นอนกระท่อมกลางนา สู่ความสงบใจที่ "บ้านนอกฮอกควาย เมืองคอง เชียงดาว"
คุณเคยรู้สึกว่าต้องการหลีกหนีความวุ่นวายของชีวิตในเมืองบ้างไหม?
หากต้องการหาความสบายใจ ห่างไกลจากเสียงอึกทึกคงมองไม่ไกลไปกว่าเชียงดาว อำเภอเล็กๆ ที่อยู่ในจังหวัดเชียงใหม่
พอเอ่ยถึงชื่อ "เชียงดาว" เราจินตนาการเห็นภาพกระท่อมไม้ที่แสนสงบกลางป่าเขาและลำธารที่ไหลเย็น มีวิวดอยหลวงเชียงดาวที่สูงตระหง่าน และในตัวอำเภอเชียงดาวนั้นยังคงมีชุมชนเล็กๆ ที่รอให้เราไปสัมผัสอีกมากมาย
โฮมสเตย์ท่ามกลางทุ่งนาเขียวขจี
วันนี้เรามีโอกาสไปเยือน "เมืองคอง" ชุมชนเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่อีกฟากฝั่งของดอยหลวงเชียงดาว ถ้าพูดถึงที่นี่ล่ะก็เราจินตนาการถึงความสโลว์ไลฟ์ เงียบสงบ โฮมเสตย์น้อยใหญ่กลางทุ่งนาที่เขียวขจีกว้างสุดลูกหูลูกตา ฝูงควายกำลังแทะเล็มหญ้า เสียงกระดิ่ง กรุ๊งกริ๊งๆ และแม่น้ำคองที่ไหลผ่านหล่อเลี้ยงชุมชนให้มีความอุดมสมบูรณ์
ถึงแม้ว่าหมู่บ้านเมืองคองจะอยู่หลังเขา ต้องขับผ่านเส้นทางคดเคี้ยวเลี้ยวลดม แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกใดๆ ที่นี่มีร้านค้าชาวบ้าน ที่พักโฮมสเตย์สำหรับผู้ที่ชอบธรรมชาติให้ได้เลือกพักหลากหลายรูปแบบ เช่น อ้ายด่องโฮมสเตย์ เป็นบ้านไม้ไผ่กลางทุ่งนา, บ้านวังริมคอง ที่พักโฮมสเตย์ที่ด้านหน้าติดน้ำ, วันใหม่ฟาร์มสเตย์ บ้านพักโฮมสเตย์ปกาเกอะญอมีเพียง 2 หลัง อยู่กลางทุ่งนา, เถียงนา ฟาร์มสเตย์ และอีกมากมาย
บ้านนอก ฮอกควาย เมืองคอง
เราเข้าพักที่ "บ้านนอก ฮอกควาย"
🛖 บ้านโดมแคปซูล มีเพียง 2 หลัง ราคา 2,500 บาท (4 ท่าน)
บ้านทรงโดมแคปซูลไม้ไผ่ยกสูง ทอดออกไปเป็นแนวยาวสามารถมองเห็นวิวทุ่งนาที่อยู่เบื้องหน้า
🛖 บ้านชายทุ่ง ราคา 2,000 บาท (4 ท่าน)
เดินเรียบจากบ้านโดมลงมาทางด้านซ้ายจะพบบ้านชายทุ่ง
🛖 บ้านวิวดอย1 บ้านวิวดอย2 ราคา 1,000 บาท (2 ท่าน)
ถัดจากบ้านชายทุ่งไปอีก จะเป็นบ้านวิวดอย1-2 บ้านพักกระทัดรัดสำหรับผู้เข้าพัก 2 คน
🛖 บ้านนาชมวิว ราคา 2,800 บาท (4 ท่าน)
เป็นบ้านไม้ไผ่กลางทุ่งนา 2 ชั้นครึ่ง และห้องใต้หลังคาอีกด้วย มีอ่างอาบน้ำเปิดโอเพ่นวิวทั้งสองชั้น ถ้ามองวิวจากห้องใต้หลังตาจะเห็นบ้านกลางนา
