เมื่อ ออพเพนไฮเมอร์ 'บิดาแห่งระเบิดปรมาณู'
ไม่เป็นที่ต้องการของ สหรัฐฯ ทุกสิ่งที่รู้ เกี่ยวกับชีวประวัติ 💣🔥🔥 (ตอนที่ 0️⃣3️⃣ จบ)
กลางคืนกลายเป็นวัน (ตอนที่ 0️⃣2️⃣)
นักวิทยาศาสตร์โครงการแมนฮัตตันมีปฏิกิริยาอย่างไรต่อการทดสอบระเบิดปรมาณูลูกแรก
ด้วยแสงวาบขนาดใหญ่เพียงชั่วพริบตาทั่วทะเลทรายนิวเม็กซิโก เจ. โรเบิร์ต ออพเพนไฮเมอร์
ผู้อำนวยการโครงการแมนฮัตตันเพื่อพัฒนาระเบิดปรมาณูลูกแรกของโลก กลายเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในยุคนั้น ▪️▪️
แสงที่ทะลุทะลวง หรี่ลงจนเผยให้เห็นลูกไฟที่น่าสยดสยองที่เติบโตบนท้องฟ้าเหนือสถานที่ทดสอบในลอสอาลามอสในเดือนกรกฎาคม 1945 เป็นการประกาศรุ่งอรุณของยุคปรมาณู ออพเพน
ไฮเมอร์เป็นนักฟิสิกส์ พหูสูต และผู้วิเศษ นึกถึงคำทักทายกลุ่มเมฆรูปเห็ดด้วยประโยคจากคัมภีร์
'ภควัทคีตา'
‼️บัดนี้ ฉันกลายเป็นความตายผู้ทำลายล้างโลก‼️
16 กรกฎาคม ทีมนักวิทยาศาสตร์และวิศวกรเฝ้าดูการระเบิดปรมาณูที่ประสบความสำเร็จครั้งแรกที่สถานที่ทดสอบ Trinityในเมืองอาลาโมกอร์โด รัฐนิวเม็กซิโก ทีมงานที่มีชื่อว่า"The Manhattan Project"ได้พัฒนาอาวุธอย่างลับๆ ในช่วง สงครามโลกครั้งที่สอง เมื่อถึงเวลาที่พร้อม ฝ่ายสัมพันธมิตรได้ประกาศชัยชนะในยุโรปแล้ว
แต่ยังคงสู้รบกันในญี่ปุ่น
💣🔥 6 สิงหาคม สหรัฐฯ ทิ้งระเบิดที่ เมือง ฮิโรชิมา ประเทศญี่ปุ่นทำลายล้างเมืองร้อยละ 90 และคร่าชีวิตผู้คน 80,000 คน สามวันต่อมา สหรัฐฯ สังหารประชาชน 40,000 คนในนางาซากิด้วยระเบิดอีกลูกหนึ่ง อีกหลายหมื่นคนจะเสียชีวิตจากการได้รับรังสี ญี่ปุ่นยอมจำนนไม่กี่วันหลังจากการทิ้งระเบิดครั้งที่สอง สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง
💣🔥 เมื่อรายละเอียดเกี่ยวกับการทำลายล้างอันน่าสยดสยองไปถึงนักวิทยาศาสตร์ของโครงการแมนฮัตตัน หลายคนเริ่มสงสัยว่าพวกเขาทำอะไรลงไป ในช่วงปลายเดือนตุลาคม 'ออพเพนไฮเมอร์' ได้ไปเยี่ยมประธานาธิบดีแฮร์รี เอส. ทรูแมนซึ่งตกลงกับการใช้ระเบิดทั้งสองลูก เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับการควบคุมระหว่างประเทศเกี่ยวกับอาวุธนิวเคลียร์
ทัศนคติของ 'ออพเพนไฮเมอร์' ดูเหมือนจะเปลี่ยนไป เขาอธิบายว่าอาวุธนิวเคลียร์เป็นเครื่องมือ "ของความก้าวร้าว ความประหลาดใจ และความหวาดกลัว" และอุตสาหกรรมอาวุธว่าเป็น "งานของปีศาจ"
ทรูแมนกังวลเกี่ยวกับโอกาสของการพัฒนานิวเคลียร์ของสหภาพโซเวียต
เมื่อ 'ออพเพนไฮเมอร์' กล่าวว่าเขารู้สึกถูกบังคับให้ทำเพราะเขามีเลือดอยู่ในมือ ทรูแมนบอก
นักวิทยาศาสตร์ด้วยความโกรธว่า
‼️เลือดอยู่ในมือของฉัน ▪️▪️
ให้ฉันกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ ‼️‼️
