17 ก.ค. 2023 เวลา 17:32 • ปรัชญา
เพราะเรามาเพียงจิตดวงเดียว มาอาศัยเรือนกายพ่อแม่ ให้มาเรียนรู้จักโลกมนุษย์ ต้องรับผิดชอบมีภาระต้องดูแลเรือนกายที่พ่อแม่ให้มา หากไม่ดูแล กายนี้ก็จะเกิดความทุกข์ยากใช้เรือนกายนี้ไม่ได้ดังใจ จะต้องใช้กายนี้ไปทำมาหากินด้วยความโลภโกรธหลง มีอารมณ์ต่างๆนานาเกิดขึ้น มีคนชอบ ไม่มีคนชอบ มีคนรู้จัก ไม่รู้จัก ปะปนกันไป ทั้งที่คลุกคลี่ ไม่คลุกคลี มีทั้งคนอิจฉา ติเตียน มีอะไรมากมายก่ายกอง ที่จะกระเทือนเข้าสู่เรือนกาย
สิ่งทั้งหลายล้วนเกิดเป็นการบันทึก สะสางหรือสะสม กรรม ตั้งแต่เกิดจนวันตาย เหมือนบันทึกประจำวัน สะสมอะไรลงไป บันทึกอะไรลงไป ผ่านคำว่าวิญญาณทั้งหก เก็บไว้เป็นหลักฐาน ว่าชีวิตแต่ละวัน ทำอะไรที่จะช่วยเหลือจิตของตน ที่ต้องเดินทางต่อไป .
ไปแต่จิตดวงเดียว เหมือนที่เกิดมา เก็บเกี่ยวตักตวงอะไรไว้ในจิตที่ต้องเดินทาง..เกิดมาเพื่อรู้จักพระคุณที่ทั้งโลกอุปถัมภ์ มีสัตว์หมูเห็ดเป็นไก่ มีผู้ใช้แรงกายปลูกข้าวทำหลายๆสิ่งมาเรากิน เราก็เพียงเสาะแสวงหา สละแรงกายไปแลกเงินทอง เพื่อเอาไปแลกเป็นปัจจัยเรื่องอาหารที่อยู่ยูกยา ให้เรากินเราใช้ ประทังชีวิต ไม่เจ็บป่วยล้มหมอนนอนเสื่อก็เป็นบุญแล้ว
แล้วเมื่อได้มาอาศัยชีวิตนี้ ก็ได้พยายามกระทำในสิ่งที่พระท่านชี้ทางให้ สร้างบุญกุศลบารมี ปฏิบัติธรรม..เพื่อหลีกหนีเวรกรรม .สะสมไปเพื่ิอจะกยุติการเกิด..เกิดไม่ได้นั้นแหละดี ไม่รู้ว่าชาติไหน แต่ก็ขอให้เกิดมามีกายเป็นมนุษย์ครบอาการสามสิบสอง ได้พบร่องรอยขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า จะได้มาสะสม สร้างบุญกุศล ปะติดปะต่อสืบเนื่องกันไป จนไปถึงฝั่งแดนพระนิพพาน .เมื่อยังไปไม่ถึงก็ขอให้ได้สะสมบุญกุศลบารมีไปทุกข์ชาติ ให้มีจิตกตัญญูรู้พระคุณบิดามารดาไปทุกชาติที่ต้องเกิดมา ..แค่นี้ก็พอใจในการเกิดไปชาตืหนึ่ง
โฆษณา