9 ก.ค. 2023 เวลา 00:02 • ข่าว

เปิดใจฟังคนเก่งรุ่นใหม่ ได้มากกว่าที่คิด

คอลัมน์ : Pawoot.com ผู้เขียน : ภาวุธ พงษ์วิทยภานุ
บางครั้งการที่เรามีโอกาสได้พูดคุยกับเด็กหรือคนรุ่นใหม่มักมีอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ แม้ว่าบางครั้งเราคุยไป 3-4 คนที่อาจจะไม่โอเค แต่ผมเชื่อว่าในเด็กรุ่นใหม่กลุ่มใหญ่ที่เมื่อเราโยนคำถามที่ถูกต้องไปให้เขา เราจะได้คำตอบใหม่ ๆ ที่มีความท้าทายกลับมาหาเราบ่อย ๆ
แต่บางคำตอบที่เราได้กลับมานั้น บางทีบอกได้เลยว่ามันจี๊ดมาก บางทีเด็กรุ่นใหม่บางคนเขาไม่ฟัง จะพูดแทรกขึ้นมาเลย เราต้องใจเย็นมาก บางครั้งบางคนก็ไม่มีเนื้อหาสาระ แต่บางทีการพูดแทรกขึ้นมาของบางคนมันก็ใช่เลย มันตรงมาก
ปกติคนทั่วไปหรือเจนเอ็กซ์เจนวายอาจไม่กล้าขนาดนี้ แต่เด็กรุ่นใหม่บางครั้งที่เราไปจี้จุดบางอย่างเขาจะกล้าพูดกล้าแสดงความคิดเห็นออกมา ผมเองก็ทราบว่าเราคนละเจนกัน จึงพยายามฟังเขา ผมว่าผมได้อะไรบางอย่างจากพวกเขาเยอะเลยครับ
ลองใจเย็นแล้วฟังเขาดูก่อน อาจไม่ใช่ทุกอย่างที่เราใจเย็นฟังเขาแล้วเราจะได้อะไร 100% แต่ผมเชื่อว่าหากเรายอมเปิดใจกว้าง ๆ ยอมรับว่าพวกเขาเป็นเด็กรุ่นใหม่ เติบโตมาคนละสิ่งแวดล้อมกับเรา และพวกเขามีแนวความคิดเป็นแบบใหม่ ซึ่งแนวความคิดแบบนี้น่าสนใจมาก และอาจทำให้ธุรกิจของเราเติบโตขึ้นก็ได้ เพราะธุรกิจของผมเป็นธุรกิจออนไลน์ด้วยนั่นเอง
อย่างที่ผมพบมา เมื่อพวกเขาพูดออกมา ผมรู้สึกว่ามันใช่เลย ผมฟังแล้วก็คิดว่าจะซัพพอร์ตเขา จนกระทั่งแนวความคิดบางอย่างที่เขาเสนอมากลายมาเป็นกลยุทธ์บางอย่างของบริษัท นี่คือสิ่งหนึ่งที่ผมคิดว่าน่าสนใจ
ในฐานะผู้นำเราเองก็ต้องพยายามคัดกรอง แต่ไม่ใช่ว่าอะไรที่ไม่เข้าหูเรา จะตัดออกไปหมด เพราะวันนี้โลกเปลี่ยนไปแล้ว สิ่งที่เราคุ้นเคย สิ่งที่เราชอบอยากฟัง มันอาจเคยดีเมื่อ 5-6 ปีก่อน แต่วันนี้อาจไม่เวิร์กแล้วก็ได้
ฉะนั้นต้องกลับมาถามตัวเองว่า ในฐานะผู้บริหาร เคยเปิดโอกาสให้เด็กรุ่นใหม่ขึ้นมาพูดกับเราหรือไม่ ถ้าคุณเป็นคนเจนเบบี้บูมเมอร์คุยกับคนเจนเอ็กซ์ แน่นอนว่าคนกลุ่มนั้นจะ compromise จะพูดในสิ่งที่เราอยากฟัง แต่เราเคยเปิดโอกาสให้กลุ่มเจนวาย เจนแซดหรือรุ่นใหม่ ๆ มาพูดกับเราไหม
ผมว่าน่าจะได้อะไรบางอย่างที่ช่วยกระตุกแรง ๆ เลยว่าทำไมเราไม่ทำแบบนั้น หากองค์กรเรามีกลุ่มคนรุ่นใหม่ หากคุณใช้เขาเป็น และเข้าใจเขา คุณจะค้นพบว่ากลุ่มคนรุ่นใหม่มีศักยภาพสูงมาก ทั้งเข้าใจเรื่องออนไลน์ เข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภครุ่นใหม่ เข้าใจหลาย ๆ อย่าง
ต้องถามตัวเองว่า เราปิดกั้นตัวเองอยู่หรือไม่ เรายังใช้ความเชื่อในกรอบเดิม ๆ อยู่หรือไม่ สิ่งนี้เป็นเรื่องน่ากังวล เพราะเราจะกลายเป็นคนที่บริหารในกรอบแบบเดิม ๆ ในขณะที่โลกรอบนอกเปลี่ยนไป ผู้บริหารที่เข้าใจในเจเนอเรชั่นของตัวเอง เข้าใจเด็กรุ่นใหม่ และเปิดใจกว้าง ฟังเขาและไม่ตัดสิน ผมเชื่อว่าตรงนี้แหละที่เราจะได้อินพุตอะไรเข้ามา
ผมเชื่อว่าตรงนี้เป็นจุดสำคัญที่จะทำให้มุมมองของเราเปลี่ยนและเข้าสู่ภาวะสมดุลจนทำให้เราสามารถปรับตัวเองเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงของธุรกิจในปัจจุบันได้ แต่ถ้าเรายืนกรานไม่ยอมรับ ไม่เปิดใจ ไม่รับฟังคนรุ่นใหม่ ยังจะเป็นตัวเองอยู่ ผมว่าอันนี้มีความน่ากังวล เพราะโลกเปลี่ยนไปแล้วจริง ๆ
โฆษณา