7 ก.ค. 2023 เวลา 11:55 • ไลฟ์สไตล์
นครนิวยอร์ก

นิวยอร์กกู New York Kitchen University: ตอน Cat Fest 2023

สวัสดีครับพี่น้องชาวนิวยอร์กกู ทุกคนนะครับ ช่วงนี้ ผมกับโจ้ก็ขอหลบลมร้อนของนิวยอร์ก แว่ปมาพักร้อนที่เมืองไทย (เด๋วๆ นะ มาพักร้อนมาเมืองไทย หายร้อน?) คือ เรื่องของเรื่องคือ ได้เวลาพักผ่อนประจำปีแล้ว ผมก็ขอลางานที่บริษัท พอโจ้รู้ปุ๊ป ก็ขอลางานที่ร้านด้วย บอกหาเพื่อนเที่ยวมานานแล้ว แม้ผมจะห้ามมัน ด่ามัน บอกมัน ว่าไม่อยากไปกับมัน แต่ก็โดนลูกคะยั้นคะยอ จนคอคะเยอ หลวมตัวให้มันมาด้วยจนได้ เห่อ…
พอกลับมาไทยโจ้ก็บ่นเป็นหมาเหยียบรังแตน ร้อนๆๆๆๆ ก็นี่มันเมืองไทยนะโว๊ย มี 2 ฤดู ฤดูร้อนกับฤดูร้อนมว๊ากกกส์ สายตาของโจ้ดันเหลือบเห็นงานคอนเสิร์ตของ CAT Radio หรือที่เรียกกันว่า CAT Festival งานเทศกาลดนตรีอันลือชื่อ อารมณ์ประมาณ Baby Woodstock Thailand นั้นเอง จะพลาดได้อย่างไร ใช่ม๊ะ?
“Blackhead, Scrubb, Polycat, พราว โอ๊ยๆๆๆ Greasy Cafe!” โจ้พล่าม พลางโชว์ Line Up ให้ผมดู แบบว่ามันลอยไปไกลมากแล้ว คือ รู้จักเหลือไม่กี่วงแล้วนะ ส่วนไอ้วงที่เหลืออย่าง Proxie, หรือซาร่าอะไรนั้น พวกผมไม่รู้จักเลยสักคนเดียว
บรรยากาศหน้างานและ Line Up
“โห วงไรวะเนี่ยที่เหลือ รุ่นไหนเนี่ย ไปก็ไปเป็นปู่แล้วมั้งงานนี้ ยังจะไปอีกเหรอ?” ผมแซว
“เฮ้ย อย่าไปกลัว ต้องไปวาดลวดลายให้รุ่นเด็กๆ มันดูมั่ง งานนี้ ให้มันรู้ซะบ้างว่า New Yorker เขา Rave กันยังไง” โจ้ตอบแบบไม่เกรงกลัวโดนเด็กโบกเลย ผมก็อ่ะๆ ก่อนจะจัดแจงหาแนวร่วมได้เพื่อนสาวมาคนนึง ชื่อ ทาทา เพื่อนเก่าสมัยเรียนด้วยกัน ถามนาง นางบอกอยากมาดู Proxie วง T-Pop ขวัญใจนาง
ย้อนความนิดนึง โจ้บอกว่า งาน CAT Fest ครั้งสุดท้ายที่ไปร่วมงานนั้น เรียกได้ว่านานมาก ตั้งแต่สมัยจัดที่ แดนเนรมิตร ตอนนั้นอาจจะเรียกว่าเป็น FAT Fest ด้วยซ้ำ เพราะชื่อคลื่นวิทยุยังไม่เปลี่ยน
ความประทับใจในงานครั้งนั้น มันยังตราตรึงอยู่ในความทรงจำ มีศิลปินจากหลายค่าย หลายประเทศ มาร่วมงาน มี Street Art, Street Fair เต็มไปหมด เครื่องเสียงก็กระหึ่ม คือ ขนาดนานเกือบ 2 ทศวรรษ ความทรงจำยังคงมีสีสันชัดเจน
จริงๆ ก็ตั้งแต่เข้า Covid-19 แล้ว ที่เราไม่ได้ไปออกคอนด้วยกันเลย พอโจ้กลับไทยแล้ว มาเจองานรวมศิลปินต่างๆ ที่ต้องบอกว่าทั้งตัวมันและตัวผมก็ชอบด้วยแล้วนั้น มันก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องปฎิเสธการไปร่วมงานคอนเสิร์ตในประเทศไทยครั้งแรกในรอบเป็นเกือบ 2 ทศวรรษของพวกเรา