🛖 บ้านกลางนา ราคา 2,000 บาท (4 ท่าน)
เป็นบ้านไม้ชั้นเดียว มีระเบียงที่กว้างขวางให้นอนเล่นเพลินๆ ชมทุ่งนา
🛖 บ้านฮิมคันนา ราคา 1,200 (2 ท่าน)
🛖 บ้านหลองข้าวไชโย ราคา 1,400 บาท (2 ท่าน)
⛩️ บ้านฟูจิคอง ราคา 3,000 (4ท่าน)
เป็นบ้านไม้สไตล์ญี่ปุ่นที่เพิ่งสร้างเสร็จใหม่หมาดๆ เลย จะมองเห็นวิวยอดดอยหลวงสวยงาม คล้ายๆ กับเรามองวิวภูเขาไฟฟูจิ ที่มาของชื่อ Fuji Kong มีเพียงหลังเดียวเท่านั้น
*หมายเหตุ:
ราคาเปลี่ยนแปลงตามซีซั่น แนะนำให้ติดต่อสอบถามกับทางที่พักโดยตรง
บ้านนาชมวิว
ที่พักในค่ำคืนนี้ของเราคือ "บ้านนาชมวิว"
เดินมาไกลพอถึงที่พักก็รู้สึกชุ่มฉ่ำใจมากๆ แบกกระเป๋าเดินไปตามทางไม้ไผ่ทอดยาวนำเราไปสู่ตัวบ้านก็พลางหยุดชื่นชมวิวที่แสนสดชื่นนี้เป็นระยะๆ
บรรยากาศโดยรวมของบ้านพัก หลังนี้มีอ่างอาบน้ำทั้งสองชั้นเลย นอนแช่น้ำอุ่นๆ ชมวิวท้องทุ่งที่เขียวขจีคงผ่อนคลายไม่น้อย หลังนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มาเป็นกลุ่มหรือครอบครัวหรือใครมาเดี่ยวๆ สอบถามพี่ไชโยเจ้าของที่พักได้ ใจดีเป็นกันเองมากๆ สามารถแบ่งให้พักแยกชั้นบนและชั้นล่างได้หรือจะเหมาทั้งหลังก็ได้เพื่อความเป็นส่วนตัว
ยินดีที่ได้รู้จัก
หยิบหมวกสานล้านนาที่แขวนอยู่ใต้บ้านมาใส่ถ่ายรูป เดินเล่น ก็เจอเจ้าถิ่นมาออดอ้อนทักทายสายหางดุ๊กดิ๊กไปมา ตามเราไปทุกที่เลย ยินดีที่ได้รู้จักนะเจ้าหมาน้อย เมืองคอง
ฮอก ก้องกังวาน
ทางเดินไม้ไผ่ที่ทอดยาวนำทางเราเดินไปสู่บ้านพักหลังต่างๆ จะมีกระดิ่งห้อยอยู่ด้านบน เวลาที่เดินก็จะมีเสียงกรุ๊งกริ๊งๆ ทำให้สัมผัสถึงความล้านนาของคนรุ่นหลัง ว่าแต่กระดิ่งที่ว่านี้ ชื่อเรียกจริงๆ ตือ "ฮอก" กระดิ่งที่ทำจากไม้ สร้างเพื่อใช้คล้องคอวัว ควาย แพะ เวลาชาวบ้านปล่อยวัวควายไปกินหญ้า จะได้มีเสียงหาตัวเจอ ภูมิปัญญาชาวบ้านที่น่าคงรักษาไว้ให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้ และนี่คงเป็นที่มาที่ไปของชื่อที่พักที่นี่สินะ "บ้านฮอก คอกควาย"
ฤดูกาลที่แตกต่าง
- ●มาเที่ยวทุ่งนาช่วงไหนดี ?
แต่ละช่วงในหนึ่งปี ก็จะได้บรรยากาศที่แตกต่างกันไป
ส่วนเราไปช่วงปลายเดือนตุลาคม เป็นช่วงที่ต้นข้าวเขียวชอุ่มเต็มที่และเริ่มจะผลิตรวงข้าวออกมาบ้างแล้ว
🌾 มีนาคม-กรกฎาคม
บรรยากาศมีวัวควายตามท้องทุ่ง วิวภูเขา และสามารถเดินเล่นไปที่แม่น้ำแตงได้ ห่างจากที่พักเพียง 250 เมตร (ทุ่งนาจะทดลองลงดอกปอเทียง 3 ไร่)
🌾 กรกฎาคม-สิงหาคม
จะเป็นช่วงดำนา
🌾 กันยายน-ตุลาคม
เป็นช่วงข้าวโตเต็มวัยจะมีสีเขียวเข้มทั่วทั้งทุ่งนา
🌾 ปลายตุลาคม-พฤศจิกายน
เป็นช่วงข้าวสีเหลืองทองสวยงามมากๆ
🌾 ธันวาคม- กุมภาพันธ์
ถึงไม่มีนาข้าวแล้ว แต่ก็ยังมีบรรยากาศหนาว ทะเลหมอกให้สัมผ้ส ทุ่งฟางข้าวและวัวควายที่เต็มท้องทุ่งเสียงกระดิ่ง(ฮอก)กังวาน
ยามเย็นที่แสนสงบใจ
ตกเย็นพระอาทิตย์ลับขอบเขาไปแล้วนั้น อุณหภูมิก็จะค่อยๆ ลดลง ความหนาวเย็นก็จะเข้ามาแทนที่ ยิ่งดึกยิ่งสวยด้วยแสงไฟสีส้มอ่อนๆ ที่ส่องสว่างจากตัวยบ้านไม้ หมอกควันบางๆ จากการก่อฟืนทำไฟประกอบอาหารมื้อเย็นของชาวบ้านก็ส่งกลิ่นหอมฟุ้งลอยมาแต่ไกล ชักหิวขึ้นมาแล้วสิเรา
ชุดปิ่นโตมื้อเย็น
พี่ๆ จากที่พักหิ้วปิ่นโตเหลืองมาส่งถึงบ้านพัก เปิดออกมาวางบนขันโตก กับข้าวเพิ่งทำเสร็จใหม่ๆ ยังอุ่นๆ ร้อนๆ อยู่เลย แต่ละชั้นก็จะมีหมูทอด ไข่เจียว น้ำพริกอ่อง ต้มจืดผักกาด และข้าวสวยร้อนๆ นั่งราบกับพื้นกินมื้อเย็นแบบล้านนาฟังเสียงจิ้งหรีดและกบร้องตามทุ่งนาอิ่มท้อง อิ่มเอมใจมากๆ
ยามค่ำคืน
บรรยากาศยามค่ำคืนที่แสนเงียบสงบ ไม่มีแสงสี แสงดนตรี รถรา มีเพียงเสียงกบธรรมชาติที่หากินตามท้องทุ่งนาค่อยขับกล่อมให้เราหลับสบายชาร์ทพลังพร้อมรับเช้าวันใหม่
เสียงธรรมชาติ วิวท้องทุ่งนา
ยามเช้าตื่นขึ้นมาพร้อมเสียงธรรมชาติ วิวท้องทุ่งนาที่สุดลูกหูลูกตาที่พลิ้วไหวเบาๆ บวกกับแสงแดดยามเช้าที่ทอแสงอ่อนๆ ตื่นมานอนแช่น้ำอุ่นๆ ที่ชั้นสองทำให้เราได้เห็นวิวจากมุมสูงและไม่เคอะเขินจนเกินไป
นั่งชมธรรมชาติห้องใต้หลังคา
