Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
mintfulness
•
ติดตาม
10 ก.ค. 2023 เวลา 13:05 • ท่องเที่ยว
Poomjai Garden ภูมิใจการ์เด้น
เดินไปสูดอากาศบริสุทธิ์ในเมืองกรุง ที่ "ภูมิใจการ์เด้น" สวนลิ้นจี่ร้อย (กว่า) ปี
หากพูดถึงการท่องเที่ยว แต่ละคน คงจะมีแรงขับเคลื่อนหรือแรงบันดาลใจในการไปเที่ยว ณ ที่แห่งหนึ่งต่างกันไป บางคนอาจชอบช่วงเวลาของการได้ออกไปใช้เวลากับคนที่เรารัก บางคนอาจอยากใช้เวลากับตัวเองในสถานที่แปลกใหม่ หรือบางคน อาจจะแค่ชอบโมเมนต์ของการนั่งรถไปเรื่อยๆ และปล่อยให้ความคิดพรั่งพรูออกมาอย่างเป็นอิสระ
สำหรับมิ้น การออกไปเที่ยวคนเดียว และได้ไปอยู่ท่ามกลางสิ่งแวดล้อมกับผู้คนที่แปลกใหม่ ทำให้เราได้สนุกกับการได้เห็นตัวเองปฏิสัมพันธ์กับเรื่องราวใหม่ๆ ที่ไม่สามารถวางแผนไปก่อนได้ บางที เราอาจเครียด เมื่อเจอสถานการณ์ที่รู้สึกไม่ปลอดภัย ไม่คุ้นชิน หรือไม่คาดคิด แต่เมื่อผ่านมาได้ ก็เหมือนกับการอัพเลเวลตัวเอง ขยายพื้นที่ปลอดภัย ขยายความเป็นไปได้ของเราออกไปทีละนิด
ภูมิใจการ์เด้น สวนลิ้นจี่แห่งบางขุนเทียน
วันนี้มิ้นมาทำงานแถวท่าพระ ก็เลยวางแผนว่าจะเดินมาเที่ยวที่ ภูมิใจการ์เด้น เป็นที่แรกเลยละกันนน 🌳 เห็นว่าเป็นพื้นที่สีเขียวในกรุงเทพฯด้วย อยากไปสัมผัสบรรยากาศว่าจะเป็นยังไง..
แผนที่เส้นทางไปยังสวน เส้นสีฟ้า คือ เส้นทางสำหรับมอเตอร์ไซค์ , สีเทา คือ เดินเท้า
ขามา มิ้นปักหมุดจาก BTS วุฒากาศ เพื่อเดินมายัง ภูมิใจการ์เด้น ก็เลยเลือกเส้นทางสำหรับเดินเท้า กูเกิลเแมพเลยแนะนำเส้นทางเดินในซอกซอยมาให้ (จากในภาพ จะเป็นเส้นทางสีเทา) ซึ่งเป็นทางที่เป็นหมู่บ้านชาวบ้าน และซอยเล็กแคบๆ กว้างเพียงแค่มอเตอร์ไซค์วิ่งผ่านได้ทางเดียว และต้องเดินผ่านตึกร้างอย่างใกล้ชิด ตอนจะออกจากซอยของตึกร้างนั้นก็มีรถผ่านมา 2-3 คัน บางคันก็ลังเลเหมือนจะจอดถามว่าเรามาทำอะไรตรงนี้คนเดียว (เดานะ) แต่เราก็ก้มหน้าเดินดุ่มๆ ออกไปโดยไม่สนใจ เพราะตอนนั้นทั้งกลัว ทั้งระแวงไปหมดแล้ว
เมื่อหลุดจากซอยนั้นได้ก็โล่งใจ เพราะปากซอยก็เป็นถนนที่รถสัญจรกันปกติ มีตลาด มีบ้านคน ดีใจที่ได้เห็นคนพลุกพล่านอีกครั้ง แหะๆ
เดินไปไม่ไกลก็ได้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยที่จะไปสวน มิ้นเดินดุ่มดุ่มไปไม่นานก็เจอกับป้าย "ถึงแล้วดีใจด้วย" เย้ เหมือนหลุดออกจากเขาวงกตแล้วมาเจอเส้นชัยเลย ดีใจจริงๆ
ป้ายต้อนรับหน้าสวน ถึงแล้วดีใจด้วย 🎉
เมื่อเดินเข้าไปข้างใน ก็จะต้องเดินผ่านสวนที่มีพืชผัก ต้นไม้เล็กใหญ่ ถูกปลูกเรียงรายกันอยู่โดยรอบทางเดิน ออกซิเจนเน้นๆ รับรู้ได้ถึงความเย็นสดชื่น ลืมความเหนื่อยและความกลัวที่เดินมาประมาณเกือบ 1 ชั่วโมง (นานไปรึป่าวเนี่ย)
โซนร้านอาหาร
