12 ก.ค. 2023 เวลา 13:06 • ไลฟ์สไตล์
สหราชอาณาจักร

"ทำวีซ่าที่ไทย ง่ายกว่าทำที่ UK เยอะ!"

วันนี้มีโอกาส จะมาขอเขียนรีวิวกันบ้าง ผมว่าเอาจริงๆไม่ค่อยมีใครมาเขียนอะไรแบบนี้กันสักเท่าไร
เนื่องจากผมเองก็มีแพลนจะอยากไปเที่ยวยุโรป เพราะไหนๆตอนนี้ก็อยู่ UK แล้ว การจะบินไปจากที่นี่ก็ไม่ได้ใช้เวลามาก ก็เป็นโอกาสที่ดีที่จะทำวีซ่าไปท่องเที่ยว มาลองอ่านกันไปทีละข้อเลย
- นัดโคตรยาก
ในปัจจุบัน การทำวีซ่าใน UK ไม่ได้ให้ไปทำที่สถานฑูตแล้ว แต่ต้องทำผ่าน VISA Application centre (มีอยู่แค่ 2 เจ้า แล้วแต่ว่าจะทำวีซ่าไปประเทศไหน), ซึ่งเป็นเรื่องยากมากๆที่จะสามารถจองคิวในการทำวีซ่า ผมไม่รู้ว่าเพราะคนมันเยอะจริงๆ หรือระบบการจัดการคิวกันแน่ แต่สิ่งที่ผมรู้คือ อย่างน้อยๆคุณต้องรอประมาณ 2 เดือน หรือไม่ก็ต้อง Refresh หน้าเว็บบ่อยๆเผื่อบังเอิญจะโชคดีได้คิวเร็วๆบ้างจะได้กดจองคิวได้ กลับกันถ้าเป็นที่เมืองไทย เต็มที่ก็แค่ 1-2 สัปดาห์เท่านั้นเอง
- พนักงานที่ทำงานล่าช้า ระบบการทำงานที่ไม่ชัดเจน และไม่เป็นมิตร
ถ้าเทียบกับที่เมืองไทยแล้ว การทำงานของ VISA Application Centre ที่ไทยคือเซียนกว่ามากๆ หากใครเคยทำวีซ่าที่เมืองไทย ไม่ว่าจะเป็นวีซ่า UK, Schengen EU พวกเขาจะมีระบบการจัดการที่รวดเร็ว ชัดเจน ไม่ต้องนั่งรอนานมาก และยังยินดีตอบคำถามหลายๆอย่างอย่างชัดเจนด้วย
เทียบกับประสบการณ์ที่ผมไปทำวีซ่า ที่ศูนย์แห่งหนึ่งในเมือง Edinburgh แล้ว ก็พบเจอเหตุการณ์เหล่านี้
ผมไปถึงศูนย์ก่อนประมาณ 10 นาที จากเวลานัด พนักงานกลับพูดห้วนๆว่า ไว้มาใหม่ โดยมีท่าทีไม่พอใจ หงุดหงิดที่ทำไมผมต้องมาก่อน (ก็ปกติคนทั่วไปมาก่อนนัด 5-10 นาทีมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลก)
พอถึงเวลา ผมกลับมาใหม่ ได้เข้าไปนั่งรอคิวในศูนย์ ซึ่งก็ไม่ได้มีการจัดระเบียบอะไรมากมาย ไม่มีการบอกว่าใครคิวไหน เหมือนว่าก็แค่ไปนั่งรอในห้องๆหนึ่งเฉยๆ ผมเองก็งงๆว่า แล้วเขาจะเรียกคิวเรายังไง ลองนึกภาพว่ามันเป็นห้องๆหนึ่งที่มี เก้าอี้ และโต๊ะพนักงานธรรมดาๆ แล้วแต่ละโต๊ะก็มีผู้สมัคร กับ เจ้าหน้าที่ นั่งดูเอกสารกันอยู่ แต่ก็ไม่ได้มีอะไรบอกเลยว่าคิวเราคือคิวไหน (ดูรูปประกอบ)
เนื่องจากพอดีผมทำวีซ่าให้ไปลง Switzerland ผมก็นั่งรอไปงงๆ จนกระทั่งมี Staff บอกว่า "Next person, for Switzerland" ซึ่งผมก็ดูๆแล้วไม่มีคนตอบรับ ก็คงต้องเป็นผมนั่นละ ก็เลยไปที่โต๊ะได้
ในส่วนตรวจเอกสารค่อนข้างนาน พนักงานบางคนก็ดูงงๆ ไม่มั่นใจ ต้องถามไปถามมา นอกจากตรงนั้น ยังต้องไปต่อคิวทำ biometric ซึ่งเป็นการเก็บลายนิ้วมือตามปกติ แต่ก็ยังต้องไปนั่งรอคิวต่ออีกที (หากดูรูปก็คือต้องไปรอที่เก้าอี้สีม่วง) โดยรวมกว่าจะเสร็จสิ้นใช้เวลานั่งรอต่อจากเวลานัดมาประมาณชั่วโมงถึงชั่วโมงครึ่ง หากเทียบกับที่ไทย ผมเองก็ไม่เคยรอนานแบบนี้
สรุปแล้วส่วนตัวในมุมมองผม สำหรับใครที่จะมาอยู่ต่างประเทศสักระยะ หรือมาอยู่นาน แล้วอยากไปเที่ยว ก็แนะนำไปทำที่ไทยดีกว่า ไม่ปวดหัวแล้วก็รวดเร็วกว่ากันเยอะครับ
โฆษณา