พอเข้าวันงาน พวกเราก็รวมตัวกัน 3 หน่อ หน้างาน เตรียมพร้อมที่จะเข้างานไป Enjoy กันให้เต็มที่
“โอ้ว แม่เจ้า ขุ่นพระ” โจ้ร้องทันที ที่เดินเข้างาน ข้างในแบ่งเวทีออกเป็น 2 ฝั่ง ตรงกลางเอาไว้ขาย Merch
“ไม่รู้จักสักวงเลยว่ะ 555” โจ้บอก ผมเองก็แอบผงกหัวเห็นตามมันไปด้วย เพราะว่าชื่อแต่ล่ะวง Booth แต่ละ Booth นี่ ไม่รู้จักเลยจิมๆ สงสัยเราจะแอบแก่ 555
เดินดูสักพัก พวกเราไม่รีบซื้อเสื้อกันอยู่แล้ว เพราะว่าขี้เกียจถือ ก็เตี๊ยมกันมาว่าจะมาซื้อเอาตอนเลิกงาน จะได้ซื้อเสร็จแล้วก็แยกย้ายกลับบ้านได้เลย ไม่ต้องกลัวเลอะ กลัวหาย
“โต้ๆ ไป เวทีนู่นเร็วๆ Proxie เริ่มแล้ว กรี๊สส…” ทาทาบอก ก่อนจะลากพวกเราไปที่เวที พอเข้าโซนคอนเสิร์ต ผมกับโจ้ก็ทำหน้างงๆ หันมามองหน้ากัน
ที่หน้างงๆ เพราะว่า เครื่องเสียงของงานมันเบามาก แถมเหมือนจะมีเฉพาะข้างหน้าเวทีเท่านั้น คือ ปรกติเวลาไปคอน เครื่องเสียงมันต้องทรงพลัง อย่างน้อยลำโพงต้องมีข้างหน้าและตรงกลาง เพื่อจะส่งอารมณ์ของศิลปิน พร้อมด้วยเสียงเพลงมาให้ถึงข้างหลังใช่ม่ะ แต่นี่ คือแบบแทบจะต้องเงี่ยหูฟัง มันอัลไลกัล….
อย่างไรก็ตาม เรื่องเครื่องเสียงไม่มีผลกับทาทา เพราะนางกลายร่างเป็น FC ไปเรียบร้อยแล้ว ร้องกรี๊สๆ ปากก็บอกว่า หล่อๆๆๆๆ หล่อทุกคนเลย เอิ่ม…
“ร้องกรี๊ส อย่างกับใครเหยียบหาง แหม่…เกิดเร็วกว่าหลานๆ ไปแค่ 30 ปีเองนะป้า” โจ้แซว ก่อนจะบอกว่า ปล่อยหลานๆ เขาไปเหอะ 555 ทาทามองค้อนนิดหน่อย ทำเหมือนหูทวนลมที่ออกจากปากหมา
หนุ่มน้อยวง Proxie ก็ร้องเล่น ก็เต้นเพลงของพวกเขา ทำอะไรสาวๆ ก็กรี๊ส ผมฟังแล้วก็ชอบนะ คือ มันไม่ใช่แบบก็อปเกาหลีจัดๆ หรือเลียนแบบญี่ปุ่นมาจ๋าๆ คือ เหมือนยังมีเอกลักษณ์ความเป็นป็อปแบบไทยอยู่ ฟังแล้วก็เพลินดี แม้จะฟังไม่ออกก็ตาม อย่างที่บอก เครื่องเสียงมันแย่มั่กๆ
“ร้องไรวะ ฟังไม่ได้ยินเลย” โจ้บ่น ก่อนจะขอตัวไปหาน้ำยอดข้าวกิน เพื่อเพิ่มความสนุกเสียก่อน
“เด๋วกูซื้อเผื่อไม่ต้องห่วง” ก่อนที่โจ้จะจากไป
น้ำยอดข้าว
ผมสังเกตุเห็นถึงความงุนๆ ยังไงไม่รู้ “ทาทา ทำไมเด็กไทยดูคอนเสิร์ตแล้วเงี๊ยบเงียบอ่ะ” ผมถามเพื่อนสาว คือ วัยรุ่นไทยยืนกันนิ่ง นี่มึงมางานคอนเสิร์ตหรือโดนใครบังคับให้มาถวายบังคม?