จากนั้น ปธน.ก็ไล่เขาออกจากห้องทำงาน รูปไข่ พอล แฮม ผู้เขียนหนังสือเรื่อง Hiroshima Nagasaki: The Real Story of the Atomic Bombings and their Aftermath
'แฮม'ไม่เชื่อว่าออพเพนไฮเมอร์รู้สึกสำนึกผิดเป็นพิเศษสำหรับการทิ้งระเบิดในญี่ปุ่น นักวิทยาศาสตร์อาจมองว่าเป็นความชั่วร้ายที่จำเป็น แต่เขาคิดว่า
ออพเพนไฮเมอร์กังวลเกี่ยวกับความหายนะที่อาจเกิดจากสงครามนิวเคลียร์ในอนาคตมากกว่า
💣🔥 การแลกเปลี่ยน การสนทนากับ ทรูแมน
เป็นเสียงสะท้อนที่จับใจของสิ่งที่อธิบายไว้ใน
'ภควัทคีตา' คัมภีร์ของศาสนาฮินดูที่มีบทสนทนาระหว่างเจ้าชายนักรบอรชุนกับพระกฤษณะ ผู้ขับรถม้าของ 'อรชุน' ถือเป็นคัมภีร์ที่สำคัญที่สุดบทหนึ่งในศาสนาฮินดู และคำสอนของคัมภีร์นี้ถูกนำไปใช้กับหัวข้อต่างๆ มากมาย รวมทั้งจิตวิญญาณ ปรัชญา และจิตวิทยา
ระหว่างเจ้าชาย 'อรชุน' และเทพเจ้า 'กฤษณะ' 'อรชุน' ปฏิเสธที่จะต่อสู้เพราะเชื่อว่า
จะต้องรับผิดชอบต่อการสังหารพรรคพวกอันเป็นที่รัก แต่พระกฤษณะรับภาระนี้ไว้:
"จงมองดูฉันผู้สังหารคนเหล่านี้
อย่างแข็งขัน....พวกมันถูกฉันฆ่าไปแล้ว"
▪️ ความสำคัญของหน้าที่
อรชุนต้องเผชิญกับทางเลือกที่ยากลำบาก:
การต่อสู้ในสงครามที่จะส่งผลให้เพื่อนและครอบครัวผู้คนที่รักเสียชีวิตจำนวนมาก กฤษณะแนะนำให้อรชุนทำหน้าที่ของเขาแม้ว่าจะเป็นเรื่องยากเพราะเป็นสิ่งที่ถูกต้องที่ต้องทำ คำสอนนี้เน้นความสำคัญของการดำเนินชีวิตตามธรรมหรือหน้าที่
▪️อำนาจแห่งกรรม
พระกฤษณะอธิบายกับอรชุนว่ากฎแห่งกรรมควบคุมจักรวาล กฎนี้ระบุว่าการกระทำทุกอย่างมีปฏิกิริยา และการกระทำของเราในชีวิตนี้จะส่งผลต่อชีวิตของเราในอนาคต คำสอนนี้เน้นความสำคัญของการดำเนินชีวิตด้วยกรรมดีหรือการกระทำ
คุณงามความดี
💣🔥 หลังสงคราม ออพเพนไฮเมอร์ดำเนินการเพื่อป้องกันอนาคตดังกล่าว เขาเริ่มทำงานกับ US Atomic Energy Commission เพื่อควบคุมการใช้อาวุธนิวเคลียร์ ในปี 1949 เมื่อทรูแมนติดต่อคณะกรรมาธิการเกี่ยวกับการสร้างระเบิดไฮโดรเจน
'ออพเพนไฮเมอร์' ก็คัดค้าน
แม้จะมีการต่อต้าน แต่สหรัฐฯ ก็พัฒนาระเบิด H
และทดสอบในปี 1952
แต่การต่อต้านของ 'ออพเพนไฮเมอร์ ทำให้ต้องสูญเสียงานและรายได้ ในช่วงยุคของ 'แมคคาร์ธี' รัฐบาลปลดเขาออกจากงานกับคณะกรรมาธิการ โดยอ้างว่า'ออพเพนไฮเมอร์'ต่อต้านระเบิดไฮโดรเจนรวมถึงความสัมพันธ์ แบบคอมมิวนิสต์
💣🔥 ความพยายามเหล่านี้ส่งผลให้ออพเพน
ไฮเมอร์ ถูกสอบสวนโดยรัฐบาลสหรัฐฯ ในปี 1954
