17 ก.ค. 2023 เวลา 02:57 • หุ้น & เศรษฐกิจ

ปรับมูลค่าทองคำในงบดุล Fed ให้ตรงตามความเป็นจริง

เราอาจจะคุ้นกับการเลิกใช้มาตรฐานทองคำเป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยนมูลค่า (เงินจริงๆ ซึ่งมีจำนวนจำกัดตามทองคำที่มี) จากวันนั้น มาถึงวันนี้ เงินที่เราใช้ทุกวันนี้อยู่ในลักษณะของหนี้สิน (การที่ธนาคารพาณิชย์สร้างเงินขึ้นมาผ่านระบบ Fractional Reserve System ในที่นี้ไม่ใช่การพิมพ์เงินใหม่ แต่ หากเป็นการสำรองเงินฝากลูกค้าที่ฝากเข้าไปไว้ไม่เต็มจำนวน ทำให้สามารถปล่อยกู้เงินที่เหลือออกไปได้
Money creation
พูดอย่างง่ายๆสำหรับกระบวนการ Money Creation คือ เรามีเงิน 1000 เราฝากเข้าแบงค์ แบงค์สำรองไว้ 100 (10%)และ เหลือ 900 ปล่อยกู้ออกไป เงิน 900 นั้นไหลเข้าแบงค์ใหม่ และ สำรอง10% คือ 90 เหลือ 810 ปล่อยกู้ออกไป การทำแบบนี้ซ้ำๆไปเรื่อยๆ ทำให้ปริมาณเงินเริ่มต้น 1000 เป็น 10,000 หรือ 10 เท่า ด้วยเหตุนี้ทำให้ราคาสินค้าและบริการ รวมถึงสินทรัพย์ทางการเงินเพิ่มขึ้น จะเห็นว่า กระบวนการที่เงินเพิ่มเข้าไปในระบบเศรษฐกิจ มาจากการสร้างหนี้สินของผู้กู้ยืม (หากไม่มีการกู้ยืม เงินจะยังคงเป็น 1000เท่าเดิมในระบบ)
Money Creation ไม่ใช่การพิมพ์เงินใหม่ แต่ เป็นการกันสำรองบางส่วนจากเงินฝาก และ ปล่อยกู้ส่วนที่เหลือ ถ้ากัน 100%ของเงินฝาก ปริมาณเงินจะไม่มากไปกว่าเงินฝาก
ทองคำที่ธนาคารกลางถืออยู่คือ8100ตันไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปมากนัก
ระบบเงินตราในทุกวันนี้เปลี่ยนผ่านมา จาก ทองคำซึ่งไม่มีความสะดวกในการแลกทีละมากๆ (ต้องระวังโจร และ ลำบาก หนัก ) มาถึง ธนบัตร ซึ่งถ้าแลกในปริมาณมาก ก็ต้องถือกระเป๋าใบใหญ่ รวมถึงมีต้นทุนในการขนส่งเงิน ความปลอดภัยของเงิน ป้องกันการถูกปล้นรถขนเงิน มาจนถึงระบบที่สะดวกสบายมากสุดคือ ตัวเงินที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ Digital Money ที่ เราจะเห็นแค่ตัวเลขที่วิ่งๆกันอยู่ และ ทำธุรกรรมครั้งละมากๆได้โดยไม่เสี่ยงการถูกปล้น แต่ นั่นก็นำมาถึงความปลอดภัยทางไซเบอร์ และ ข้อมูล ซึ่งเป็นอีกประเด็น
มาเข้าประเด็นงบดุลของธนาคารกลางสหรัฐกัน
1ตันทองคำ=35kออนซ์
มุลค่าทองคำของ Fed ที่ลงราคาทุน (ไม่ได้ปรับเปลี่ยน นับตั้งแต่บันทึกไว้ครั้งแรก ที่ ประมาณ 35$ /oz ) ทองทั้งหมดมี 8100 ตัน ซึ่งคิดเป็น 8100 ตัน x (35,200 ออนซ์ ต่อตัน = 285 ล้านออนซ์ คูณ ราคาทุนคือ 35$ = ประมาณ 10,000 ล้านดอลลาร์ ที่ลงไว้ในราคาทุน และ ไม่เคยเปลี่ยนเลยจากวันนั้นจนวันนี้ (ไม่เคยปรับราคาตามตลาด , Market Value)
เรตการเปลี่ยนทองจำนวนตันเป็นออนซ์
ปรับมูลค่าตามราคาตลาดได้ยอดเพิ่มมาราวๆ560bln(5.6แสนล้านดอลลาร์)
หลังปรับมูลค่าทองคำที่ธนาคารกลางถือ จะได้เงินงอกมาราวๆ 5.6 แสนล้านดอลลาร์จากเดิม หมื่นล้าน ซึ่งทำให้ส่วนทุนของ Fed เองที่มีแค่ 4.2 หมื่น เพิ่มขึ้นมาเป็น 6 แสนล้านดอลลาร์ แม้จะมีหนี้สิน 8.2 ล้านล้าน แต่ ส่วนทุน ตั้ง 6 แสนล้าน ทุกอย่างก็ไมใช่ปัญหา ทำให้หนี้ต่อทุน แค่ 13เท่าเท่านั้น นั้นเป็นเรตธนาคารพาณิชย์ทั่วๆไป ที่ดำเนินการอยู่ ไม่มีอะไรเสี่ยง (จากแต่เดิม หนี้สิน 8.2 ล้านล้าน แต่ ทุน 4หมื่น ทำให้หนี้ต่อทุน 200เท่า ในโลกนี้นอกจากธนาคารกลางไม่มีธุรกิจใดจะดำเนินกิจการด้วยหนี้ต่อทุนแบบนี้ได้
หลังปรับมูลค่าสินทรัพย์แล้วเป็น 8.8ล้านล้าน และ หนี้สิน 8.2ล้านล้าน ทำให้ส่วนทุน Fed เพิ่มมา 6 แสนล้าน จากเดิม 4 หมื่นล้าน เป็นธนาคารพาณิชย์ที่ปลอดภัยๆ แห่งนึง
ปรับมูลค่างบดุลของFedลงตัวเลขจริงๆ(อาจจะคาดเคลื่อนนิดๆแต่ใจความที่สื่อไม่ผิดความหมาย)
หลังปรับมูลค่างบดุลของธนาคารกลางสหรัฐ ให้สะท้อนปัจจุบันแล้ว เราจะเห็นภาพตรงๆว่า ธนาคารกลางไม่มีความเสี่ยงอะไรเลยจากส่วนทุน เพราะ หากเขาขายทองออกไปเพื่อใช้หนี้ทั้งหมด ก็ยังเหลือทุน 6 แสนล้านที่ยังเป็นกำไรของเฟด (แม้จะไม่ถือว่าเป็นกิจการเพื่อกำไรจริงๆก็เถอะ หากคิดในแง่ธุรกิจ ไม่มีทางเจ้งได้) หากเพิ่มเงิน ราคาทองก็จะขึ้นตาม ทำให้อัตราส่วน หนี้ต่อทุน คงที่ 13เท่า แบบนี้ไปเรื่อยๆ และไม่มีทางที่จะพังได้เลย ส่วนด้านหนี้สินของ เฟดมีเครื่องมือในการปรับปริมาณเงินไปมา ที่เราสุดจะคาดคิดผลกระทบได้
อ้างอิง
โฆษณา