“ทาทา ทำไมวัยรุ่นไทย ยืนกันเงี๊ยบๆ อ่ะ มือก็กดโทรศัพท์ถ่ายวีดีโอ คือ มางานเจอศิลปินทั้งที แทนที่จะมองตัวศิลปินจริงๆ กลับไปมองศิลปินจากหน้าจอโทรศัพท์ซะงั้น” ผมถามก่อนจะเสริมต่อ ก็เด็กๆ เขายืนนิ่ง ไม่โยก ไม่เต้นอะไรกันเลย
“จริง เดี๋ยวนี้เด็กไทย ดูคอน เป็นแบบนี้กันหมดแหละ ถ่ายคลิปลง Social แต่ไม่ฟังศิลปินเลย” ทาบอก โจ้กลับมาได้ยินพอดี
“ Don’t worry. เด๋วเราจะโชว์ให้ดูเอง ว่า New Yorker เขา Rave กันยังไง โย้วๆ เช็ค-อิท-เอ๊าท์!” ก่อนจะแจกเบียร์ให้พวกเราคนละ 2 กระป๋อง เอ้าโชนนน… เด๋วนะ นี่มึงจะรีบไปไหน
โจ้มันเหมือนตายอดตายอยาก หิวเบียร์มาจากไหนไม่รู้ เปิดกระป๋องที ดื่มพรวดๆ เหมือนน้ำเปล่า ก่อนจะเริ่มโยกเยก เหมือนมันเป็น FC ตัวยงของศิลปินคนนั้น ตัวมันก็สูง 185 ได้ ใหญ่เกินเด็กไทยไปเยอะ ยกมือ ยกไม้ที ก็เหมือนจะบังคนอื่นไปหมด แถมยังมีหมวกสีน้ำเงินปีกกว้างๆ ที่มันใส่ไว้ด้วยนะ ที่ทำให้มันเด่นกว่าชาวบ้านเขา
“โต้ เพื่อนยู ไปโดนตัวไหนมา?” ทากระซิบถาม 555 ผมเองก็ตอบไม่ได้เหมือนกัน จะทิ้งให้เพื่อนเต้นอยู่คนเดียวก็เสียชื่อ ว่าแล้วก็เต้นลากทาทา มาเต้นไปกับมัน สนุกกันอยู่ 3 คนก็ได้วะ!
จบ Proxie เราก็ย้ายมา Sarah ที่อีกเวทีนึง ก่อนจะมาหา Blackhead ที่กำลังจะขึ้นเล่น พวกเราก็ไปยืนดื่ม รอพี่ๆ เขา Set Up เครื่องเสียงกัน ระหว่างนั้น คริส หอวังก็ขึ้นมาบนเวที พร้อมแจกของรางวัล ร่วมกับพิธีการชายอีก 2 คน
“ไหนใครจำได้บ้างคะ ว่า สมัยนู้นที่คริสจัดรายการ ชื่อรายการอะไร” คริสถามออกมา เงียบทั้ง Hall ไม่มีใครรู้ แต่แล้วก็มีคนยกมือโด่เด่ออกมา คุณก็น่าจะรู้ว่า ใครจะเป็นคนยกมือ… จะเป็นใคร้… ถ้าไม่ใช่ไอ้โจ้!
