ถ้ำนาคี จ.นครพนม | เส้นทางอัศจรรย์ ที่ไม่ได้มีแค่หัวนาคี…
แรกเริ่มเดิมทีเราคิดว่าความตื่นตาตื่นใจเดียวของเส้นทางศึกษาธรรมชาติเส้นนี้ คงจะหนีไม่พ้นหินนาคีอันโด่งดัง
แต่หลังจากใช้เวลาร่วม 3 ชั่วโมง บนระยะทาง 2 กิโลเมตร เราก็เข้าใจว่าที่นี่มีอะไรให้ตกหลุมรักมากกว่านั้น
ทั้งดอกไม้ชนิดใหม่ของโลก น้ำตกที่สวยจนไม่อาจละสายตา ไปจนถึงบรรยากาศระหว่างทาง ที่รายล้อมไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ จนให้ความรู้สึกเหมือนกำลังเดินอยู่กลางป่าดิบสักผืนนึงในนิยายเพชรพระอุมา
ใช่แล้วครับ...ผมกำลังพูดถึง "ถ้ำนาคี" แห่งภูลังกา จ.นครพนม
ถ้ำนาคี อุทยานแห่งชาติภูลังกา จ.นครพนม
ภารกิจพิชิตถ้ำนาคีครั้งนี้ เป็นการเดินทางต่อเนื่องจาก 'หินสามวาฬ' ที่ผมเขียนไว้ในบทความก่อนหน้า
โดยหลังจากบอกลาวาฬพ่อแม่ลูกตอนประมาณ 11 โมงเช้า ช่วงบ่ายวันเดียวกัน เราก็มุ่งหน้าไปหาถ้ำนาคีในจังหวัดนครพนม ซึ่งมีแผนการคร่าวๆ ดังนี้ครับ
11:00 - กลับจากหินสามวาฬถึงที่พัก อาบน้ำ และเช็คเอาท์
12:00 - กินมื้อเที่ยงบริเวณภูสิงห์ จ.บึงกาฬ จากนั้นก็มุ่งหน้าไปอุทยานแห่งชาติภูลังกา ซึ่งอยู่ใน จ.นครพนม
14:00 - ถึงอุทยานแห่งชาติภูลังกา และเริ่มเดินเข้าไปในเส้นทางศึกษาธรรมชาติถ้ำนาคี
17:00 - จบภารกิจพิชิตถ้ำนาคี
แหละนั่นคือแผนคร่าวๆ ครับ ทีนี้เรามาออกเดินทางไปพร้อมๆ เลยดีกว่า.....
เดินทางจากภูสิงห์สู่ภูลังกา
ระหว่างทางมีป้ายบอกเรื่อยๆ ไม่ต้องกลัวหลง
หลังจากใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงนิดๆ เราก็มาถึงลานจอดรถเอกชนแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ติดกับอุทยานแห่งชาติภูลังกา จ.นครพนม
มีคนเฝ้ารถให้ตั้งสามคนแบบนี้...ผมก็สบายใจ 😂
พอจอดรถเสร็จก็เดินไปติดต่อเจ้าหน้าที่ตรงป้อมทางเข้า เพื่อจัดการเรื่องไกด์ และค่าใช้จ่ายต่างๆ โดยมีรายละเอียดตามนี้ครับ
- ค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานฯ 20 บาทต่อคน
- ค่าจอดรถ 20 บาทต่อคัน
- ค่าไกด์นำทาง ไม่ได้กำหนดไว้ ให้ตามความพึงพอใจของนักท่องเที่ยว
บริเวณป้อมทางเข้าอุทยานฯ
และนี่คือ 'พี่มล 'ไกด์ผู้น่ารักของเรา
หลังจากจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย พี่มลก็พาเราเดินเข้าไปในอุทยานแห่งชาติภูลังกา โดยพิกัดแรกที่แวะ คือน้ำตกตาดโพธิ์ ชั้นที่ 1 ซึ่งสวยใช้ได้เลย
นี่คือทางเข้าอุทยานแห่งชาติภูลังกา
ส่วนนี่คือตาดโพธิ์ชั้นที่ 1
ใช้เวลาที่ตาดโพธิ์ชั้นแรกพักใหญ่ๆ ก็ได้เวลาเดินเข้าป่า โดยระยะทางทั้งหมดจะอยู่ที่ประมาณ 2 กิโลเมตรเท่านั้นครับ
และแม้เส้นทางจะถูกทำไว้อย่างดี แต่บรรยากาศระหว่างทางก็ยังคงเต็มไปด้วยความดงดิบ ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังเดินในป่าลึก
สองข้างทางรายล้อมด้วยความเป็นดงดิบ
ที่ยิ่งไปกว่านั้นคือตลอดทางมีอะไรดีๆ ให้ดูอยู่เรื่อยๆ เลยนะ
ไม่ว่าจะเป็นน้ำตก 'ผาสวรรค์' ดอกไม้ชนิดใหม่ของโลก 'เสี้ยวภูลังกา'
และสะตอยักษ์ (นามสมมติ เพราะจำชื่อจริงๆ ไม่ได้ 🤣)
น้ำตกผาสวรรค์
ดอกเสี้ยวภูลังกา
สะตอยักษ์ (นามสมมติ)
และเมื่อเดินลึกเข้าไปอีกระยะนึง เราก็ได้เจอกับสิ่งที่ผมชอบมากที่สุดในทริปนี้ครับ... 'น้ำตกตาดโพธิ์ชั้นที่ 4'
