16 ก.ค. 2023 เวลา 13:52 • ไลฟ์สไตล์

- ของบริจาค 70 ล้านบาท vs กระดาษทิชชู่ 1 ห่อ -

ผมเคยได้ยินคำพูดของนักปราชญ์และผู้รู้ในอดีตที่ว่า คุณค่าที่แท้จริงของสิ่งของใดๆ นั้น ไม่ได้อยู่ที่มูลค่าของสิ่งของเหล่านั้นที่สังคมได้ตีราคาไว้เพียงอย่างเดียว แต่จริงๆ แล้วอยู่ที่ ‘เจตนาหรือวัตถุประสงค์’ ของผู้ให้ ‘ความต้องการหรือความจำเป็นในการใช้’ ของผู้รับ และ ‘กาลเวลาหรือโอกาส’ ในการได้ใช้สิ่งของเหล่านั้น เพื่อใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดและตรงกับความต้องการของทุกฝ่ายอย่างแท้จริง
ยกตัวอย่างเช่น ข้าว 1 กล่องอาจจะดูไม่มีความหมายสำหรับคนที่กินดีอยู่ดี แต่สำหรับผู้ยากไร้ไม่มีแม้ที่อยู่อาศัย การได้ทานข้าว 1 มื้ออย่างเต็มอิ่มย่อมเป็นการต่อพลังชีวิตของเค้าไปไม่น้อย หรือเงินฝากธนาคาร 1 พันบาทอาจจะดูแทบไม่มีความหมายสำหรับท่านที่มีรายได้หลักแสนต่อเดือน แต่สามารถทำให้นักเรียน 1 ชีวิตในต่างจังหวัดสามารถกินอยู่ได้ครบ 1 เดือนเต็มก็เป็นไปได้ หรือเวลาที่เราท้องหิวทุกอย่างดูน่ากินและน่าซื้อไปหมด แต่เวลาท้องอิ่มกลับทำให้เราเพิกเฉยกับสิ่งเหล่านั้นได้...
เมื่อช่วงปลายเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา มีข่าวหนึ่งที่ได้รับความนิยมไม่น้อยในญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นสื่อทางหน้าหนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ หรือ SNS ฯลฯ เกี่ยวกับคุณลุงคนหนึ่งซึ่งอายุ 87 ปีแล้ว ได้ตัดสินใจบริจาคทรัพย์สินส่วนหนึ่งของตัวเองที่เป็นแท่งโลหะ เช่น ทองคำ แพลตตินั่ม โดยได้ทยอยซื้อเก็บไว้ตามคำแนะนำของเพื่อนมานานเกือบ 40 ถึง 50 ปี ประเด็นของเรื่องอยู่ที่ว่าคุณลุงคนนั้นเป็นเพียงแค่คนธรรมดาที่ไม่มีใครรู้จัก...
แต่แล้วในปัจจุบันมูลค่าทรัพย์สินของแท่งโลหะที่ได้ซื้อเก็บสะสมมานั้น (แท่งทองคำ 29 กก. กับแท่งแพลตตินั่ม 1 กก.) สูงขึ้นมาเกือบ 10 เท่า ซึ่งถ้าตีเป็นตัวเลขเงินสดจะอยู่ที่ประมาณ 70 ล้านบาท !!
