Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
วิเคราะห์บอลจริงจัง
ยืนยันแล้ว
•
ติดตาม
16 ก.ค. 2023 เวลา 10:27 • กีฬา
16 ปีที่แล้ว ชาญวิทย์ ผลชีวิน เคยพาทีมชาติไทย "วอล์กเอาต์" ในศึก AFF นัดชิง
สำหรับความรู้สึกของชาติอาเซียนที่มีต่อฟุตบอลไทย ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นความชื่นชมในทักษะความสามารถ เพราะเราเป็นชาติที่ได้แชมป์อาเซียนมากที่สุด นอกจากนั้นยังส่งออกนักเตะไปค้าแข้งในเจลีก อย่างต่อเนื่อง
1
แต่มีอยู่ 2 ครั้ง ที่เราทำให้ชาติในอาเซียนด้วยกันรู้สึกผิดหวัง ครั้งแรก คือศึกไทเกอร์คัพ ในปี 1998 ที่เราแย่งกันแพ้กับอินโดนีเซีย คือแม้ไทยจะไม่ใช่คนเตะเข้าประตูตัวเอง แต่พฤติกรรมไม่อยากชนะของเรา มันก็น่าอับอายเอามากๆ
ส่วนครั้งที่สอง เกิดขึ้นในปี 2007 ในศึก AFF เช่นกัน เมื่อเราตั้งใจทำการ "วอล์กเอาต์" เพราะกรรมการตัดสินไม่ถูกใจ คือเดินออกจากสนามไปเลยไม่ยอมเล่นต่อ ท่ามกลางความงุนงงของคนดูทั้งสนาม และทางโทรทัศน์
ผมเคยเขียนเหตุการณ์แย่งกันยิงในปี 1998 มาแล้วนะครับ คราวนี้อยากย้อนเล่าเหตุการณ์วอล์กเอาต์ในปี 2007 บ้าง
1
ศึก AFF ในปีนั้น เบียร์ไทเกอร์หมดสัญญาพอดี ทำให้ปรับจากชื่อ Tiger Cup ไปใช้ชื่อ AFF Championship และนั่นเป็นครั้งเดียวของรายการชิงแชมป์อาเซียน ที่ไม่มีเมน สปอนเซอร์ เพราะในการแข่งครั้งต่อมา จะได้ Suzuki มาเป็นสปอนเซอร์ ตามด้วย Mitsubishi Electric ในปัจจุบัน
1
เฮดโค้ชของทีมชาติไทยชุดนั้น คือ "โค้ชหรั่ง" ชาญวิทย์ ผลชีวิน โดยตัวผู้เล่นหลักๆ ประกอบด้วย เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง, สรายุทธ์ ชัยคำดี, ดัสกร ทองเหลา, สุรีย์ สุขะ และ พิพัฒน์ ต้นกันยา
2
ณ เวลานั้น ไทยได้แชมป์ AFF มาแล้ว 3 สมัย ส่วนสิงคโปร์ได้ 2 สมัย ดังนั้นฝั่งสิงคโปร์จึงตั้งใจมากๆ ที่จะคว้าแชมป์ให้ได้ เพื่อตีเสมอไทย แล้วเป็นประเทศได้แชมป์มากที่สุดร่วมกัน
ในรอบแบ่งกลุ่ม ไทยคว้าแชมป์กลุ่ม A ไม่มีปัญหา เช่นเดียวกับสิงคโปร์ที่คว้าแชมป์กลุ่ม B
เข้าสู่รอบรองชนะเลิศ ไทยชนะเวียดนาม เข้าชิงได้สำเร็จ ส่วนสิงคโปร์ก็มาตามนัดเอาชนะมาเลเซียได้เหมือนกัน ดังนั้นจึงกลายเป็นนัดชิง Dream Match ไทย vs สิงคโปร์
สิงคโปร์ชุดนั้น ก็ไม่ธรรมดา พวกเขามีตัวหลักๆ ที่เราคุ้นชื่อกันเช่น นอห์ อลัม ชาห์, ฮ้สซัน ซันนี่,ไครูล อัมรี่ และไบฮักกี้ ไคซาน คือฝีเท้ารวมๆ ก็สูสีกับเราไม่ได้ต่างกันมาก พลิกแพ้ชนะกันได้
เกมนัดชิงเลกแรก แข่งที่สิงคโปร์ก่อน ณ สนามกีฬาแห่งชาติที่เกลัง มีแฟนสิงคโปร์เข้ามาเต็มความจุ 50,000 ที่นั่ง
1
