จะเกิดอะไรขึ้นหากยูเครนใช้คลัสเตอร์บอมโต้กลับรัสเซีย?
สงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ยืดเยื้อกว่า 500 วัน สร้างความสูญเสียทั้งทรัพย์สิน กำลังพลทหาร และชีวิตของพลเรือนผู้บริสุทธิ์เป็นวงกว้างอย่างประเมินค่าไม่ได้
แม้เวลาจะผ่านไปแล้วกว่า 1 ปี แต่สงครามครั้งนี้ก็ยังไม่มีท่าทีที่จะสิ้นสุดลง
และล่าสุดทางสหรัฐอเมริกาหนึ่งในประเทศผู้สนับสนุนอาวุธยุทโธปกรณ์ให้แก่ยูเครน ( นับเป็นเม็ดเงินจำนวนมหาศาล ) เพื่อต่อต้านการรุกรานจากรัสเซียได้ตอบตกลงในการส่งมอบคลัสเตอร์บอมให้กับยูเครนตามคำร้องขอของปีที่ผ่านมา
ท่ามกลางเสียงคัดค้านจากนานาประเทศ รวมถึงบางประเทศที่เป็นพันธมิตรกับสหรัฐอเมริกาเองก็ออกมาแสดงท่าทีที่ไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจในครั้งนี้
แต่ถึงกระนั้นเสียงจากนานาประเทศก็ไม่สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงในการตัดสินใจของ โจ ไบเดน ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกาได้
หากการส่งมอบคลัสเตอร์บอมให้ยูเครนในครั้งนี้สำเร็จลุล่วง สิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมาคือความเสียหายในชีวิตและทรัพย์สินของทั้งฝ่ายรัสเซียและยูเครนเองเข้าขั้นรุนแรงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
คลัสเตอร์บอมหรือระเบิดลูกปราย บรรจุระเบิดขนาดเล็กไว้ที่ตัวหัวรบด้านในเป็นจำนวนมาก มีพลังทำลายล้างกระจายเป็นวงกว้างแต่ไม่สามารถเจาะจงเป้าหมายอย่างแม่นยำได้ นั่นหมายถึงมันอาจจะพรากชีวิตของพลเรือนผู้บริสุทธิ์ไปด้วยอย่างประมาณการไม่ได้
และเมื่อคลัสเตอร์บอมถูกนำไปใช้งาน ไม่ว่าจะจากการทิ้งลงมาของอากาศยานหรือถูกยิงออกมาจากภาคพื้นดิน เมื่อมันกระจายกลางอากาศและตกลงสู่พื้นดินก็ใช่ว่าลูกระเบิดเล็ก ๆ ทั้งหมดจะทำงานด้วยการระเบิดทันทีทั้งหมดแบบหนึ่งร้อยเปอร์เซ็น
แต่มันกลับมีโอกาสเป็นระเบิดด้าน (ไม่ทำงานทันที) ถึง 40% จากระเบิดลูกเล็ก ๆ ทั้งหมด
นั่นหมายถึงการตกค้างของระเบิดบนภาคพื้นดินที่อาจกินเวลาหลายปี และนั่นอาจก่อให้เกิดความสูญเสียในภายหลังเป็นจำนวนมากต่อพลเรือนของยูเครนเอง ทั้งจากการหยิบ การเหยีบระเบิดที่ตกค้างเหล่านั้น
แม้ระเบิดคลัสเตอร์จะเป็นอาวุธที่โจมตีฝั่งตรงข้ามทางภาคพื้นดินได้ดี แต่ก็มีผลเสียต่อยูเครนไม่น้อย สุดท้ายแล้วเราก็ไม่อาจรู้ได้เลยว่าการตัดสินใจของยูเครนในครั้งนี้จะเป็นสิ่งที่คุ้มค่าหรือไม่ แต่มันอาจจะไม่สำคัญเท่ากับความพยายามในการหยุดยั้งการรุกรานอย่างบ้าคลั่งของกองทัพของรัสเซียในตอนนี้..
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
