15 ก.ค. 2023 เวลา 02:11 • ความคิดเห็น
ก้อนหินที่สำคัญที่สุดของบิล คลินตัน
ในห้องทำงานของ บิล คลินตัน ประธานาธิบดีคนที่ 42 ของสหรัฐ ผู้ดำรงตำแหน่งนานถึง 8 ปีในช่วงยุค 90 มีหินก้อนหนึ่งตั้งโชว์อยู่ในกล่องใส รูปร่างหน้าตาภายนอกก็ดูเหมือนหินธรรมดาๆก้อนหนึ่ง แต่บิล คลินตันกลับบอกว่าหินก้อนนี้เป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดในการช่วยเรื่องมุมมองของเขาในช่วงที่เป็นประธานาธิบดีเลยด้วยซ้ำ
หินก้อนนั้นเป็นหินที่นักบินอวกาศทั้งสามที่ไปลงดวงจันทร์เป็นชุดแรกด้วยยานอพอลโล 11 ซึ่งประกอบด้วย นีล อาร์มสตรอง บัซ อัลดริน และไมเคิล คอลลิน เอามามอบให้เป็นของขวัญในปีที่ครบ 30 ปีการไปลงดวงจันทร์ของมนุษยชาติ หินจากดวงจันทร์ก้อนนั้นกลับกลายเป็นสิ่งเตือนใจที่สำคัญมากๆของบิลเวลาที่มีวิกฤต ไม่มีทางออก หรือมีปัญหาทะเลาะกันอย่างรุนแรงกับฝ่ายตรงข้าม
บิล คลินตันให้สัมภาษณ์กับนักวิทยาศาสตร์ชื่อดังอย่างนีล ดีเกรส ไทสัน ไว้ว่าหินก้อนนี้เป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิตการเมืองของเขาในการช่วยปรับมุมมอง ทัศนคติตลอดช่วงเวลาที่อยู่ในทำเนียบขาวนั้น ถึงขนาดว่าในช่วงสองปีสุดท้ายของการเป็น
ประธานาธิบดี บิล คลินตันถึงกับเอามาตั้งไว้บนโต๊ะทำงานใกล้ๆมือเลย บิลบอกว่าเวลามีการประชุมสำคัญที่สองพรรคขั้วตรงข้ามอย่างพรรคเดโมแครตและพรรครีพลับริกันต้องมาตกลงกันแล้วเริ่มทะเลาะกันหนัก ต่างฝ่ายจะเอาชนะคะคาน มีอีโก้ของตัวเองจนไม่มีใครยอมใคร จนภาพใหญ่จะพังไปหมด คลินตันจะขอเบรกบรรยากาศร้อนระอุนั้นแล้วบอกให้ทุกคนหยุดดูหินดวงจันทร์บนโต๊ะก้อนนั้นก่อน
คลินตันจะบอกต่อไปว่า เห็นมั้ยว่าหินก้อนนี้มันมีอายุสามพันกว่าล้านปีแล้ว พวกเราเป็นแค่เป็นผู้ผ่านทางระยะสั้นๆเท่านั้นเอง เราไม่ได้มีเวลาอะไรเยอะเลย ดังนั้นหยุดทะเลาะกันเถอะแล้วมาคิดกันดีกว่าว่าอะไรเป็นสิ่งที่ถูกต้องที่ควรจะทำกันดีกว่า
แล้วคลินตันก็เล่าให้นีลฟังว่าพอให้ทุกคนหยุดคิดแบบนี้แล้วมันก็ใช้ได้ผลทุกครั้ง ทุกคนก็จะจ้องหินก้อนนั้นแล้วพยายามคิดถึงเวลาหลายพันปีซึ่งเอาจริงๆก็จินตนาการกันไม่ค่อยออก แล้วทุกคนก็จะเริ่มผ่อนคลายลง มีความตั้งใจที่จะพยายามหาข้อยุติร่วมกันใหม่ ลองหาทางออกใหม่อีกครั้ง
ผมฟังเรื่องนี้สั้นๆจากพี่ตุ้ม สรกล อดุลยานนท์ แล้วเลยไปลองอ่านหาที่มาที่ไปแล้วมาเล่าสู่กันฟัง เผื่อใครทะเลาะกับใคร โมโหคนที่ทำงาน น้อยใจลูก งอนภรรยา ไม่เข้าใจเพื่อนอยู่ ก่อนจะตัดสินใจอะไรก็อาจจะดับร้อนด้วยการมองก้อนหินซักก้อน ไม่ต้องเป็นหินจากดวงจันทร์ก็ได้ แล้วก็อาจจะทำให้การตัดสินใจนั้นชัดเจนขึ้นหรือบรรเทาความร้อนรุ่มนั้นได้
เพราะหินแถวบ้านเราก็ตั้งอยู่ตรงนั้นตั้งแต่ยังไม่มีมนุษย์เดินผ่านเป็นพันๆปีและก็จะอยู่จนหลังมนุษย์หมดโลกต่อไปอีกเช่นกัน
โฆษณา