โดยวัตถุประสงค์หลักในการบริจาคครั้งนี้ ก็เพื่อให้หน่วยงานราชการท้องถิ่น (เมืองมิโน จ. โอซาก้า) ได้จัดหารถพยาบาลฉุกเฉินที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัยยิ่งขึ้น เพื่อให้สามารถปฏิบัติหน้าที่ในการช่วยเหลือ ‘ชีวิตคน’ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมไปถึงการนำไปใช้เพื่อพัฒนาความเป็นอยู่ของเมือง เช่น แหล่งท่องเที่ยว ฯลฯ โดยได้ให้เหตุผลเพิ่มเติมว่า ‘เพื่อเป็นการตอบแทนบุญคุณ’ ให้กับเมืองท้องถิ่นที่ได้ให้โอกาสกับเค้าในการสร้างรายได้จากการเปิดขายร้านอาหารมานานกว่า 30 ปี
โดยคุณลุงผู้บริจาคท่านนั้นได้ให้สัมภาษณ์ว่าเป็นทรัพย์สินที่ได้มาอย่างสุจริตแต่ ‘เกินความจำเป็น’ สำหรับชีวิตของเค้า ดังนั้นควรจะถูกส่งกลับไปยัง ‘สังคม’ และ ‘เพื่อนร่วมโลก’ ที่ได้มีโอกาสใช้ชีวิตร่วมกันในเมืองเล็กๆ แห่งนั้น แน่นอนว่าผู้สื่อข่าวก็ไปสืบค้นมาจนพบว่าคุณลุงท่านนี้เคยบริจาคโดยไม่เปิดเผยนามหลายครั้งให้กับ วัด โรงเรียน รวมแล้วเป็นเงินไม่น้อยกว่าหลายสิบล้านบาท
ที่มา https://news.yahoo.co.jp/articles/68cd6d211151224ef359da8ebbaf1a969c9fd686
ภาพตัดกลับมาที่ห้องน้ำในศูนย์สรรพสินค้าอันทันสมัยย่านชานเมืองในบ้านเรา ในวันนั้นผมจำเป็นต้องรีบใช้บริการเป็นการด่วนเพราะท้องไส้ปั่นป่วนเลยไม่ได้สังเกตอะไรมากนัก รีบนั่งเพื่อทำธุระให้เสร็จโดยเร็ว แต่แล้วพอสังเกตกล่องกระดาษทิชชู่ซึ่งมีพลาสติกสีน้ำตาลเข้มครอบอยู่ทำให้มองข้างในไม่ชัดเจน พอจะดึงกระดาษก็อึ้งไปซักพักเพราะว่าเหลือเพียงแต่ก้าน และก็ต้องนิ่งไปอีกรอบเพราะหันหลังไปก็ไม่เจอ ‘ก๊อกฉีดน้ำ’ ที่มักจะมีอยู่ในห้องน้ำบ้านเราแต่ (ดัน) ไม่ได้ถูกติดตั้งในห้างแห่งนี้...
ทางออกตอนนั้นยังพอมีหลายทาง เช่น โทรไปเรียกพี่ชายที่ไปทานข้าวกลางวันด้วยกัน หรือตะโกนเรียกคนข้างนอก เป็นต้น แต่แล้วก็เผอิญไปเห็น ‘ซองกระดาษทิชชู่ห่อหนึ่ง’ หล่นอยู่ที่มุมขอบพื้น บอกตามตรงผมเองก็ไม่แน่ใจว่าเป็น ‘ของขวัญบังเอิญจากฟ้า’ หรือ ‘มีใครจงใจทิ้งไว้ให้’ ผมไม่รีรอรีบใช้กระดาษทิชชู่ 1 ห่อนั้นให้เป็นประโยชน์มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ แล้วก็รีบย้ายไปยังห้องข้างๆ ซึ่งมีกระดาษม้วนใหญ่เหลืออยู่เพื่อทำธุระให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี
พอทุกอย่างผ่านไปด้วยดี ก่อนออกจากห้องน้ำผมก็เริ่มลังเลและอดเป็นห่วงไม่ได้ว่าถ้ามี ‘ใครบางคน’ ถึงแม้ผมจะไม่รู้จักต้องมาเจอเหตุการณ์ดังกล่าวคงน่าจะลำบากไม่น้อย ผมควรจะเดินออกไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น หรือควรต้องทำอะไรซักอย่างเพื่อเป็นการ ‘ตอบแทนบุญคุณ’...