และถูกปลดออกจากการกวาดล้างด้านความมั่นคง นับเป็นการยุติการมีส่วนร่วมกับงานด้านนโยบาย ชุมชนวิชาการเข้ามาปกป้อง 'ออพเพนไฮเมอร์' "การสอบสวนทำให้ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขาได้ทำผิดพลาด หนึ่งในนั้นจากมุมมองด้านความปลอดภัยค่อนข้างร้ายแรง" แต่ก็ไม่มีหลักฐานของความจงรักภักดีหรืออะไรก็ตามที่สามารถทำได้ ถูกมองว่าเป็นกบฏ. นักวิทยาศาสตร์ตกอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคาย
ไม่ออกที่น่าเศร้า ▪️▪️
💣🔥 การถูกขึ้นบัญชีดำของ 'ออพเพนไฮเมอร์ เกี่ยวข้องกับจุดยืนที่มีต่อ H-bomb มากกว่าเพื่อนที่เป็นคอมมิวนิสต์ของเขา ถึงกระนั้น มันก็สร้างเรื่องอื้อฉาวตามมาจนกระทั่งเขาเสียชีวิตในปี 1967 หลายทศวรรษหลังจากนั้น ผู้คนยังคงคาดเดาว่า
เจ. โรเบิร์ต เป็นสายลับโซเวียตหรือไม่
ชีวประวัติ 🤵▪️▪️
เจ. โรเบิร์ต ออพเพนไฮเมอร์
ออพเพนไฮเมอร์ เกิดในนิวยอร์กซิตี้ในปี 1934 เป็นลูกของผู้อพยพชาวยิวชาวเยอรมันรุ่นแรกที่ร่ำรวยจากการค้าสิ่งทอ บ้านของครอบครัวนี้เป็นอพาร์ตเมนต์ขนาดใหญ่ทางฝั่งตะวันตกตอนบน มีสาวใช้สามคน คนขับรถ และงานศิลปะยุโรปบนผนัง
🤵▪️ แม้จะมีการอบรมเลี้ยงดูที่หรูหรา ออพเพนไฮเมอร์ก็จำได้ว่าเป็นเพื่อนสมัยเด็กที่ยังคงบริสุทธิ์และใจกว้าง Jane Didishheim เพื่อนในโรงเรียนจำได้ว่าเขาเป็นคนที่ "หน้าแดงง่ายเป็นพิเศษ" ซึ่ง "อ่อนแอมาก แก้มอมชมพูมาก ขี้อายมาก..." แต่ก็ "สดใสมาก" เช่นกัน “ทุกคนยอมรับอย่างรวดเร็วว่าเขาแตกต่างจากคนอื่นๆ และเหนือกว่าคนอื่นๆ” เธอกล่าว
🤵▪️ เมื่ออายุเก้าขวบ เขาอ่านปรัชญาในภาษากรีกและละติน และหมกมุ่นอยู่กับแร่วิทยา ท่องไปทั่ว
เซ็นทรัลพาร์คและเขียนจดหมายถึง New York Mineralogical Club เกี่ยวกับสิ่งที่ค้นพบ จดหมายของเขามีพลังมากจนสโมสรเข้าใจผิดว่าเขาเป็นผู้ใหญ่และเชิญให้มานำเสนอ
ลักษณะทางปัญญานี้มีส่วนทำให้เกิดความสันโดษในตัวออพเพนไฮเมอร์วัยเยาว์ มักจะหมกมุ่นอยู่กับสิ่งที่เขากำลังทำหรือคิดอยู่” เพื่อนคนหนึ่งเล่า
'ออพเพนไฮเมอร์'ไม่สนใจที่จะปฏิบัติตามความคาดหวังทางเพศ - ไม่สนใจกีฬา มักถูกล้อเลียนและเยาะเย้ยเพราะไม่เหมือนคนอื่น แต่พ่อแม่ของ 'Oppie' เชื่อมั่นในความเป็นอัจฉริยะ
🤵▪️ ในช่วงต้นทศวรรษที่ 1930 ในขณะที่พัฒนาอาชีพทางวิชาการให้แข็งแกร่งขึ้น ออพเพนไฮเมอร์ยังคงให้ความสำคัญกับมนุษยศาสตร์ ในช่วงเวลานี้เองที่เขาได้ค้นพบคัมภีร์ของศาสนาฮินดู เรียนภาษาสันสกฤตเพื่ออ่าน 'ภควัทคีตา' ที่ไม่ได้ แปล
เป็นเรื่องราวที่มีศูนย์กลางอยู่ที่สงครามระหว่าง
สองวงศ์กษัตริย์ วรรณะสูงทำให้ออพเพนไฮเมอร์
มีรากฐานทางปรัชญา
🤵▪️ สำหรับแรงจูงใจของ 'ออพเพนไฮเมอร์'
นั้นค่อนข้างชัดเจน เมื่อเป็นชายหนุ่ม ได้ศึกษา
ควอนตัมฟิสิกส์ในประเทศเยอรมนีภายใต้การนำของแม็กซ์ บอร์น ขณะอยู่ที่นั่น เขาเข้าร่วมการบรรยายของ [แวร์เนอร์] ไฮเซนเบิร์ก นักทฤษฎี ทฤษฎีความไม่แน่นอนของกลศาสตร์ควอนตัมชาวเยอรมันที่มี ชื่อเสียง
