19 ก.ค. 2023 เวลา 04:52 • ท่องเที่ยว

Sunrise @ Punthunk Setumba

Sunrise @ Punthuk Setumba .. ชมพระอาทิตย์ขึ้น และบุโรพุทโธ ในมุมสูง
"...เก็บตะวันที่เคยส่องฟ้า เก็บเอามาเก็บไว้ในใจ
เก็บพลังเก็บแรงแห่งแสงยิ่งใหญ่ รวมกันไว้ให้เป็นหนึ่งเดียว..."
การเก็บดวงตะวันไว้ในดวงใจ นอกจากจะเก็บไว้ในภาพถ่ายแล้ว .. ถือเป็นความทรงจำอันเพริศแพร้วอย่างหนึ่ง ยิ่งดวงอาทิตย์อันงดงามกลมโตของอรุณรุ่งเบิกฟ้า เป็นสิ่งที่วิจิตรงดงาม แถมยังแฝงไว้ด้วยปรัชญาที่ว่า …ทุกอย่างย่อมมีการจากลาและในไม่ช้าก็จะมีการเริ่มต้นใหม่
นักเดินทางแต่ละคนจึงเลือกสถานที่เก็บตะวันไว้ในจิตใจและในความทรงจำที่แตกต่างกันออกไป
Punthuk Setumbu เป็นเนินเขาที่มีความสูงประมาณ 400 เมตร ตั้งอยู่ในภูเขา Menoreh .. ที่นี่เดิมเป็นเคยเป็นไร่นาที่ดูแลโดยคนในท้องถิ่น และต่อมาได้กลายเป็นจุดชมวิวยามพระอาทิตย์ขึ้น
ว่ากันว่า .. ที่นี่ เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ดีที่สุดสำหรับนักล่าแสงแรกของพระอาทิตย์ โดยมียอดของวัดบุโรพุทโธ และภูเขาเมราปีเป็นฉากหน้าที่งดงาม
เราตื่นแต่เช้ามืด .. นั่งรถมุ่งหน้าไปยังจุดหมายโดยตั้งใจไปเก็บแสงแรกของดวงสุริยายามเมื่อโผล่พ้นขอบฟ้า และหวังว่าจะได้ภาพงามๆในมุมสูงของบุโรพุทโธที่ฉาบไล้ด้วยแสงสีทองของพระอาทิตย์
.. บรรยากาศที่มีความชื้นสูง ด้วยเหตุที่มีฝนตกปรอยๆทั้งคืนก่อนหน้า ทำให้เรากังวลว่าเมฆที่หนาอาจจะบดบังดวงอาทิตย์
จากทางเข้าและที่จอดรถ .. เราเดินตามทางเดินคอนกรีตที่ทอดตัวยาวสูงขึ้นไปตามเนินเขาราวๆ 20 นาที .. เหนื่อยนัก ก็ผ่อนพักสักครู่ก่อนจะใช้แรงขาต่อสู้กับแรงโน้มถ่วงของโลก พาตัวขึ้นไปจนถึงจุดชมวิว ซึ่งชาวบ้านสร้างเอาไว้เป็นลานไท้ยกพื้นขนาดใหญ่ที่ล้อมรอบด้วยรั้ว มีศาลา มีเก้าอี้ไม้ไว้นั่งเล่นรอชมพระอาทิตย์ขึ้น
Punthuk Setumbu .. เคยเป็นที่นาของชาวบ้าน แต่หลังจากที่ช่างภาพเก็บภาพพระอาทิตย์ขึ้นที่บุโรพุทโธได้จากสถานที่แห่งนี้ ผู้คนต่างพากันมาเยี่ยมชมสถานที่นี้เพื่อชมพระอาทิตย์ขึ้น
Photo : Tripadvisor
.. คนผ่านทางมากมายที่มีความเห็นตรงกันว่า Bukit Punthuk Setumbu เป็นหนึ่งในจุดที่ดีที่สุดในการชมพระอาทิตย์ขึ้นโดยมีฉากหน้าเป็นภูเขา Merapi Merbabu และวัด Borobudur ที่งดงามในตอนเช้าท่ามกลางทะเลหมอก
บนจุดชมวิว .. เราเจอกับกองทัพขนาดย่อมของนักท่องเที่ยวที่มีความตั้งใจตรงกันกับเรา ที่จะมาเก็บภาพมุมสูงในระยะไกลของมหาสถูปในอ้อมกอดของหมอกยามเช้าที่เบาบาง บรรยากาศเปี่ยมเสน่ห์ ..