บอกตามตรง ผมไม่รู้ว่าเราเดินผ่านชั้นที่ 2 และ 3 ไปตอนไหน แต่ที่รู้คือชั้นที่ 4 สวยจนไม่อยากจะละสายตา
อลังการ
ชอบมาก เป็นจุดที่เราใช้เวลาถ่ายรูปนานที่สุด
ถัดจากตาดโพธิ์ชั้น 4 ไปไม่ไกล ไฮไลท์ของเส้นทางนี้ก็ปรากฏตัว...หัวนาคี
โดยที่นี่จะมีทั้งหมด 9 หัวนะครับ แต่ผมถ่ายมาไม่ครบ อาจจะเพราะบางจุดสภาพแสงไม่ค่อยอำนวยนัก แอบเสียดายและเคืองตัวเองอยู่เหมือนกัน
แต่ไหนๆ ก็ไปมาแล้ว ก็ขอเอารูปเท่าที่มีมาแบ่งปันซะหน่อย จะได้ไม่เสียเที่ยว และต่อไปนี้ คือหัวนาคีที่ผมถ่ายมาได้ครับ
นี่คือหัวนาคีแรกที่เจอ...ทรงพลังมาก
เป็นหัวนาคีที่ผมชอบมากที่สุดเลยนะ เพราะให้ความรู้สึกเหมือนเทวรูปโบราณ
ส่วนตรงนี้เป็นหัวนาคีอีกหนึ่งหัวที่ชวนให้จินตนาการสุดๆ
ถ้าผมเข้าใจไม่ผิด ตรงนี้ก็ถูกนับเป็นอีกหนึ่งหัวครับ
ส่วนตรงนี้ถือเป็นหัวนาทีที่ฮิตสุดๆ
และนอกเหนือจากหัวนาคีแล้ว อีกสิ่งที่ผมมองว่าเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นมากๆ ของเส้นทางนี้ คือบรรยากาศระหว่างทาง
ตลอดเวลาที่อยู่ในนั้น เราจะสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของความเป็นดงดิบจากแมกไม้ที่ปกคลุมอยู่รอบด้าน ผสมกับรูปลักษณ์และพื้นผิวอันแสนแปลกตาของก้อนหินน้อยใหญ่ ก็ยิ่งทำให้รู้สึกเหมือนเราเดินในป่าสักผืนนึงของนิยายเพชรพระอุมา
ระหว่างทางมีทั้งป่าและถ้ำให้สัมผัส
พื้นผิวประหลาดตาของก้อนหินในถ้ำนาคี
มีจุดชมวิวบนเขาด้วยนะ วิวสวยใช้ได้
หลังจากใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงบนเส้นทางศึกษาธรรมชาติถ้ำนาคี เราก็เดินมาถึงปลายทาง (ซึ่งบรรจบกับจุดเริ่มต้น) เป็นอันจบภารกินเดินป่าระยะสั้น ที่เปลี่ยนมุมมองของเราต่อสถานที่แห่งนี้ไปตลอดกาล
จากเคยคิดว่าที่นี่คงมีแต่หัวนาคี กลายเป็นพิกัดที่มีความงดงามและความอัศจรรย์ใจซ่อนอยู่มากมาย ชนิดที่เชื่อเหลือเกินว่าใครมาก็ต้องหลงรัก
โดยเฉพาะคนที่ชอบธรรมชาติและการเดินป่า...
มีโอกาสห้ามพลาดเลยนะครับ ผมยืนยันว่าดีงาม
ก่อนแยกย้าย ขอฝากข้อมูลเล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับถ้ำนาคีไว้สักหน่อยครับ เผื่อว่าจะมีประโยชน์กับคนที่สนใจ
1.ถ้ำนาคี อยู่ในอุทยานแห่งชาติภูลังกา
2.ซึ่งอุทยานแห่งชาติภูลังกากินพื้นที่สองจังหวัด คือบึงกาฬและนครพนม
3.ถ้ำนาคี อยู่ในเขตจังหวัดนครพนม
4.สามารถมาเที่ยวได้ทั้งเช้าและบ่าย
5.สำหรับฤดูกาลที่เหมาะสม ผมคิดว่าหน้าฝนจะดีที่สุดครับ เพราะบรรยากาศมันได้ และน้ำตกก็จะมีน้ำด้วย
11.จะเข้าไปต้องมีไกด์นำทาง แต่ไม่ต้องจองล่วงหน้า เราสามารถไปติดต่อหน้างานได้เลย
12.ส่วนค่าใช้จ่ายสำหรับการพิชิตถ้ำนาคี มีดังนี้ครับ
-ค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานฯ 20 บาทต่อคน
-ค่าจอดรถ 20 บาทต่อคัน
-ค่าไกด์นำทาง ไม่ได้กำหนดไว้ ให้ตามความพึงพอใจของนักท่องเที่ยว
เรื่องราวจากถ้ำนาคีจบแล้วครับ ขอบคุณที่อ่านมาจนบรรทัดสุดท้าย แล้วเจอกันใหม่ในบทความเล่าเรื่องราวการเดินทางบทต่อๆ ไปนะครับ
ด้วยรักและสวัสดี
หมาก.
ให้การเดินทางของผม
เป็นหนังสือเล่มโปรดของคุณ
The Walker
- 5
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
