16 ก.ค. 2023 เวลา 04:00 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์

The Lord of the Rings: The Two Towers (2002) – เส้นทางที่แตกแขนง

บางครั้งภาคต่อก็มักจะมาพร้อมความคาดหวัง ไม่แม้กระทั่งเรื่องราวที่เล็กจ้อยหรือยิ่งใหญ่เพียงไหน แต่สำหรับมหากาพย์ผู้พิทักษ์แห่งแหวน แห่งดินแดนมัชฌิมโลก ที่ดำเนินงานถ่ายทำพร้อม ๆ กันทั้งสามภาค ก็มาพร้อมกับบทที่สองของการเดินทาง ที่แตกแขนงเรื่องราวออกเป็นสามเส้นเรื่อง และมาพร้อมการต่อสู้ที่เข้มข้นกว่าภาคแรกมากนัก ใน The Lord of the Rings: The Two Towers
The Lord of the Rings: The Two Towers เล่าเรื่องราวสานต่อ จากปฐมบทมหากาพย์อย่าง The Fellowship of the Ring หลังจากที่เหล่าพันธมิตรแห่งแหวนแตกแขนงออกเป็นสามกลุ่มใหญ่ โฟรโด้-แซม ในการเดินทางสู่แดนมอร์ดอร์ และได้เผชิญหน้ากับอดีตเจ้าของแหวนอย่าง กอลลัม, เมอร์รี-พิพพิน ที่ถูกเหล่าอุรุคไฮจับตัวไป และได้เผชิญกับพฤษกบาลอย่าง ทรีเบียร์ด
และ อารากอร์น-เลโกลัส-กิมลี ที่ออกเดินทางตามหา เมอร์รี-พิพพิน แต่กลับนำพาพวกเขาไปหาสู่ศึกการต่อสู้ของดินแดนโรฮาน ทั้งสามเส้นเรื่องที่เหมือนจะไม่เกี่ยวข้องกันนี้ ทำให้เราได้เผชิญกับเรื่องราวที่ช่วยสำรวจกลุ่มตัวละครมนุษย์มากขึ้น
ณ ตอนที่หนังออกฉายครั้งแรก มันถูกเว้นช่วงฉายระหว่างภาคเป็นเวลา 1 ปี (ต่างจากการนำมาฉายใหม่ ที่เว้นฉายแค่อาทิตย์ละภาค) ซึ่งหลังจากได้ชม The Fellowship of the Ring ก่อนนำมาซึ่งบทเดินทางในภาคนี้ มันกลับทำให้เรารู้สึกและรับรู้ ถึงความยาวนานของการเดินทางมากขึ้น เป็นผลมาจากทิ้งช่วงระยะห่างจากการเข้าฉาย แต่กระนั้น หลังจากทำหน้าที่ปูพื้น เรื่องราว และก็โลกของมัชฌิมโลกแล้ว จึงไม่จำเป็นที่ต้องเกริ่นนำอะไรอีก ก่อนนำพาเราไปสู่จุดที่ตัวหนังทิ้งเราไว้จากภาคที่แล้วในทันที
ตัวหนังยังใช้ภาษาอันแข็งแรง ที่สื่อถึงความชั่วร้ายอันสามานย์จากภาคแรกได้อย่างมีประสิทธิภาพ จากการออกแบบอันน่าสะพรึงกลัวของพวกออร์คและก็อบลิน หรืออย่างที่เห็นได้ชัดสุด คือการที่ราชันย์แห่งดินแดนโรฮานอย่าง เธอโอเดน ถูกครอบงำโดยสมุนมือขวาอย่าง กรีมา เวิร์มธังค์ และมันก็สื่อถึงความดีงามได้อย่างชัดแจ้ง ผ่านตัวละครอย่าง พ่อมดขาว แกนดาล์ฟ ผ่านการใช้สีขาวพิสุทธิ์ได้ดีอย่างยิ่งยวด
แต่ขณะที่ภาคแรก คือการแบ่งรับแบ่งสู้จังหวะเล่าเรื่อง ที่พูดถึงการเดินทางอันแสนยาวไกล พลางแนะนำทัศนียภาพและความสัมพันธ์ภายในมัชฌิมโลกไปพร้อม ๆ กัน แต่สิ่งที่ภาคนี้ทำได้อย่างเอกอุ คือการแบ่งสรรปันส่วนจังหวะเรื่องราวจากทั้งสามเส้นเรื่องที่แตกแขนงออกกันไป แต่ล้วนมีหน้าที่และบทบาทสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน โดยเฉพาะในส่วนของเส้นเรื่องการต่อสู้เพื่อดินแดนโรฮาน ที่ต้องรับมือกับกองทัพของซารูแมน