ภูมิทัศน์อันงดงามของเช้าที่เราขึ้นเขา .. ภูเขาไฟเมราปี ท่ามกลางกลุ่มหมอกสีขาวที่ค่อนข้างหนาแน่น โดยมีภาพเขียวๆของป่าเบื้องล่างเป็นชั้นๆ มีหมอกอุ่นๆ ลอยอยู่เหนือต้นไม้สีเขียวจัด เหมือนผ้าห่มที่ยกขึ้นเหนือต้นไม้ ในที่สุดหมอกก็เผยให้เห็นภูเขาไฟเมราปีที่อยู่ไม่ไกล .. เป็นฉากที่งดงามมากในสายตา
“บุโรพุทโธ .. อยู่ตรงไหน?” .. ฉันถามไกด์ที่นำทางเราขึ้นมา
“ทางโน้นครับพี่ .. คอยดู อาจจะเห็นช่วงที่แสงส่องลงมา”
.. เราทุกคนเฝ้ารอ ไฮไลท์ ที่เราตั้งตาคอย .. แต่มหาสถูปและโบราณสถานชื่อก้องโลกยังคงซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางหมอกหนา
ไกลออกไปทางด้านซ้ายมือจากจุดที่เรายืนรอ .. โบสถ์ไก่
Photo : Azhai Rosyid / Shutterstock.com
โบสถ์ไก่ หรือ Gereja Ayam ตั้งอยู่ในป่าลึกของประเทศอินโดนีเซีย บริเวณเทือกเขาเกเจลัง ในจังหวัดชวากลาง ที่ตั้งของโบสถ์ที่มีชื่อเสียงอยู่ห่างจากเนินเขาในระยะเดินถึง .. สร้างโดยนายเดเนียล อลัมซจาห์
รูปทรงของโบสถ์นี้ที่มีลักษณะเหมือนกับไก่ตัวขนาดใหญ่ยักษ์ .. นอนอยู่กลางป่าอันกว้างใหญ่ สร้างความสนใจต่อนักท่องเที่ยวและดึงดูดช่างถ่ายภาพมากมายมาเยี่ยมชมสถานที่แห่งนี้ทุก ๆ ปี
โบสถ์ร้างดังกล่าว เคยเป็นสถานที่บำบัดพักพิงของผู้คนมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเด็กผู้พิการ ผู้ติดยาเสพติด หรือแม้กระทั่งคนบ้า จนกระทั่งในปี 2543 เนื่องจากทนรับกับค่าใช้จ่ายไม่ไหว จึงปิดตัวลงและถูกปล่อยให้รกร้าง
เวลาผ่านไป .. พระอาทิตย์ขึ้นเผยให้เห็นความงามของบรรยากาศรอบตัวที่ถูกโอบไล้ แต่งแต้มด้วยแสงสีแดง ส้ม ทอง หลายเฉดสี เป็นริ้วๆ อาบไปทั่วขอบฟ้าด้านตะวันออก
ความเหนื่อยที่เดินขึ้นเขามา ถูกแทนที่ด้วยความปิติ เห็นแสงแรกของพระอาทิตย์ค่อย ๆโผล่จากขอบฟ้าอย่างตระการตา ส่องทะลุเมฆ ขับความมืดให้เป็นความสว่าง .. วินาทีนั้นช่างเป็นภาพงดงามที่สุดในชีวิตครั้งหนึ่ง
.. สัมผัสได้ถึงความงดงาม พลัง และความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ
.. แต่ด้วยความชื้นและหมอกหนา ทำให้ บุโรพุทโธที่เราเฝ้าคอย ไม่อาจเผยโฉมให้เห็น
ที่นี่บริหารจัดการโดยคนในหมู่บ้าน โดยบางคนทำหน้าที่เป็นมัคคุเทศก์ด้วย .. มีจุดชมวิวและถ่ายภาพหลายจุดที่น่าสนใจนอกเหนือจากลานที่ใช้เฝ้ารอภาพของมหาสถูป
เราปลอบใจกันเอง ด้วยการผลัดกันถ่ายรูปตามจุดต่างๆที่ชาวบ้านสร้างเอาไว้ให้
.. ชาวบ้านที่อยู่ในบริเวณนั้น ช่วยเป็นช่างภาพให้ด้วย ดีจริงๆ
โฆษณา