กระดาษเช็ดมือแผ่นหนาๆ หลายแผ่นเลยถูกดึงออกมาและนำไปวางไว้ในห้องน้ำนั้น ถ้าเห็นว่าใครจะเข้าห้องน้ำนั้นก็คอยกระซิบบอกว่า ‘กระดาษหมดอยู่’ นะครับ สุดท้ายโชคดีที่ออกมาก็พบกับพนักงานทำความสะอาดเลยรีบบอกไปว่า ‘ช่วยกรุณาไปเติมกระดาษชำระเพื่อต่อชีวิตให้กับผู้ใช้บริการด้วยนะครับ’
ประเด็นเรื่องของบริจาค 70 ล้านบาท กับ กระดาษทิชชู 1 ห่อนั้น ดูแล้วไม่น่าจะเกี่ยวข้องกันเท่าไหร่ โดยเฉพาะถ้าเทียบ ‘มูลค่าของ’ แต่จริงๆ แล้วเป็นเรื่องที่สามารถนำมาโยงเกี่ยวข้องกันได้ ถ้าพิจารณาถึงปัจจัยทางด้าน ‘ผู้ให้ ผู้รับ และ กาลเวลา’
ในกรณีของบริจาค 70 ล้านบาท ผู้ให้คือคุณลุงคนหนึ่งซึ่งไม่มีภาระทางเศรษฐกิจแล้ว มองว่าของเหล่านั้นเป็น ‘สิ่งนอกเหนือความจำเป็น’ สำหรับชีวิตเค้า ส่วนผู้รับก็คือ ‘เมืองท้องถิ่น’ และกาลเวลาก็คือ ‘อนาคตอันใกล้’ ซึ่งไม่ได้ระบุได้อย่างชัดเจน เพราะว่าไม่มีใครสามารถให้สัญญาได้อย่างเต็มปากว่าเจ้าหน้าที่ในเมืองท้องถิ่น จะสามารถดำเนินเรื่องเพื่อตอบสนองและบรรลุวัตถุประสงค์ของคุณลุงท่านนั้นได้เมื่อไหร่
โดยต้องเป็นไปตามกฎระเบียบขั้นตอนการปฏิบัติตามราชการมีค่อนข้างเยอะ ทำให้ใน SNS ถึงกับมีแรงเชียร์อย่างอ้อมๆ ว่าเมืองท้องถิ่นนั้นควรเร่งดำเนินการจัดหารถพยาบาลที่ทันสมัยมาให้ทันก่อนที่คุณลุงจะต้อง ‘ลาจากโลกนี้ไป’ ...
ส่วนเรื่องกระดาษทิชชู 1 ซองนั้น ถึงแม้จะไม่ทราบวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของ ‘ผู้ให้’ ว่าทำไปเพราะความตั้งใจหรือโดยบังเอิญ แต่ผลจากการกระทำนั้น สามารถช่วยเหลือและตอบสนองความต้องการของ ‘ผู้รับ’ ณ เวลาขณะนั้น (กาลเวลา) ได้อย่างเหมาะสมถึงแม้จะมูลค่าแค่ทิชชู 1 ซอง... จริงๆ แล้วผมเคยแอบมาคิดเล่นๆ ขำๆ ว่าถ้าตอนนั้นกระดาษทิชชู 1 ซอง ผันกลายมาเป็น ‘เช็คเงินสด’ ซึ่งทำด้วยกระดาษและได้เซ็นลงนามแล้วมูลค่า 70 ล้านบาท ตัวผมจะตอบสนองกับเหตุการณ์เหล่านั้นอย่างไร
โดยความรู้สึกส่วนตัวแล้ว ผมรู้สึกดีใจลึกๆ เป็นอย่างยิ่งว่าเหตุการณ์ทั้ง 2 ที่ได้เกิดขึ้นแล้วจริงนั้น เป็น ‘เรื่องที่ดีและน่าเคารพ’ ซึ่งสามารถช่วยส่งต่อพลังบวกให้กับสังคมและคนรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นคนรุ่นก่อน คนรุ่นใหม่ หรือคน (หุ่นยนต์) ในอนาคต ที่อาจจะไม่เคยได้รู้จักกันมาก่อนก็เป็นไปได้
EP040
Kenko2022
2023/07/16
โฆษณา