“เฮ้ย มึงรู้เหรอวะ ว่ารายการอะไร?” ผมถามโจ้ โจ้ยิ้มมุมปากให้ทีนึง ก่อนจะหันไปตอบคริส ที่รอฟังคำตอบ
“ผมไม่รู้ครับ ผมแค่อยากคุยกับคุณครับ!” โจ้ตอบ ตึ่งโป๊ะ! โจ้ หนังหน้ามึงทำด้วยอัลไล! คริสยิ้มให้โจ้ทีนึงแต่ผมเดาได้ว่า มันหน้าจะหมายความว่า ‘เสี่ยว!’ 555 ก่อนจะหันไปเล่นกับคนดูคนอื่นต่อ
“555 ตายตาหลับแล้วว๊อย ได้คุยกับวีเจจ๋ากะเขาแล้ว” โจ้บอก
“เขาชื่อ คริส หอวังโว๊ย” ผมกับทาทา ตอบพร้อมกัน 555
ก่อนจะเข้า Blackhead ที่มากับเพลงดังๆ ทั้งนั้น อย่างเพียงกระซิบ, อย่างฉันอยู่ตรงนี้, ยอมรับ, เพลงยิ่งโตยิ่งสวย พวกเรา 3 คนนี่เรียกว่า เมามันส์ร้องเพลงแหกปากแบบ ไม่อายลูกหลานกันเลยทีเดียว ก่อนที่น้อง Jan Chan จะขึ้นมาร้องด้วย
ผมกับโจ้หันมามองหน้ากัน “นี่มันอัลไล?” ก่อนที่ทาทา จะบอกว่า น้องเขาเป็นแฟนพี่ปู มาจาก BNK
“ว๊อต เดอะ ฟลั๊ก!” ผมกับโจ้อุทานพร้อมกัน กินเด็กแล้วเป็นอมตะ มิน่าพี่ปูยังดูหนุ่มขนาด 555
ก่อนที่พี่ปูจะเปลี่ยน Blackhead เป็นวง Project H ให้กับน้องเขา เล่นเอาโจ้บอก ฟังแล้วรับไม่ได้ ยังไงไม่รู้ เอานะโจ้ เราเข้าใจ Idol เราสมัยวัยรุ่นอ่ะนะ
ก่อนจะโดนโจ้ลากไปวง Scrubb, ที่น่าจะเรียกได้ว่าคนแน่นสุดแล้วในงานนี้นะ
“ดาวนับร้อยที่ลอยอยู่บนท้องฟ้า…” ผมกำลังร้องคลอไปกับพี่เมื่อย หันมามองไอ้โจ้ มันกระโดดหยองๆ เฮ้ย มึงกระโดดกับเพลงของ Scrubb เนี่ยนะ นี่มึงกินเบียร์ยี่ห้อไหนวะเนี่ย ไหงมันดีดแรงจังซี๊!
แรงไม่แรง ก็แรงขนาดเด็กๆ ข้างๆ หันมามองค้อน บอกว่าเหยียบเท้าเขาเข้า แต่แทนที่โจ้จะสำนึก เปล๊า ไม่สนใจ เต้นของมันต่อ 555
อย่างไรก็ตาม แต่ละวงเล่นกันสั้นมาก ครึ่งชั่วโมงยังไม่ถึงเลยก็จบแล้ว เรียกว่า ยังไม่ทันจะเครื่องร้อนเลย จบแล้ว
ก่อนจะต้องแยกย้ายกันสักแป๊ป เพราะเพื่อนทาทาบอก อยากดูเวทีนี้ต่อ อยากดูน้องนนท์ ส่วนโจ้บอกอยากดู Greasy Cafe ขณะที่ผมกำลังจะให้โจ้ไปมันส์คนเดียว ผมจะขอดูน้องนนท์ด้วย ก็โดนโจ้ลากมาซะก่อน
“วงนี้กูชอบมากที่สุด โดยเฉพาะพี่เล็ก” โจ้บอก
“ที่ร้อง เธอคือความฝันใช่มะ?” ผมถาม
“นั่นมันพี่เล็ก วงพราว!” โจ้รับมุก 555 ก่อนจะโม้ต่อว่า “ไม่อยากอวยนะ เพลงของ Greasy Cafe เนี่ย มันเหมือนกับ กระดานวาดภาพ ที่ค่อยๆ แต่งแต้ม เติมสีสัน เติมลวดลายลงไประหว่างเพลง เมิงลองฟังดู” โจ้บอกจริงจัง
โจ้ก็โยกเยกอะไรของมันไปตามประสา ผมไม่มีทางเลือก ก็เลยลองตั้งใจฟังดู เออ จริงเว๊ย ฟังแล้วมันอินยังไงไม่รู้ ขนาดเครื่องเสียงในงานไม่ค่อยดีนะเนี่ย เอ๊ะ หรือเราเมาตามโจ้ไปแล้ว 555
ก่อนที่ วงสุดท้าย Polycat จะขึ้นมาจบงาน ผมก็ยืนร้องเพลงเพลินๆ เพราะเหนื่อยแล้ว
“โต้ๆ โจ้ไปไหนอ่ะ?” ทาทาถาม เพราะมองซ้ายขวา ไม่เจอโจ้ อ้าว เฮ้ย มันหายไปไหนวะ
ยังไม่ทันจะอะไร ก็เห็นหมวกปีกสีน้ำเงินของมัน โด่เด่กลับเข้ามา พร้อมกับรอยยิ้มกว้าง เห็นในมือโจ้ก็ร้องอ๋อ ก็เสื้อของ Greasy Cafe พร้อมกับลายเซ็นของพี่เล็กนี่เอง
“ดีใจ ได้เจอพี่เล็ก ได้คุยด้วยอ่ะ กรี๊สสส..” โจ้บอก
“แหม ทีตัวเองเจอพี่เล็กล่ะ ก็กรี๊สเหมือนกันแหละน่า” ทาทาแซวจนโจ้เขิน
สรุปว่า งานก็จัดแบบไม่ค่อยสมราคาบัตร หรือสมชื่อ Cat Fest เท่าไหร่ ยิ่งถ้าเทียบกับสมัยก่อนๆ ที่เหมือนมันมีศิลปิน มีงาน มีอะไรเต็มไปหมด รู้สึกถึงความ FESTIVAL ได้มากกว่า เป็น Booth โขว์ตัว Booth ขายของ มันมีความสนุกมากกว่าแยะ
เครื่องเสียงนี่ไม่ต้องพูดถึง งานนี้นี่ห่วยสุดในสามโลก ระบบการสแกนเข้างานก็มีปัญหา ส่งบัตรให้เพื่อนไม่ได้ ถ้าเพื่อนไม่ได้สมัคร App นี้ ดีที่งานมันเล็ก เดินออกมารับได้ง่าย ถ้าเป็นงานขนาดหลายหมื่นคน จะทำยังไง
ตรงกลางที่ขาย Merch ของกินก็มีแต่มาม่า คือ เข้าใจว่าที่จัดงานมีร้านอาหารเยอะ เดินออกมากินได้ แต่ถ้ามันเป็น Festival ก็ควรจะจัดให้มันอยู่ในงานซิ
ส่วนการแบ่งโซนดื่มกับไม่ดื่มนี่ก็แบบว่า นึกว่าอยู่ เมืองเปียงยาง เสรีภาพอยู่ตรงไหน?
ก็เป็นงานคอนเสิร์ตที่เงียบๆ งานนึง แต่พอจะเรียกได้ว่า อย่างน้อยก็ยังได้รับกลิ่นความมันส์ของเทศกาลดนตรีแบบเก่าๆ บ้าง แม้จะบางและจางเหลือเกิน หวังว่า ปีต่อๆ ไป จะแก้ตัว จัดงานได้ดีกว่านี้นะครับ
หากชอบใจ ฝากกดติดตาม กดไลค์ อ่านเรื่องราวอัพเดทของ นิวยอร์กกู NYKU: New York Kitchen University เรื่องวุ่นๆ ของพวกเราพี่น้องคนไทย ที่แปลงร่างเป็นมนุษย์ห้องครัวในมหานครนิวยอร์กได้ที่นี่นะครับ ขอบคุณครับ
โฆษณา