ความเสียเปรียบของไทยเกมนั้น คือซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง มีอาการบาดเจ็บที่หัวเข่า และลูกสาวไม่สบายพอดี ตอนแรกเจ้าตัวโหลดกระเป๋าเตรียมบินมาสิงคโปร์แล้ว แต่ตัดสินใจแคนเซิลกะทันหัน ซึ่งเมื่อขาดซิโก้ไป ชาญวิทย์ ผลชีวิน ต้องแก้ปัญหาด้วยการใช้ศรายุทธ กับ พิพัฒน์ เล่นหน้าคู่
1
ไลน์อัพของไทย เป็นดังนี้ คือ
กิตติศักดิ์ ระวังป่า (gk), เจษฎา จิตสวัสดิ์, ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์, นิเวส ศิริวงศ์, สุรีย์ สุขะ, นิรุจน์ สุระเสียง, ดัสกร ทองเหลา, สุเชาว์ นุชนุ่ม, สุธี สุขสมกิจ, ศรายุทธ ชัยคำดี และ พิพัฒน์ ต้นกันยา
การแข่งขันเริ่มต้นขึ้น นอห์ อลัม ชาห์ ยิงให้สิงคโปร์นำก่อน 1-0 นาทีที่ 17 แต่พิพัฒน์ ต้นกันยา ตีเสมอ 1-1 ให้ไทย นาทีที่ 50 เกมกลับมาเจ๊ากันอีกครั้ง
1
ดราม่าของเกมนี้เกิดขึ้นนาทีที่ 82 เมื่อราวีจันดรา กรรมการจากมาเลเซีย แจกจุดโทษให้สิงคโปร์ โดยมองว่านิเวส ศิริวงศ์ ไปทำฟาวล์ใส่นอห์ อลัม ชาห์ กองหน้าสิงคโปร์
ถ้าว่ากันตรงๆ ลูกนี้ก็เป็นจุดโทษที่ซอฟท์ ไม่แจกก็ได้ แต่ในเกมฟุตบอลทุกอย่างอยู่ที่ดุลยพินิจของกรรมการ ยิ่งยุคนั้นไม่มี VAR ยิ่งไม่สามารถทำอะไรได้เลย คุณต้องยอมรับคำตัดสิน แล้วมูฟออนต่อให้เร็วที่สุด
1
แต่ดราม่าก็เกิดขึ้นจากจังหวะนี้เอง เมื่อโค้ชหรั่ง ชาญวิทย์ ผลชีวิน ตัดสินใจสั่งให้นักเตะไทยหยุดเล่น และเรียกทุกคนออกมา เป็นการวอล์กเอาต์เดินออกจากสนาม
1
ตามกฎของ AFF ระบุว่า ถ้าหากทีมไหนวอล์กเอาต์จากการแข่งขันไม่ยอมแข่งต่อ เกิน 15 นาที จะโดนปรับแพ้ 2-0 และไม่ใช่แค่ปรับแพ้ แต่ภาพลักษณ์จะเสียมหาศาล กลางปีนั้นไทยจะเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ ร่วมกับอีกสามชาติในอาเซียน
ไทยมีโอกาสโดน AFC ริบสิทธิ์เป็นเจ้าภาพ พร้อมโดนปรับเงินก้อนใหญ่ เป็นความเสียหายที่ย่อยยับมาก
ณ เวลานั้น บิ๊กหอย ธวัชชัย สัจจกุล ในฐานะผู้จัดการทีม ต้องไปเกลี้ยกล่อม เจรจาอย่างเต็มที่เพื่อให้นักเตะกลับมาแข่งขันอีกครั้ง คือคุณจะไม่พอใจยังไงก็แล้วแต่ แต่จะวอล์กเอาต์ไม่ได้ มันไม่เป็นมืออาชีพ
1
ในการแข่งนัดนั้น ถ่ายทอดสดไปทั่วเอเชียผ่านทาง espn และ star sport ผู้บรรยายภาษาอังกฤษถึงกับมึนงง ว่าทีมชาติไทยทำอะไรกัน ฟุตบอลสมัยนี้ ยังมีวอล์กเอาต์กันอีกหรอ (ภาษาอังกฤษใช้คำว่า Walked off)
ปี 2007 โลกฟุตบอลก็ยุคคริสเตียโน่ โรนัลโด้ กับ ลีโอเนล เมสซี่แล้ว ไม่ได้เป็นสมัยโบราณมาจากไหน แล้วยิ่งเป็นเกมทีมชาติอีก คุณจะวอล์กเอาต์จากการแข่งแบบนี้ไม่ได้เลย