ในขณะที่ตัวหนัง มีจังหวะเล็กน้อยมากมาย ที่พูดถึงการต่อสู้ และเหล่าตัวละครที่ตกอยู่ภายใต้อำนาจและเงามืดอันชั่วร้าย หลักใหญ่ใจความของภาคนี้ คือการต่อสู้ในสมรภูมิเฮล์มดีพ ที่ทหารหาญส่วนมาก คือเหล่าชายหนุ่มและเด็ก ที่ถูกเกณฑ์มาประจัญบาน กับกองทัพซารูแมนอย่างไม่จำใจ มันก็ถูกออกแบบและลำดับออกมาได้อย่างยิ่งใหญ่ อีกทั้งยังสร้างอารมณ์ร่วมได้อย่างดีเยี่ยม และยังทำให้รู้สึกถึงน้ำหนักอันใหญ่หลวง ที่เหล่ามนุษย์เล็กจ้อยต้องต่อสู้ เพื่อชัยชนะที่อาจเป็นไปไม่ได้
กระนั้นเอง มันก็ถ่ายทอดโมงยามอันน่าหวาดหวั่น ผ่านสมรภูมิสงครามได้ดีอย่างยิ่งยวด ผ่านศัตรูที่มากมายนับไม่ถ้วน ผ่านกลยุทธ์การตีเมืองที่จนมุม และปราการที่ถูกตีแตกไปทุกขณะ และพูดถึงการปกปักษ์รักษาผู้คน ผ่านมุมมองและนิยามของราชันย์ที่ดี
แต่กระนั้นเอง อีกสองเส้นเรื่องอย่าง การเดินทางของโฟรโดและแซม มันก็พูดถึงการธำรงค์ไว้ซึ่งความดีที่แสนจะเปราะบาง ในดินแดนที่มนุษย์ถูกความเลวร้ายเข้าครอบงำได้โดยง่าย สะท้อนผ่านตัวละครอย่าง กอลลัม / สมีกอล ที่มีบุคลิกตัวตนซ้อนทับจากตัวตนดั้งเดิมที่ยังคงไว้ซึ่งความดี และตัวตนที่ตกอยู่อยู่ภายใต้อำนาจของแหวน กับเส้นเรื่องของ เมอร์รีและพิพพิน ที่ได้เผชิญหน้ากับผู้คุ้มกันแห่งบรรพกาล ที่ถือครองอำนาจไว้ในมือเสมอมา แต่กลับเพิกเฉยต่อความชั่วร้ายที่กำลังกัดกินมัชฌิมโลก
ในขณะที่ทั้งสองเส้นเรื่องนั้น พูดถึงการต่อสู้เพื่อรักษาความดีไว้ ผ่านการวิพากษ์ซึ่งบุคลิกและอุปนิสัยของตัวละครในเรื่องราวนั้น ๆ แต่สำหรับเส้นเรื่องการพิทักษ์ดินแดนโรฮาน ผ่านสมรภูมิเฮล์มดีพ ซึ่งถือเป็นภาพจำหลักของภาค ก็เป็นส่วนสำคัญ ที่ฉายภาพให้เห็นการลงมือปฏิบัติเพื่อต่อสู้กับชั่วร้าย ผ่านกองทัพซารูแมนอันมากมายมหาศาล และดูยากที่จะเอาชนะจนถึงขั้นเป็นไปไม่ได้ แต่กระนั้นในยามยากลำบาก ความหวังและปาฏิหารย์ อาจเดินทางมาถึงในช่วงเวลาที่ต้องการมากที่สุด
และทั้งหมดของเรื่องราว มันก็ถูกครอบคลุมด้วยโมโนล็อคของแซม ที่พูดถึงคุณค่าของการต่อสู้เพื่อความดีที่ยังคงหลงเหลือ ที่อาจจะหลบเร้นอยู่ในซักซอกหรือมุมใดของดินแดนอันชั่วร้ายนี้
สรุปแล้ว The Lord of the Rings: The Two Towers คือการสานต่อเรื่องราวภารกิจการเดินทางจากปฐมบทมหากาพย์มัชฌิมโลก ผ่านโครงสร้างทางเนื้อหาที่เล่าอย่างทะเยอทะยาน ด้วยการแตกออกเป็นสามเส้นเรื่องหลักได้อย่างเอกอุ แต่ฉายภาพกว้างของการต่อสู้เพื่อรักษาความดีงามในดินแดนมัชฌิมโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ผ่านเส้นเรื่องสมรภูมิเฮล์มดีพ ที่สะท้อนภาพความรุนแรงของสงคราม กับความหวังในการยึดมั่นซึ่งคุณความดีที่เปราะบางในเส้นเรื่องของโฟรโด และเส้นเรื่องของเมอร์รี-พิพพิน ที่วิพากษ์ถึงการเพิกเฉยต่อความชั่วร้าย ที่ไม่อาจจะสร้างความเปลี่ยนแปลง
4.5 / 5
The Lord of the Rings: The Two Towers (2002)
Directed by Peter Jackson
Screenplay by Fran Walsh, Philippa Boyens, Stephen Sinclair and Peter Jackson
Based on "The Two Towers" by J. R. R. Tolkien

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา