กลางคืนกลายเป็นวัน 💣🔥🔥🌪️ (ตอนที่ 0️⃣2️⃣)
นักวิทยาศาสตร์โครงการแมนฮัตตันมีปฏิกิริยาอย่างไรต่อการทดสอบระเบิดปรมาณูลูกแรก
ของโลก ▪️▪️
รู้ก่อนดู Oppenheimer (ตอนที่ 0️⃣1️⃣)
👀 🎞️🎞️🎥 (เส้นทางระเบิดปรมาณู)
‼️ในทันใด กลางคืนก็กลายเป็นกลางวัน สว่างไสวมาก ความหนาวเย็นกลายเป็นความอบอุ่น ลูกไฟค่อยๆ เปลี่ยนจากสีขาวเป็นสีเหลืองเป็นสีแดงเมื่อมันมีขนาดใหญ่ขึ้นและพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า‼️‼️
ภาพยนตร์แนวชีวประวัติ ของคริสโตเฟอร์ โนแลนเรื่อง "Oppenheimer"กำลังเข้าฉายในวันที่ 20 กค. ด้านล่างนี้เป็นเนื้อหาที่ คัดมาจากหนังสือที่ภาพยนตร์เรื่องนี้นำมาสร้าง ▪️▪️
American Prometheus: The Triumph and 0Tragedy of J. Robert Oppenheimer" (Knopf, 2005) โดย Kai Bird และ มาร์ติน เจ. เชอร์วิน 📖
🕵️♂️ Richaed Feynman
ยืนอยู่ 32 กม.จากไซต์ Trinity ขณะสวมใส่
แว่นตาดำ เขาคิดว่าจะมองไม่เห็นอะไรผ่านแว่นตาดำ ดังนั้นเขาจึงปีนขึ้นไปบนห้องโดยสารของรถบรรทุกที่หันหน้าไปทาง 'อาลาโมกอร์โด'แทน กระจกบังลมของรถบรรทุกจะปกป้องดวงตาของเขาจาก รังสี อัลตราไวโอเลต ที่เป็นอันตราย และเขาสามารถมองเห็นแสงแฟลชได้ ถึงกระนั้น เขาก็ต้องมุดตัวหลบเลี่ยงเมื่อขอบฟ้าสว่างไสวด้วยแสงวาบขนาดใหญ่ เมื่อเงยหน้าขึ้นมองอีกครั้งก็เห็นดวงไฟสีขาวเปลี่ยนเป็น
สีเหลืองแล้วเป็นสีส้ม “ลูกส้มลูกใหญ่" ตรงกลางที่สว่างมากกลายเป็นลูกสีส้มที่เริ่มสูงและเป็นลูกคลื่นนิด ๆ หน่อย ๆ สีดำรอบขอบ แล้วเริ่มจะเห็นว่าเป็นควันลูกใหญ่ที่มีแสงวาบอยู่ข้างใน ไฟกำลังดับ ความร้อน หนึ่งนาทีครึ่งหลังจากการระเบิด ในที่สุด Feynman ก็ได้ยินเสียงโครมครามตามมาด้วยเสียงฟ้าร้องที่มนุษย์สร้างขึ้น ▪️▪️
🕵️♂️ James Conant
คาดว่าจะมีแสงวาบค่อนข้างเร็ว แต่แสงสีขาวเต็มท้องฟ้าจนชั่วครู่เขาคิดว่า "มีบางอย่างผิดปกติ" และ "โลกทั้งโลกลุกเป็นไฟ"
🕵️♂️ Bob Serber
อยู่ห่างออกไป 32 กม. เช่นกันเขานอนคว่ำหน้าและถือแก้ว แบบที่ช่างเชื่อมใช้ ไว้ที่ตาของเขา "แน่นอน" เขาเขียนในภายหลัง "ในจังหวะที่แขนของผมเมื่อยและผมลดกระจกลงชั่วครู่ ระเบิดก็ดับลง ผมตาบอดสนิทเพราะแสงแฟลช" เมื่อการมองเห็นของเขากลับมาใน 30 วินาทีต่อมา เขาเห็นเสา
สีม่วงสว่างขึ้นสูงถึง 6,000 หรือ 7,000 เมตร "ฉันรู้สึกได้ถึงความร้อนบนใบหน้าของฉันที่อยู่ห่าง
ออกไป 32 กม "
🕵️♂️ Joe Hirschfelder
นักเคมีที่ได้รับมอบหมายให้วัดกัมมันตภาพรังสีที่แผ่ออกมาจากการระเบิด อธิบายช่วงเวลาดังกล่าวในภายหลังว่า "ในทันใด กลางคืนก็กลายเป็นกลางวัน และมันก็สว่างมาก ความหนาวเย็นกลายเป็นความอบอุ่น ลูกไฟค่อยๆ เปลี่ยนจากสีขาว เป็นสีเหลืองถึงแดงเมื่อมันขยายขนาดขึ้นและไต่ขึ้นไปบนท้องฟ้า
หลังจากนั้นราว 5 วินาที ความมืดก็กลับมาแต่ท้องฟ้าและอากาศเต็มไปด้วยแสงสีม่วงราวกับว่าเราถูกล้อมรอบด้วยแสงออโรร่า . . .เรา ยืนอยู่ที่นั่นด้วยความกลัวเมื่อคลื่นระเบิดพัดเอาเศษดินจากดินทะเลทรายและผ่านเราไปในไม่ช้า"