เดินเข้ามาไม่ลึกมาก ก็จะพบกับอาคารสองชั้น ที่มีบันไดวน คิดว่าน่าจะเป็นโซนไว้ทานอาหารนะ แต่มิ้นเดินเลี้ยวเข้าไปด้านในอีก เพราะอยากเดินรอบๆ ก่อนตัดสินใจว่าจะทานอะไรดี (อันที่จริงอยากสั่งแค่น้ำน่ะ)
เมื่อเดินเข้าไปด้านในก็จะเป็นโซนทานอาหารอีกจุดนึง ซึ่งส่วนใหญ่ลูกค้าจะมาเป็นครอบครัว และชาวต่างชาติเยอะซะด้วย รู้สึกได้ว่าบรรยากาศอบอุ่น เป็นกันเอง และสงบดีนะ 😌 เริ่มชอบแล้วสิ
โซนร้านคาเฟ่
เดินถัดเข้ามาอีกไม่ไกล เป็นร้านคาเฟ่เล็กๆ ตั้งอยู่ริมน้ำ บริเวณนี้ก็มีที่ให้นั่งเยอะเลย ตรงริมน้ำก็มีนะ น่ามานั่งทำงาน อ่านหนังสือที่นี่เวลาอยากเปลี่ยนบรรยากาศนะ
พื้นที่ให้นั่งบริเวณโซนนี้ มีเพียบเลย มีทั้งนั่งพื้น นั่งเก้าอี้ เยอะมาก
วันที่มิ้นไปที่นี่มาเป็นวันเสาร์ พอเริ่มใกล้ๆ เย็น กลุ่มครอบครัว แก๊งเพื่อน ก็เริ่มทะยอยกันเข้ามา คนเยอะใช้ได้เลยนะเนี่ย โชคดีที่ตอนถ่ายภาพไม่ค่อยติดคน.. (ทำได้ยังไงกัน!?) ที่นี่ถึงจะมีที่นั่ง หรือซุ้มที่เป็นไม้ไผ่เยอะ แต่ก็ดูแข็งแรงปลอดภัยดีเลย ขออภัยที่ไม่ได้ถ่ายโซนแคร่ริมน้ำมา คนนั่งอยู่เยอะมาก เลยเกรงใจที่จะหันกล้องไปถ่ายตรงๆ
ด้านหลังเป็นแคร่ริมน้ำที่พูดถึง
วันนี้ (เสาร์ที่ 8 ก.ค.) เป็นวันที่อากาศร้อนอบอ้าวมาก มิ้นมาถึงก็มานั่งจ่อพัดลมเลย โชคดีที่ไม่ค่อยมีคนมานั่งตรงจุดที่มิ้นนั่ง (เป็นที่นั่งรอบต้นไม้ใหญ่ มีประมาณ 3-4 โต๊ะ) เลยครองพัดลมไว้คนเดียว แต่อันที่จริง จุดนี้ก็มีพัดลมอีกตั้ง 3 ตัวที่อยู่ในบริเวณเดียวกัน พัดลมเยอะมาก ในสวนนี่รู้สึกเย็นกว่าข้างนอกนิดนึงนะ ร่มเงาเยอะด้วย
มิ้นสั่งโกโก้มากินแก้วนึง ราคา 110 บาท กินแก้วเดียวก่อนละกันนะวันนี้ 😋 กินเสร็จก็ปักหลักนั่งอ่านหนังสือตรงนี้สักพักนึง จนโดนแดดไล่ จึงย้ายไปนั่งอ่านต่อที่ซุ้มไม้ไผ่
ผลไม้ในสวน มีทั้งลิ้นจี่ ขนุน ส้มโอ ขนุนเพียบเลยยย
ชอบการได้อยู่ตรงนี้นะ เหมือนมาเที่ยวสวนของญาติ ตั้งแต่เดินเข้ามาก็รู้สึกได้ถึงการต้อนรับอย่างเป็นมิตรจากทั้งผู้คน และต้นไม้ ลมที่พัดไปมาเบาๆ กลิ่นดินหญ้าที่หอมสดชื่นทำให้อยากอยู่ตรงนี้ไปนานๆ เลย
ล้อมรอบไปด้วยความเขียวชะอุ่ม
ห้องน้ำและโซนข้างๆ
มิ้นย้ายมานั่งตรงโซนข้างๆ ห้องน้ำ เนื่องจากตรงนี้ค่อนข้างเงียบในตอนแรกที่มานั่ง แต่พอเริ่มตกเย็น ก็เริ่มมีคนเดินมาถ่ายรูปตรงนี้บ้าง เพราะจุดนี้ก็สวยและคนไม่ค่อยพลุกพล่าน ที่สำคัญคือไม่มีกลิ่นห้องน้ำรบกวนเลย กลิ่นดินและต้นไม้หอมกลบไปหมด จุดนี้เหมาะมากกับการนั่งอ่านหนังสือเงียบๆ คนเดียว หรือนั่งคุยกับตัวเองก็ได้นะ 555 เพราะคนเดินผ่านน้อย นอกจากคนที่มาเข้าห้องน้ำ ก็อาจจะได้ยินเราคุยคนเดียวบ้าง แต่เขาคงไม่คิดอะไรหรอก 🤪
ตรงนี้มีหมวก/โคมหนวดฤาษีให้ถ่ายรูปด้วยนะ มีเยอะด้วย