'เจ. โรเบิร์ต' รู้ว่า 'ไฮเซนเบิร์ก' และนักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมันคนอื่นๆ มีความสามารถพอๆ กับที่เขาเข้าใจฟิสิกส์ของระเบิดปรมาณูและ มีศักยภาพในการเป็นอาวุธทำลายล้างสูง และเกรงว่าภายในปี 1942 ชาวเยอรมันอาจใช้เวลา 18 เดือนข้างหน้าในการแข่งขันเพื่อสร้างอาวุธนี้
ในทางการเมือง 'ออพเพนไฮเมอร์' เป็นคนฝ่ายซ้าย กลัวลัทธิฟาสซิสต์และกลัวว่านักวิทยาศาสตร์
ชาวเยอรมันจะมอบอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูงนี้ให้กับฮิตเลอร์ ซึ่งจะใช้มันเพื่อเอาชนะสงคราม
นั่นคือฝันร้ายที่สุดของเขา ▪️▪️
🤵▪️ ก่อนการพิจารณาคดีในปี 1954 ออพเพน
ไฮเมอร์ ไปเยี่ยมไอน์สไตน์เพื่ออธิบายว่าเขากำลังจะไปวอชิงตัน จะไม่อยู่ในสถาบันเพื่อการศึกษาขั้นสูงที่พรินซ์ตัน หลายสัปดาห์
ไอน์สไตน์ก็หันมาหาเขาและพูดทำนองว่า
คุณไม่จำเป็นต้องยอมจำนนต่อการสืบสวนและการพิจารณาคดีอันทรหดของคณะกรรมาธิการพลังงานปรมาณู สามารถเดินออกไปได้
ถ้าพวกเขาไม่ต้องการคุณและคำแนะนำของคุณ
อีกต่อไป คุณคือมิสเตอร์อะตอม ก็ออกไปซะ"
ออพเพนไฮเมอร์ตอบกลับว่า ▪️▪️
"โอ้ คุณไม่เข้าใจหรอก อัลเบิร์ต ฉันต้องใช้สถานะของฉัน เพื่อโน้มน้าวผู้กำหนดนโยบายของวอชิงตันและให้คำแนะนำแก่พวกเขา พวกเขาไม่เข้าใจเทคโนโลยีนี้ และฉันต้องใช้คนของฉัน
หลังจากที่ออพเพนไฮเมอร์ออกจากห้องไป
ไอน์สไตน์ก็หันไปหาเลขาของเขาและพูดว่า ▪️▪️
"นั่นสินะ"
และใช่ เขาโง่เขลา ไร้เดียงสาในทางการเมือง ไม่รู้ว่ากำลังจะเดินเข้าไปหาอะไร การไต่สวนคดีความมั่นคงในวอชิงตัน สร้างศัตรูทางการเมืองที่มีอำนาจจริงๆ ในวอชิงตัน และเขากำลังจะถูกทำลาย ▪️▪️
🤵▪️ ตลอดช่วงทศวรรษสุดท้ายของชีวิตของออพเพนไฮเมอร์ ยังคงแสดงความภาคภูมิใจในความสำเร็จทางเทคนิคของระเบิดและความรู้สึกผิดต่อผลกระทบของมัน บันทึกการลาออกยังรวมอยู่ในคำอธิบาย โดย 'ออพเพนไฮเมอร์' พูดมากกว่าหนึ่งครั้งว่าระเบิดเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ใช้เวลา 20 ปีที่ผ่านมาในชีวิตในฐานะผู้อำนวยการสถาบันเพื่อการศึกษาขั้นสูงในพรินซ์ตัน รัฐนิวเจอร์ซีย์ โดยทำงานร่วมกับไอน์สไตน์และนักฟิสิกส์คนอื่นๆ
🤵⚗️🧪 'ออพเพนไฮเมอร์ ได้รับการจดจำในฐานะนักวิทยาศาสตร์ที่ถูกข่มเหงเพราะพยายามแก้ไขปัญหาทางศีลธรรมของการสร้างสรรค์ แม้จะมีการเรียกร้องอย่างใกล้ชิดแต่ไม่มีประเทศใดใช้ระเบิดนิวเคลียร์เป็นอาวุธตั้งแต่ฮิโรชิมาและนางาซากิ หมายความว่าจนถึงตอนนี้ โลกสามารถหลีกเลี่ยงอนาคตนิวเคลียร์ที่ Oppenheimer กังวลว่าเขา
จะมีส่วนร่วม 💣🔥🔥🔥
217/2023
(รวมบทความ นานา สารพันเรื่องนิวเคลียร์ 🔹)
- 9
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
