สรุปดราม่า นักเรียนไทยอัดคลิปล้อเลียนครูต่างชาติผิวสี
ทำท่าจะตบหัวไปจนถึงชูนิ้วกลางใส่จนครูหน้าเจื่อน
จุดเริ่มต้น
1. เรื่องราวทั้งหมดถูกเผยแพร่ในรูปแบบของคลิปวิดีโอผ่านอินสตาแกรมที่มีชื่อว่า 405art_chinese
2. อินสตาแกรมดังกล่าวเป็นอินสตาแกรมที่ทำขึ้นเพื่อเก็บภาพและคลิปเหตุการณ์ต่าง ๆ ของเด็กเรียนห้อง ม.4/5 ที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง พูดง่าย ๆ ก็คือเป็นอินสตาแกรมที่ทำขึ้นในนามของเด็กนักเรียนห้อง ม.4/5 นั่นเอง
เรื่องราวที่เกิดขึ้น
3. ในประเด็นที่กำลังเป็นดราม่าอยู่ตอนนี้คือมีคลิปหนึ่งในอินสตาแกรมที่เผยให้เห็นว่านักเรียนกลุ่มหนึ่งพยายามกลั่นแกล้งครูชาวต่างชาติขณะที่กำลังยืนเตรียมสอนอยู่หน้าห้อง
4. สิ่งที่นักเรียนคนหนึ่งทำคือ เดินไปด้านหลังครูชาวต่างชาติและกระโดดก่อนที่จะทำท่าทางเหมือนกระโดดตบหัว (แต่ไม่โดนนะ) นอกจากกระโดดตบหัวแล้วนักเรียนคนเดิมก็ยังชูนิ้วกลางให้ครูชาวต่างชาติอีกด้วย
5. ทุกการกระทำถูกถ่ายเก็บไว้ในรูปแบบวิดีโออย่างตั้งใจ และจากนั้นแอดมินก็นำคลิปดังกล่าวมาโพสต์ลงในอินสตาแกรมพร้อมกับใส่แคปชั่นว่า "ไม่อยากเรียนแหละ"
6. จากรีแอ็คชั่นของครูชาวต่างชาติทำให้เชื่อได้ว่าเธอเห็นและรับรู้สิ่งที่นักเรียนคนดังกล่าวทำ แต่เธอก็เลือกที่จะปล่อยผ่านโดยไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ประเด็นดราม่าและคำขอโทษ
7. จากนั้นไม่นานคลิปดังกล่าวก็กลายเป็นไวรัลทันที ชาวเน็ตบางคนโหลดคลิปดังกล่าวมาทวิตลงในทวิตเตอร์พร้อมกับตั้งคำถามว่า "หวังครูคนนี้จะได้รับคำขอโทษนะ"
8. พอคลิปดังกล่าวเริ่มดังและคณะทัวร์เริ่มเข้าไปเยี่ยมเยือนในบัญชีอินสตาแกรมดังกล่าวมากขึ้นเรื่อย ๆ สิ่งที่เกิดขึ้นคือ การออกมาขอโทษของหัวหน้าห้อง
9. หัวหน้าห้องได้ออกมาขอโทษโดยมีเนื้อความโดยสรุปคือ
: ตอนนี้นักเรียนในห้องได้รวมตัวกันไปขอโทษครูชาวต่างชาติแล้ว
: ได้โปรดให้อภัยลูกน้องในห้องของตนที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ด้วย ตอนนี้ทุกคนเครียดมาก พร้อมทั้งทิ้งท้ายว่า เรื่องนี้ถือเป็นความผิดของตนในฐานะหัวหน้าห้อง ขออภัยจริง ๆ
เสียงจากชาวเน็ต
10. หลังจากที่หัวหน้าห้องออกมาทวิตขอโทษไม่นาน อันดับแรกเลยที่ชาวเน็ตทึ่งคือ "หัวหน้าห้องเรียกเพื่อนนักเรียนในห้องว่าลูกน้อง" ซึ่งมันอาจจะไม่แปลกสำหรับบางพื้นที่หรือบางสังคม แต่มันก็แอบตะหงิด ๆ อยู่นิดหน่อย
11. ชาวเน็ตหลายคนแสดงความเห็นในทิศทางเดียวกันคือ ในเมื่อลงคลิปแกล้งได้ก็ควรจะลงคลิปขอโทษได้ด้วยเช่นกัน ไม่ใช่ว่าตอนแกล้งล่ะเล่นใหญ่ แต่พอขอโทษล่ะไปแอบขอโทษกันเงียบ ๆ
12. ชาวเน็ตหลายคนทิ้งท้ายว่า เข้าใจว่าเด็กมันมีความคึกคะนอง แต่ก่อนทำอะไรก็ควรคิดให้รอบคอบและนึกถึงใจเขาใจเราบ้าง ถ้าคิดให้มากกว่านี้สักนิดเหตุการณ์แบบนี้จะไม่เกิดเลย
เรื่องราวก็ประมาณนี้ครับ
ส่วนใครคิดเห็นยังไงก็มาแชร์กันในคอมเมนท์นะ
อ้างอิง
- 11
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
