอยู่ในวิชาเกี่ยวกับสัตว์วิเศษรึเปล่า? ยาหลายตัวในชั้นเรียนของสเนปมีความใกล้เคียงกับศาสตร์มืด เขาสามารถสอดแทรกบทเรียนเข้าไปได้อย่างง่ายดาย
ดังนั้นการที่ไม่มีใครอยู่ในตำแหน่งวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืดได้จนครบปีดูจะเป็นการบ่งชี้ความบกพร่องในการบริหารงานของฮอกวอร์ต--แม้มันจะถูกใส่เข้ามาเพื่อประโยชน์ในการดำเนินเรื่อง คือให้มีเรื่องแย่ๆ ให้เป็นอุปสรรคสำหรับพระเอกในแต่ละภาคแต่ก็ไม่ได้เปลี่ยนข้อเท็จจริงที่ว่าดัมเบิลดอร์ไม่ใช่คนมีความรับผิดชอบอย่างที่ทุกคนเชื่อ แต่ทางกลับกันเขารับผิดชอบแต่เรื่องใหญ่ๆ (ในสายตาของเขา) และละเลยเรื่องเล็กๆ ซึ่งจริงๆ แล้วไม่เล็กเลย
อีกประการ การเรียนการสอนของฮอกวอร์ตสื่อถึงตรรกะของผู้วิเศษที่ว่าเวทมนตร์สำคัญที่สุด--นอกนั้นไม่มีความหมาย ไม่มีการศึกษาวิชาภาษาที่นี่ราวกับคาดหมายว่าเด็กที่เรียนที่บ้านหรือจบจากประถมจะเขียนรายงานถูกต้องตามหลักภาษา 100% และไม่มีคำผิดซักคำ ไม่มีการศึกษาวรรณกรรมที่นี่ ไม่มีการสอนวิชาสุขศึกษาราวกับคาดหมายว่านักเรียนทุกคนต้องรู้อยู่แล้วว่าประจำเดือนคืออะไรและฝันเปียกคืออะไรและจัดการกับมันได้เมื่อมันมาถึง
บางครั้งผมสงสัยว่านักเรียนปี 5 ที่เริ่มต้องปรึกษาเรื่องอาชีพแล้วแท้ๆ แต่ไม่มีการพูดคุยเกี่ยวกับวิชา "กฎหมาย" แฮร์รี่อุส่าห์อยากเป็นมือปราบมารแต่ไม่จำเป็นต้องเรียนกฎหมายแพ่งและอาญาเหรอ? จะเป็นผู้รักษากฎหมายไม่ต้องเรียน 'ป. วิฯ อาญา' เหรอ--โดยเฉพาะกฎหมายที่ว่าด้วยลักษณะความผิด ปี 6-7 มันควรต้องเรียนและสอบด้วยรึเปล่าวะ?? หรือเจ้านักงานต้องไปเรียนระหว่างฝึกงาน 2 ปีกับเจ้านายตัวเอง
ถ้าใช่ก็เป็นไปได้ว่ากฎหมายโลกเวทมนตร์นั้นน่าทื่อและเต็มไปด้วยช่องโหว่มากมายที่พวกหัวหมอใช้งานได้ ลองกลับไปอ่านเล่ม 5 อีกครั้งเราจะเห็นภาพการพิจารณาคดีที่ดัมเบิลดอร์สามารถตีกินอย่างง่ายดายราวกับทุกคนที่นั้นไม่รู้หลักกฎหมายและตั้งข้อกล่าวหาขึ้นมาเล่นงานแฮร์รี่แบบโง่ๆ การพิจารณาคดีในเล่ม 4 ก็ยิ่งชัดว่ากระทรวงสามารถเล่นงานใครก็ได้ด้วยข้อหาซี้ซั่ว รวมทั้งคนที่หลุดคดีก็หลุดด้วยการแก้ตัวแบบซี้ซั้ว
JK Rowling บอกชัดว่าศาสนาในโลกเวทมนตร์มีหลากหลายทั้ง คริสต์ ฮินดู ยิว อื่นๆ แต่เราไม่เคยได้ยินว่านักเรียนแวะไปที่โบสถ์ที่ฮอกมีดส์ในวันอาทิตย์ อันที่จริงผมไม่ติดใจจุดนั้นแต่ติดใจที่ว่าไม่มีการสอนหลักจริยธรรมที่โรงเรียนนี้เลยเหรอ? คณิตศาสตร์ก็เป็นเพียงวิชาเลือกเสรีไม่ใช่วิชาบังคับ ผู้อ่านอาจจะไม่เห็นปัญหาตอนอ่านเขาสนุก แต่เมื่ออ่านให้ลึกๆ จะเห็นชัดว่ามากแค่ไหนที่โรงเรียนได้ผลักภาระมากมายมาที่ผู้ปกครอง