สำหรับนักเตะเมื่อโค้ชสั่งไม่ให้เล่น ก็ต้องเดินออกมา คือพวกบิ๊กหอยต้องเกลี้ยกล่อมกันสุดชีวิตให้นักเตะและโค้ชเข้าใจว่า ต่อให้เราโดนตัดสินไม่เป็นใจ ยังไงก็ต้องเล่นต่อ
1
สุดท้าย 13 นาที 45 วินาที หลังจากวอล์กเอาต์ นักเตะก็ทยอยกลับลงมาในสนาม อีก 15 นาทีจะถึงเส้นตายอยู่แล้ว ถือว่าฉิวเฉียดไปเหมือนกัน
1
นาทีที่ 98 เกมจึงกลับมาเล่นต่อ และสิงคโปร์ยิงจุดโทษผ่านมือกิตติศักดิ์ ระวังป่าเข้าไป ขึ้นนำ 2-1 ก่อนจะจบเลกแรกด้วยสกอร์นี้
1
ในวันนั้น กองเชียร์ของไทยผิดหวังที่แพ้ แต่ผิดหวังมากกว่า ที่โค้ชพานักเตะวอล์กเอาต์ออกไปเลย
2
คือ เฮ้ย โดนยิงแล้วไง เล่นต่อไปไม่ได้หรอ เดี๋ยวเลกสองก็มาเอาคืนที่บ้านเราก็ได้ ทำไมต้องทำตัวไม่มีสปิริตเดินออกจากสนามไปแบบนั้นด้วย ทำเป็นพวกขี้แพ้ชวนตีไปได้
นี่เป็นเรื่องใหญ่ และวันรุ่งขึ้น สรยุทธ สุทัศนะจินดา จัดรายการเรื่องเล่าเช้านี้ทางช่อง 3 ได้มีการสัมภาษณ์โค้ชหรั่งว่าทำแบบนั้นทำไม วอล์กเอาต์ทำไม
โค้ชหรั่งอธิบายว่า "นับตั้งแต่ที่เป็นผู้จัดการทีมมา เคยเจอการเป่าเอนเอียงเข้าข้างเจ้าภาพมาบ่อยครั้ง แต่ไม่มีครั้งไหนน่าเกลียดขนาดนี้ โดยเฉพาะผู้ตัดสินที่จ้องให้จุดโทษกับสิงคโปร์ เมื่อเห็นว่า เจ้าถิ่นทำอะไรไทยไม่ได้ พอเข้าสู่ช่วงท้ายเกมก็เลยเป่าให้จุดโทษ ทั้งที่ในจังหวะดังกล่าว นิเวส ไม่ได้ทำฟาวล์เลย แถมยังเป็นกองหน้าของสิงคโปร์ที่ล้มมาทับกองหลังของเราอีกต่างหาก"
2
"ตอนแรกที่ได้ยินเสียงนกหวีด คิดว่าไทยได้ฟาวล์และไม่พอใจผู้ตัดสินที่ไม่ปล่อยให้ไทยได้เปรียบ แต่กลับเป็นว่าผู้ตัดสินกลับชี้ไปที่จุดโทษ ชนิดที่นักเตะของสิงคโปร์ในสนามยังงงๆ เลยด้วยซ้ำ"
ในรายละเอียดของเกมนั้น เกมนี้กรรมการแจกใบเหลืองให้ไทย 4 คน ให้สิงคโปร์ 3 คน แต่ในมุมของโค้ชหรั่งรับไม่ได้ คิดว่ากรรมการเอียงสุดๆ ให้สิงคโปร์
ขณะที่การวอล์กเอาต์นั้น เขาบอกว่า "ไม่ได้อยากให้ยุติการแข่งขัน เพียงแต่ในเวลานั้นเห็นว่านักเตะไทยกำลังเสียสมาธิ ควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ ถ้าปล่อยให้เล่นต่อไปรับรองว่าต้องโดนยิงเป็น 3-1 หรือ 4-1 ได้ รวมทั้งอาจมีใบแดงด้วย ดังนั้นจึงใช้โอกาสนั้นดึงสมาธิคืนให้นักเตะ พร้อมกับเป็นการประท้วงผู้ตัดสินไปในตัวด้วยว่าไทยไม่เห็นด้วยกับการทำหน้าที่ของผู้ตัดสิน"
1
โค้ชหรั่งบอกว่า ที่วอล์กเอาต์ ไม่ได้ทำเพราะอยากทำ แต่เป็นกลยุทธ์ ที่ช่วยเบรกอารมณ์ของนักเตะ
3
1
คือข้อแรก เราไม่รู้เขาคิดแบบนั้นจริงหรือเปล่า ถ้าพวกบิ๊กหอยไม่ไปเจรจา จะกลับลงมาเล่นไหม และข้อสองคือต่อให้อ้างว่าเป็นกลยุทธ์สงบสติอารมณ์ก็ฟังไม่ขึ้นอยู่ดี
2