🕵️♂️ Frank Oppenheimer
อยู่ข้างๆ พี่ชายของเขา [Robert] ขณะเกิดการระเบิด แม้ว่าเขาจะนอนอยู่บนพื้น "แสงของแฟลชดวงแรกทะลุผ่านเปลือกตา เมื่อเงยหน้าขึ้นครั้งแรกก็เห็นลูกไฟและจากนั้นเกือบจะในทันที เมฆที่แปลกประหลาดนี้ลอยอยู่ . มันสว่างมากและเป็นสีม่วงเข้ม"
Frank คิดว่า "บางทีมันอาจจะลอยอยู่เหนือบริเวณนั้นและเขมือบเรา" เขาไม่คาดคิดว่าความร้อนจากแฟลชจะรุนแรงถึงเพียงนี้ ในช่วงเวลาสั้นๆ เสียงฟ้าร้องของระเบิดก็สะท้อนกลับไปกลับมาบนภูเขาที่ห่างไกล "แต่ฉันคิดว่าสิ่งที่น่ากลัวที่สุด" คือเมฆสีม่วงสดใสจริงๆ สีดำที่มีฝุ่นกัมมันตภาพรังสีที่แขวนอยู่ตรงนั้น"
🕵️♂️ Oppenheimer
นอนคว่ำหน้าอยู่นอกบังเกอร์ควบคุม อยู่ห่างออกไป 10 กม.ทางใต้ของกราวด์เซ็นเตอร์ เมื่อการนับถอยหลังถึงเครื่องหมายสองนาที เขาพึมพำว่า "ท่านลอร์ด เรื่องพวกนี้ยากเย็นในหัวใจ" นายพลแห่งกองทัพบกเฝ้าดูเขาอย่างใกล้ชิดในขณะที่การนับถอยหลังครั้งสุดท้ายเริ่มต้นขึ้น: Dr.Oppenheimer
ตึงเครียดขึ้นเมื่อวินาทีสุดท้ายเริ่มขึ้น เขาหายใจแทบไม่ออก . . . ในช่วงสองสามวินาทีสุดท้ายเขาจ้องตรงไปข้างหน้าและจากนั้นเมื่อผู้ประกาศตะโกน 'ตอนนี้!' และแสงที่ระเบิดออกมาอย่างมหึมาก็ตามมาหลังจากนั้นไม่นานด้วยเสียงคำราม คำรามลึกของการระเบิด ใบหน้าของเขาผ่อนคลายลงด้วยสีหน้าโล่งใจอย่างมาก" ▪️▪️
เราไม่รู้ว่าอะไรแวบเข้ามาในความคิดของ Oppie ในช่วงเวลาสำคัญนี้ พี่ชายของเขาจำได้ว่า "ฉันคิดว่าเราแค่พูดว่า ‼️ได้ผล‼️
หลังจากนั้น นักฟิสิกส์ Isidor Rabi ได้เห็น Robert จากระยะไกล บางอย่างเกี่ยวกับการเดินของเขา
ท่าทางสบายๆ ของชายผู้กำหนดชะตากรรม
ทำให้ผิวของ Rabi รู้สึกเสียวซ่า: "ฉันจะไม่มีวันลืมการเดินของเขา ฉันจะไม่มีวันลืมวิธีที่เขาก้าวออกจากรถ ▪️▪️
ต่อมาในเช้าวันนั้น เมื่อ William L. Laurence นักข่าวของนิวยอร์กไทมส์ที่ได้รับเลือกให้บันทึกเหตุการณ์ มีรายงานว่า 'Oppenheimer'บรรยายอารมณ์ของเขา บอกกับ 'Laurence' ว่าผลของการระเบิดคือ " น่าสะพรึงกลัว" และ "ไม่ได้น่าหดหู่เลย" หลังจากหยุดครู่หนึ่ง เขากล่าวเสริมว่า "เด็กผู้ชายจำนวนมากที่ยังไม่โตจะเป็นหนี้ชีวิตของพวกเขา"
🕵️♂️ในบุคคลที่มีชื่อเสียงแห่งศตวรรษที่ 20 นักฟิสิกส์ผู้ปราดเปรื่องซึ่งเป็นผู้นำในการสร้างระเบิดปรมาณูให้กับประเทศของเขาในช่วงสงคราม และต่อมาก็พบว่าตัวเองกำลังเผชิญกับผลทางศีลธรรมของ ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ 💣🔥🌪️🌪️
คัดมาจาก American Prometheus: The Triumph and Tragedy of J. Robert Oppenheimer
โดย Kai Bird และ Martin J. Sherwin จัดพิมพ์โดย Atlantic Books (2023)
▪️▪️▪️
0️⃣3️⃣ เมื่อออพเพนไฮเมอร์ 'บิดาแห่งระเบิดปรมาณู'ไม่เป็นที่ต้องการของ สหรัฐฯ ทุกสิ่งที่รู้
เกี่ยวกับชีวประวัติ
- 3
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