ว่ากันว่าอารมณ์ความรู้สึกแรกในยามเช้าที่เราตื่นนอนสำคัญและส่งผลถึงเราตลอดทั้งวันนั้น การที่เราตื่นเช้าตรู่และต้อนรับด้วยกลิ่นหอมสดชื่นของชนบท ความเงียบสงบทำให้เรามีสมาธิ สติอยู่กับปัจจุบันมากยิ่งขึ้น รู้สึกกระปรี้กระเปร่า พร้อมที่จะใช้ชีวิตอย่างเต็มที่
จิบกาแฟสุขใจ
ก่อนที่เราจะไปล่องแพแม่น้ำคอง ก็มานั่งที่ร้านกาแฟของที่พัก บรรยากาศเช้าวันนี้ดีมากๆ แดดไม่ร้อนเปรี้ยงปร้างกลับกันคือลมโบกพัดโชยกระทบหน้าเบาๆ สูดหายใจหอมกลิ่นดิน กลิ่นโคลน กลิ่นธรรมชาติจัง
ล่องแพไม้แม่น้ำคอง
รถกระบะชาวบ้านมารับเราถึงที่พักและมาส่งที่จุดลงแพแม่น้ำคอง โดยมีคุณลุงมือพายคนท้องที่เป็นผู้นำทางล่องแพไม้ไผ่ทางเราชมแม่น้ำคองตลอด 60-90 นาทีนี้ เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่เราอยากแนะนำเมื่อมาเมืองคอง ทางกลุ่มชาวบ้านได้รวมตัวกันจัดกิจกรรมท่องเที่ยวตรงนี้ขึ้นมาเพื่อสร้างอาชีพเสริมให้แก่ชาวบ้านในพื้นที่ให้มีรายได้ ค่าล่องแพ 700บ./1ลำ/4-5คน รวมค่ารับ-ส่ง
ธรรมชาติที่ไม่ต้องปรุงแต่ง
ระหว่างสองฟากฝั่งแม่น้ำคอง ก็จะมีฝูงควายที่ชาวบ้านปล่อยให้มาหากินหญ้าตามธรรมชาติพร้อมเสียงฮอกที่ฟังแล้วร่มรื่นใจสอดคล้องกับเสียงน้ำไหล และเสียงท่อนไม้ไผ่ของคุณลุงที่กระทบผิวน้ำเพื่อบังคับแพให้ไปซ้ายขวาเท่านั้น ความเป็นธรรมชาติที่ไม่ต้องปรุงแต่ง ย้ำเตือนเราถึงความงามที่มีอยู่ในความเรียบง่ายนั้นมีอยู่จริง
เวลาเดินช้าลงเมื่อเราอยู่กับธรรมชาติ
ท่ามกลางทุ่งนา เวลาดูเหมือนจะเดินช้าลง ทำให้เราสามารถเชื่อมต่อกับโลกธรรมชาติรอบตัว ยังมีอีกหลายหลากสถานที่พักผ่อนอันเงียบสงบ ที่ซึ่งคุณจะได้พบกับความรู้สึกกลมกลืนกับธรรมชาติและความสงบทางใจ
หากคุณกำลังโหยหาการหลีกหนีจากความวุ่นวายในชีวิตประจำวัน มุ่งหน้าสู่เชียงดาวและสัมผัสกับความสุขของกระท่อมริมทุ่งนากัน
การจองแนะนำสอบถามราคาอัพเดทกับที่พักอีกทีนะ
Facebook : บ้านนอก ฮอกควาย เมืองคองโฮมสเตย์
Facebook : ฟูจิคองโฮมสเตย์เมืองคอง
เว็บไซด์การจอง : reservation.roomscope.com/1765/th
เบอร์โทร : 085 707 5232
- 122
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