ถ้าใช้หลักการนี้ อีกฝ่ายขอหยุดบ้างได้ไหม แล้วบอกว่าขอเวลาเบรกอารมณ์ ผลัดกันเบรกรอบละ 14.59 นาที แล้วเล่นต่อ เบรกกันไปเบรกกันมา ฟุตบอลไม่ต้องเตะกันแล้ว
4
นี่เป็นเรื่องที่ทำให้โค้ชหรั่งเสียเครดิตอย่างมาก ในเวทีฟุตบอลระดับนานาชาติ คือเขาไม่ควรทำแบบนี้ ไม่ต้องอ้างการตัดสินของกรรมการ คุณต้องรู้แต่แรกว่าการวอล์กเอาต์ เรียกนักเตะด้วยภาษากายว่าไม่เล่นแล้วๆ และทำท่าทีไม่เคารพการตัดสิน มันเป็นเรื่องทำไม่ได้ ถ้าไม่พอใจอะไรหลังเกมก็ส่งเรื่องประท้วงกันไปแค่นั้น
วันรุ่งขึ้นหนังสือพิมพ์ต่างประเทศ สับไทยเละ ว่า "เป็นการกระทำที่น่าละอาย" และ "ทีมชาติไทยควรมีสปิริต ไม่วอล์กเอาต์แบบนี้"
เช่นเดียวกับเอเอฟซี ที่ตักเตือนไทยแรงๆ โดยวรวีร์ มะกูดี เลขาฯ สมาคม ณ ตอนนั้นกล่าวว่า "เอเอฟซีไม่มีบทลงโทษใดๆ กับเรา เพียงแต่มีการกล่าวตักเตือนเพราะทางสหพันธ์ไม่อยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีกในอนาคต"
2
ถือว่ายังดี ที่เราไม่โดนแบน ปรับเงิน หรือห้ามเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ แต่ในสายตาของเอเอฟซี ใครก็รู้ว่ามันก็เป็นการกระทำที่ไม่สง่างามนัก
จากเหตุการณ์ครั้งนั้น เป็นบทเรียนสำคัญ ว่าฟุตบอลไทย ต้องเคารพการตัดสินของกรรมการ ต่อให้ไม่ชอบใจ ก็ต้องเล่นต่อ ไม่ใช่ฟึดฟัดออกลูกนักเลง แล้วเดินออกจากสนามไม่ยอมเล่น
คนเป็นโค้ช ก็ควรเป็นแบบอย่างที่ดี ถ้านักเตะกำลังจะโมโห ก็ต้องไปช่วยเหลือ ช่วยอธิบายเหตุผล ให้กำลังใจอะไรกันไป ไม่ใช่ยุยงส่งเสริม ชักชวนให้วอล์กเอาต์ไม่ยอมเล่นฟุตบอลกันแบบนี้
สำหรับบทสรุปใน AFF Championship 2007 ทีมชาติไทยไม่สามารถคว้าแชมป์ได้ เพราะในเลกสองที่กลับมาเล่นที่สนามศุภชลาศัย เราทำได้แค่เสมอสิงคโปร์ 1-1 รวมผลสองนัด ไทยแพ้ 3-2 พลาดแชมป์อย่างน่าเสียดาย
สำหรับในประวัติศาสตร์ ประเทศไทย เราเคยได้แชมป์ AFF ทั้งหมด 7 สมัย โดยโค้ชที่พาทีมได้แชมป์แต่ละคนมีดังนี้
1996 - โค้ชคือ ธวัชชัย สัจจกุล โดยมี ชัชชัย พหลแพทย์เป็นมือขวา
1998 - ปีเตอร์ วิธ
2002 - ปีเตอร์ วิธ
2014 - เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง
2016 - เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง
2020 - มาโน่ โพลกิ้ง
2022 - มาโน่ โพลกิ้ง
สำหรับชาญวิทย์ ผลชีวิน เวลาผู้คนนึกถึงเขาในศึกชิงแชมป์อาเซียน จะไม่ได้นึกถึงโทรฟี่แชมป์ เพราะเขาคว้าแชมป์มาครองไม่สำเร็จ
แต่สิ่งที่ผู้คนคิดถึงเขาอยู่เสมอ คือภาพของเฮดโค้ชทีมชาติที่ไม่เคารพกติกา เจตนาจะวอล์กเอาต์ และสร้างโมเมนต์แห่งความอับอายให้กับวงการฟุตบอลไทย
4
7 บันทึก
68
4
18
7
68
4
18
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย