8 ก.ค. 2023 เวลา 01:00 • อาหาร

‘อาหารเช้า’ เกิดจาก ‘โฆษณาชวนเชื่อ’ ไข่ดาว เบคอน ซีเรียล คือการตลาดของนายทุน

มนุษย์ไม่ได้กินอาหารสามมื้อตั้งแต่แรก! เจาะลึกการตลาด “อาหารเช้า” ผลักดันซีเรียล-ไข่-เบคอนสู่ “มื้อที่สำคัญที่สุด” พบ เริ่มต้นหลังปฏิวัติอุตสาหกรรม นักการตลาดเห็นช่องทำเงิน ผสานความเชื่อศาสนา-กังวลสุขภาพ ดันแคมเปญ “อาหารเช้าช่วยให้งานมีประสิทธิภาพ” ด้าน “ไทย” ขานรับ “กินสามมื้อ” จากต่างชาติด้วย
3
“อาหารเช้า” เป็นมื้อที่สำคัญที่สุดของวันตั้งแต่จำความได้ โดยมักมีการเชื่อมโยงระหว่างอาหารกับความเจ็บป่วยทางร่างกาย รวมถึงความจำเป็นที่เกี่ยวข้องกับการเรียน-การทำงาน บ้างก็ว่า หากไม่กินข้าวเช้าจะส่งผลให้ร่างกายเจ็บป่วย สมองไม่มีสารอาหารไปหล่อเลี้ยง ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานลดลง เรียนหนังสือได้ไม่เต็มที่ ทั้งหมดนี้ถูกเชื่อมโยงเข้ากับการรับประทานอาหารมื้อเช้าทั้งสิ้น
2
แต่รู้หรือไม่ว่า แรกเริ่มเดิมที “มนุษย์” ไม่ได้กินข้าวสามมื้อ และคนไทยเองก็เพิ่งรับเอาวัฒนธรรมการกินอาหารครบ “สามมื้อ” มาภายหลังชาติตะวันตกจัดรูปแบบการกินใหม่
1
วัฒนธรรมการกินอาหารสามมื้อโดยมีมื้อเช้าอย่าง “ซีเรียล” และ “ไข่-เบคอน” เป็นตัวชูโรง เกิดจากการสร้างมายาคติอาหารเช้าด้วยการผสานความเชื่อทางศาสนาและกลยุทธ์การตลาดไว้ด้วยกัน ซึ่งเกี่ยวโยงกับการเติบโตของอุตสาหกรรมอาหารประเภทธัญพืชและอุตสาหกรรมอาหารแปรรูปอย่าง “เบคอน” ที่ได้สร้างแคมเปญทางการตลาด เพื่อโน้มน้าวให้ผู้คนหันมารับประทานสินค้าจากโรงงานของตัวเองมากขึ้น
2
แจ็คสันเป็นนักเทศน์ ส่วนเคลล็อกก์ คือ ชายผู้เคร่งศาสนา ที่ในเวลาต่อมาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้อำนวยการสถานพยาบาลที่ตั้งอยู่ในรัฐมิชิแกน โดยสถานพยาบาลแห่งนี้ได้รับเงินสนับสนุนจากคริสต์จักรที่เคลล็อกก์ได้รับการเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็ก แจ็คสันและเคลล็อกก์สนิทสนมกันเพราะต่างเป็นมิชชันนารีที่มีความเชื่อว่า ศีลธรรมทางศาสนาเชื่อมโยงกับการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ ทั้งสองคนมองว่า หากเรากินอาหารที่ดี หลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์ ทานมังสวิรัติ งดแอลกอฮอล์และยาสูบ ก็จะช่วยส่งเสริมศีลธรรมเพิ่มขึ้นอีกชั้นหนึ่งด้วย
4
ทั้งสองเริ่มต้นเส้นทางธุรกิจและแผ่ขยายความเชื่อเหล่านี้ในสถานพยาบาลที่เคลล็อกก์เป็นผู้อำนวยการก่อน เขาเริ่มแนะนำให้ผู้ป่วยที่เข้ามารักษารู้จักกับอาหารมังสวิรัติและรับประทานอาหารประเภทโฮลวีตเพื่อรักษาอาการเจ็บป่วย และด้วยความเป็นนักบวชมิชชันนารีทั้งสองจึงมี “วาทศิลป์” เปลี่ยนความคิดผู้คนให้เปิดใจคล้อยตามได้ไม่ยาก นอกจากจะเชื่อมโยงกับอาการอาหารไม่ย่อย เคลล็อกก์ยังแนะนำด้วยว่า การกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพสื่อถึงการเคารพตัวเอง หากกินอาหารที่ดีมีประโยชน์ก็จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้ดียิ่งขึ้น
ช่วงต้นทศวรรษ 1900 แบรนด์ซีเรียลธัญพืช “เคลล็อกส์” (Kellogg’s) จึงถือกำเนิดอย่างเป็นทางการในปี 1906 “เคลล็อกส์” ทำการอัดฉีดเม็ดเงินเพื่อทำแคมเปญการตลาดส่งเสริมแบรนด์ต่อเนื่องประกอบกับในช่วงเวลานั้นได้มีการเพิ่มคุณประโยชน์เข้าไปมากกว่าที่จะเป็นเพียงซีเรียลข้าวโพด-ธัญพืชอบกรอบเพียงอย่างเดียว ชูเรื่องวิตามินในซีเรียลเข้าไปด้วย ทำให้อาหารเช้ามีความสำคัญมากขึ้น
3
รวมถึงให้ทุนสนับสนุนการวิจัยของตนเองเพื่อนำมาใช้เป็นเครื่องยืนยันถึงประโยชน์ของธัญพืชและนมซึ่งในเวลาต่อมาได้กลายเป็น “ภาพจำ” ว่า ซีเรียลต้องกินคู่กับนมในตอนเช้า
ดินาร์ บุญธรรม ผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์และโบราณคดีของไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เคยให้ข้อมูลเกี่ยวกับ “อาหารเช้าของคนไทย” ไว้ว่า แรกเริ่มเดิมทีคนไทยใช้ชีวิตอยู่ริมแม่น้ำลำคลอง แหล่งอาหารที่ใกล้ตัวที่สุด คือ แม่น้ำ เนื้อสัตว์ที่คนไทยนิยมบริโภคจึงเป็น “ปลา” เพราะสามารถหาจับมาปรุงอาหารได้ง่าย จึงเป็นที่มาของสำนวณคุ้นหูอย่าง “กินข้าวกินปลามาหรือยัง”
4
ส่วนการแบ่งมื้ออาหารสามมื้อ เช้า กลางวัน และเย็นอย่างชัดเจนนั้น เป็นวัฒนธรรมการบริโภคอาหารที่รับมาจากชาติตะวันตกซึ่งเกิดขึ้นในช่วงการปฏิรูปบ้านเมืองให้ทันสมัยตั้งแต่ปลายรัชกาลที่ 3 จนถึงรัชกาลที่ 6 ซึ่งไม่ใช่แค่อาหารการกินเท่านั้นแต่ยังรวมถึงการแต่งกาย งานอดิเรก ตลอดจนรสนิยมต่างๆ ที่ไทยเริ่มรับมาจากตะวันตกเพื่อให้ดูทันสมัยมากขึ้น
โฆษณา