กะว่าจะมาอ่านหนังสือ แต่ก็อดใจไม่ถ่ายรูปไม่ได้เลย มีแต่มุมสวยๆ แสงก็ดีอีก
รูปคู่กับคุณเอ๋ - เจ้าบ้าน
นั่งอ่านหนังสือไปประมาณชั่วโมงกว่าๆ ก็ได้เวลากลับบ้าน เพราะเริ่มเย็นมากแล้ว ระหว่างกำลังเดินออกจากสวนก็ได้เจอกับคุณเอ๋ เจ้าของภูมิใจการ์เด้น ได้คุยกันนิดหน่อยถึงความเป็นมาของสวน เลยขอเก็บภาพกับเจ้าบ้านสักนิด คุณเอ๋เลยแนะนำ "นี่เป็นบันไดใช้เก็บลิ้นจี่ของจริงเลยนะเนี่ย ขึ้นไปสิ ปีนได้ ขึ้นไปได้เลย" เราก็ลังเล แต่ก็ปีนขึ้นไปสักหน่อย เพิ่งมาเห็นว่า ถึงแม้จะปีนขึ้นไปแล้ว ก็เพิ่งจะสูงเท่ากับคุณเอ๋เลย เป็นภาพที่น่ารักดีนะ 😉
ขอบคุณคุณเอ๋และพี่ๆ ที่ทำให้สวนนี้เกิดขึ้นและมีอยู่ ให้ผู้คนรุ่นเก่าและรุ่นใหม่อย่างมิ้นยังคงได้มาสัมผัสความเป็นสวนบางขุนเทียนดั้งเดิมที่เกือบหายไป เพราะการขยายตัวของเมืองกรุง หวังว่าจะยังมีสวนแบบนี้อีกหลายๆ แห่งในกรุงเทพฯเลยนะ 🌳
เส้นทางการเดินกลับไปยัง BTS วุฒากาศ
ขากลับนี้ เปลี่ยนโหมดในกูเกิลแมพ จากเส้นทางสำหรับเดินเท้า เป็นเส้นทางสำหรับรถมอเตอร์ไซค์ ก็พบว่าทางดูมาง่ายและปลอดภัยกว่าเยอะะะะ ที่สะเทือนจิตไปกว่านั้นคือ..
สะพานที่ใช้ข้ามไปอีกฝั่ง เพื่อไปยัง ภูมิใจการ์เด้น ซึ่งเป็นทางที่ปลอดภัย
ตอนขามา เดินมาถึงสะพานนี้แล้วดันเดินย้อนกลับไปเข้าซอยเล็กแคบๆ ข้างเซเว่น ตามที่กูเกิลแมพบอก ไม่ได้เดินข้ามสะพานนี้ไป เลยเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญของเส้นทางการเดินมาในวันนี้เลย 555 ถ้าเดินข้ามสะพานนี้ไป ก็จะเป็นทางที่รถสัญจรเยอะ เดินบนฟุตบาทก็จะปลอดภัย ระหว่างทางมีวัดเก่าแก่อย่าง วัดบางขุนเทียนกลาง และวัดนางนองด้วย แต่วันนี้มิ้นยังไม่ได้เข้าไป เพราะใส่ชุดไม่เหมาะสมเท่าไหร่ ไว้ครั้งหน้าอาจจะเข้าไปชม ไปนั่งสมาธิรับพลังงานดีๆ สักหน่อย 😇
เซลฟี่มิ้นโตะ
ปิดท้ายด้วยเซลฟี่น่ารักๆ ของมิ้นโตะ สรุปเช็คอินที่นี่ feel-like-home จริงๆ ใครที่ไปมาแล้ว มาแชร์กันหน่อยน้า ว่ารู้สึกเหมือนหรือต่างกันยังไงบ้าง ชอบรึป่าว หรือมีสถานที่ feel-like-home ที่ไหนที่อยากให้มิ้นโตะลองเดินไปดู (ขอใกล้ๆ รถไฟฟ้าหน่อยน้า) ก็แนะนำมาได้เลยค่าา
การเดินทางท่องเที่ยวด้วยสองเท้าของมิ้นโตะครั้งนี้ ทำให้ได้เห็นตัวเองในมุมที่ได้เจอกับความผิดพลาด ไม่รอบคอบของตัวเอง ว่าเราตื่นตระหนกและเกือบถอดใจเรียกวินกลับบ้านไปแล้ว พอถึงที่หมาย เลยดีใจและภูมิใจในตัวเองมากเลย นี่ก็เป็นความสนุกในการท่องเที่ยวที่ทำให้อยากออกเดินทางไปที่ใหม่ๆ ด้วยนะ
แล้วเพื่อนๆ มีแรงบันดาลใจในการเที่ยวเป็นอะไรกันบ้าง มาแชร์กันที่คอมเมนต์ได้เลย!
แล้วพบกันใหม่
Have a nice day kaa 😚💓
ลาออกไปเช็กอิน
บันทึก
4
1
23
4
1
23
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย