ไปเที่ยวถ้ำน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในโลกกัน!
จากความตั้งใจของอิชั้นที่ต้องการพาร่างกลับคืนสู่ธรรมชาติ ให้ธรรมชาติช่วยเยียวยาทั้งร่างกายและจิตใจ จนเทริปนี้อิชั้นถึงกับออกปากบอกเป้ว่า “อ้วนไม่ต้องจองโรงแรมให้แอมนอนมองห้างละนะ รอบนี้แอมอยากไปเที่ยวธรรมชาติเป็นหลัก” ใช่ค่ะ ปกติอิชั้นชอบเมือง นอนมองห้างก็มีความสุข 555 แต่พอชีวิตเดินมาจนถึงอายุช่วงหนึ่ง และทำงานตรากตร่ำมานานจนอยากกลับไปหาธรรมชาติให้ร่างกายและจิตใจได้พักจริงๆ
เอาละจ้ะ! และเมื่อตัดสินใจที่จะเที่ยวแนวธรรมชาติ สิ่งที่จะตามมาของการเที่ยวแนวธรรมชาติก็คือการ trekking สิคะ ซึ่งบอกเลยว่าทริปนี้อิชั้นสู้ตาย เพราะอยากให้ร่างกายแข็งแรงขึ้นด้วยค่ะ เรามาเริ่มที่แรกกันเลยดีกว่า เป็นการ trekking แบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว เพราะคนไทยไม่ค่อยมีรีวิวสถานที่แห่งนี้สักเท่าไหร่ ก็เลยเข้าใจว่าไม่น่าต้องเดินเยอะ แต่แม่เจ้า! เอาเข้าจริงนี่เดินกันไป 3 ชั่วโมง!! และที่นี่ก็คือ…
Eiriesenwelt Cave ถ้ำน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในโลกค่ะ!!
การเข้าชมถ้ำน้ำแข็งที่มีอุณหภูมิภายในอยู่ที่ 0 องศาน้านนนน เราก็ต้องเตรียมเครื่องกันหนาวกันมาให้พร้อมพรั่งใช่มั้ยคะ แต่ทางเดินขึ้นกว่าจะถึงปากถ้ำที่ตามป้ายบอกว่าใช้เวลาประมาณ 40 นาที แต่อิชั้นเดินจริงน่าจะ 1 ชั่วโมงฝ่าๆ ก็ทำให้ร่างกายเราอบอุ่นพอจะถอดเครื่องกันหนาวทุกอย่างออกจนเหลือแค่เสื้อแขนสั้น 😂 ยังไม่นับรวมช่วงขึ้นกระเช้าที่ชันฝุดๆ และสูงถึงขนาดเป้ต้องย่อขาลงไปนั่งเพราะสูงเหลือเกินสาม่ายหวายยยย 🤣🤣🤣 ทำให้กว่าเราจะเดินถึงปากถ้ำก็แอบถอดใจอยู่หลายหน
อาจเพราะไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจมาก่อนเลยว่าจะต้องมา trekking ที่นี่ ไม้ pole ก็ไม่ได้หยิบลงมาด้วย จนมาเจอกับเจ้าหน้าที่บริเวณขึ้นกระเช้าหลังเราเดินกันมาครึ่งทาง ซึ่งก็ให้กำลังใจเรามากว่า “ไม่ค่อยเจอคนไทยมาที่นี่เลย” อิชั้นตอบอย่างไม่ลังเลว่า “การเดินแบบนี้ไม่ใช่สไตล์ของเราเลยค่ะ 🤣🤣🤣” แต่พอได้ยินอย่างนี้ อิชั้นนี่ฮึกเหิม!! รู้สึกเหมือนเป็นตัวแทนประเทศ เป็นทีมชาติมาลงสนามในลีกนี้!! สู้เค้าสิวะอิหญิง!! ไปค่ะ!! เดินกันต่อ เรามาจนถึงจุดที่ว่า point of no return กันละค่ะ!!
พอเดินถึงปากถ้ำนี่ก็ครึ้มอยู่ในใจว่า…เราทำได้เว้ยยยยยย เราทำได้ๆๆๆๆ ดีใจอยู่ 15 วินาที ก็ได้ยินเสียงเรียก “English group come here” กลุ่มอิชั้นค่ะ ที่นี่จะมีไกด์ภาษาอังกฤษกับภาษาเยอรมันคอยเดินนำ และอธิบายไปด้วยตอนเดินอยู่ในถ้ำ ประโยคแรกที่คุณไกด์พูดมาคือ…เดี๋ยวเราจะเดินเข้าไปในถ้ำกันตามบันไดอีก 700 ขั้นและเดินกลับลงมาอีก 700 ขั้น!!!
อิชั้นหน้าซีดแล้ว1 ใจหวิวๆ ส่วนมือก็ควานหายาดมส้มโอมือมาสูดเข้าออก-เข้าออก เฮ้ย!! นี่ต้องเดินอีก 1,400 ขั้น!! เอาไงดีวะ?! และ…และ…ไกด์เรียกให้เดินตามเข้าไปละค่า ฮือออ 😭 พ้อยออฟโนรีเทิ้ร์นนนนน สู้โว้ยยยย!!
แต่คุณคะ…เชื่อมั้ยว่าธรรมชาตินี่สุดยอดจริงๆ 1,400 ขั้นที่อิชั้นเดินสิริรวมเวลาในถ้ำคือ 1 ชั่วโมงน้านนน อิชั้นเพลินเพลินตระการตามากจนอิชั้นไม่รู้สึกเหนื่อย (แต่ปวดเข่าขาลงนิดนุงนะคะ 😅) คุณดูตามรูปสิคะ…ใช่ค่ะพ่อหนุ่มเสื้อแดงคือไกด์ของอิชั้นเอง คือมันเป็นน้ำแข็งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติที่สวยงามเหลือเกินค่ะ
ภาพที่ถ่ายมานี้ สวยไม่ได้ครึ่งหนึ่งของตาเนื้อที่ได้เห็นจริงๆเลยนะคะ งดงาม ระยิบระยับ เล่นไฟ อ่อ! ถ้ำที่นี่ไม่มีไฟไปติดไว้ด้านในนะคะ ไกด์จะให้เราเดินถือตะเกียงน้ำมันก๊าดกันเข้าไปเป็นคู่ๆ และมีเพียงแสงไฟจากตะเกียงนำทางเราไปเรื่อยๆค่ะ โคตรรรรรคลาสสิก และเป็นการ trekking ครั้งแรกในทริปนี้ที่อิชั้นประทับใจมากๆเลยค่ะ
ทริปนี้ยังมีเส้นทางธรรมชาติอีกหลายเส้นทางรอเรา 2 คนอยู่ นี่ชักจะตื่นเต้นขึ้นเรื่อยๆแล้ว ฝรั่งผมทองผมดำที่เจอเค้าเดินกันชิลมากเลยค่ะซิส ดังนั้น เราต้องสู้ค่ะเราจะแพ้ไม่ได้ นี่ก็ตัวแทนประเทศ กำส้มโอมือแน่นแล้วค่ะ!! 🤣🤣🤣 เดี๋ยวเราไปกันต่อนะคะ แต่วันนี้ต้องพักก๊อนนนน น่องตึงมากเบยยยค่าาาา 🙈🙈🙈
ปอลิง. มีค่าเข้านาจา จอง online 35 EUR แต่ถ้า onsite 39 EUR ต่อท่านค่า สนใจ search ตามชื่อถ้ำได้เลยนะค้าาาา ❤️
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