ในระบบโรงเรียนเวทมนตร์ นักเรียนที่อายุ 11 ปีทุุกคนถูกคาดหมายว่าต้องอ่านเขียนได้อย่างสมบูรณ์แบบ ต้องบวกลบคูณหารเป็น ต้องรู้วิธีดูแลตัวเอง ต้องรู้จักมารยาท ต้องรู้จักกฎหมายบ้านเมือง ต้องมีศีลธรรมและเข้าใจมันอย่างถูกต้อง แต่นักเรียนก็แสดงให้เราเห็นตลอด 7 เล่มว่าสิ่งที่โรงเรียนขอจากผู้ปกครองก็มากเกินไป เด็กๆ ไม่รู้อะไรเลยนอกจากเวทมนตร์ ถ้าเด็กเรียนไม่ทันเพื่อนคือเด็กโง่, ไม่สนใจเรียน, แทนที่จะพิจารณาว่าเด็กอาจจะมีพื้นฐานไม่พอ
พูดถึงภาษา... เราจะยอมรับมั้ยครับว่าบางที เรียน ม.3 แล้วหลายคนยังเขียนหนังสือไม่ถูก ขนาดจบมหาวิทยาลัยยังผันวรรณยุกต์ผิดเลย ผมเองจบป.โท ก็ยังเขียนหนังสือตกหล่น และภาษาอังกฤษก็มีความยากและความลึกเช่นกันที่แม้แต่เด็กฝรั่งก็ต้องเรียนยันม.6 แล้วมันเมคเซนส์หรือไม่ที่ฮอกวอร์ตไม่มีวิชาภาษากฤษ? อุส่าห์เปิดหลักสูตรภาษารูนแต่ไม่คิดว่าการที่เด็กนักเรียนต้องมีความรู้ความเข้าใจในภาษาอังกฤษก็สำคัญเหรอ??
แล้วพูดไปก็น่าจะต่อยหน้าคนออกแบบหลักสูตรซักปาบ มีปัญญาเปิดหลักสูตรวิชาภาษารูนแต่ไม่มีปัญญาเปิดหลักสูตรวิชาภาษาลาตินทั้งๆ ที่จอมเวทย์ทุกคนต้องใช้ภาษาลาตินในการร่ายเวทย์ ไม่รู้ว่าไม้กายสิทธิ์เคลือบแกนกลางด้วยน้ำจากสมองคนลาตินรึไงมิทราบมันถึงต้องร่ายคาถาด้วยภาษาลาตินเท่านั้น (ร่ายภาษาจีนไม่ได้เหรอ?) แต่ถ้ามันกระสันจะฟังภาษาลาตินขนาดนั้นทำไมไม่เปิดหลักสูตรภาษาลาตินไปเลย
1
แล้วภาษาลาตินก็มีประโยชน์กว่าวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืดแน่นอน เผลอๆ จะสามารถแทนที่วิชานี้ได้อย่างสมบูรณ์ไม้เว้นแม้แต่วิชาคาถา เพราะรากของการใช้ไม้กายสิทธิ์นอกเหนือจากเวทมนตร์ก็คือภาษาลาติน หากนักเรียนได้เรียนวิชานี้พวกเขาสามารถเข้าใจรูปแบบของศาสตร์มืดและคำสาปมากมายจากการถอดความหมายของภาษาลาตินไปสู่การสร้างถ้อยคำแก้คำสาป
และเผลอๆ เจ้าชายเลือดผสมจะไม่ใช่อัจฉริยะคนเดียวเพราะใครๆ ก็จะประดิษฐ์คาถาได้
ดังนั้นอย่าประหลาดใจที่โลกเวทมนตร์ไม่สามารถขึ้นมาอยู่บนดินได้แต่ต้องหลบซ่อนจากพวกมักเกิ้ลตลอดไป องค์ความรู้ของพวกผู้วิเศษต่ำมาก ถ้าไม่มีเวทมนตร์และโลกเวทมนตร์พวกเขาแทบจะทำอะไรไม่ได้ เผลออาจจะต้องเป็นอาชญากร
แต่ก็เป็นไปได้ว่านี่คือรูปแบบของการรักษาอำนาจของโลกเวทมนตร์ที่เข้ามาควบคุมคนทั่วไปไม่ให้เข้าถึงศักยภาพสูงสุดด้วยการทำให้พวกเขาเชื่อว่าพวกเขาได้รับการยอมรับและได้เรียนรู้ทุกอย่างแล้ว แต่แท้จริงแล้วทางการได้ขังพวกเขาไว้ในกะลาที่เรียกว่า "หลักสูตรโรงเรียนเวทมนตร์"
โฆษณา