“โลหะ-เหมืองแร่” 2 ขุมทรัพย์สำคัญของสินค้าบริการทั่วโลก
รู้หรือไม่! เบื้องหลังความสำเร็จของ สินค้าและบริการ ที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ ล้วนแต่มี “แร่และโลหะ” เป็นองค์ประกอบสำคัญที่ใช้ในการผลิต ไม่ว่าจะเป็น
- ✓ภาชนะใส่อาหาร ที่ใช้แร่จากดีบุกผสมตะกั่ว
- ✓ชิ้นส่วนรถยนต์ ที่ใช้แร่จากสังกะสี
- ✓แก้ว กระจก และเซรามิก ที่ใช้แร่จากเฟลด์สปาร์
- ✓แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า ที่ใช้แร่จากลิเทียมไอออน
นอกจากนี้ ยังมี เซมิคอนดักเตอร์ ที่เป็นชิ้นส่วนสำคัญของอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ก็มีแร่สำคัญที่หายาก ที่ถูกใช้อยู่ในกระบวนการผลิตนี้ด้วย ซึ่งส่วนใหญ่เรามักจะพบชิ้นส่วนนี้ในสินค้าจากบริษัทยักษ์ใหญ่ อย่าง Apple, Google, Qualcomm และ Nvidia เป็นต้น
นี่เป็นเพียงตัวอย่างสินค้าที่มี โลหะและแร่ เป็นองค์ประกอบสำคัญในการผลิตเท่านั้น ยังไม่นับรวมถึงบริการที่เราใช้กันอยู่บ่อยครั้ง อย่างเช่น เครื่องบิน ที่ต้องใช้แร่และโลหะเหล่านี้เข้ามาร่วมในการผลิตอีกด้วย
เมื่อ “แร่และโลหะ” คือวัตถุดิบสำคัญที่ใช้ในการผลิตสินค้าและบริการ
นั่นจึงทำให้ธุรกิจที่มีความเกี่ยวข้องกับการทำเหมืองแร่ ไม่ว่าจะเป็นการสำรวจ สกัด หรือขุดเจาะ ก็ต่างได้รับผลประโยชน์ตามไปด้วย
ความน่าสนใจของธุรกิจแร่และโลหะ ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะธุรกิจกลุ่มนี้ยังมีอำนาจในการปรับราคาให้เพิ่มสูงขึ้นได้ ตามสถานการณ์เงินเฟ้อ
สังเกตได้จาก ข้อมูลการเติบโตของตลาดแร่ทั่วโลก จาก The Business Research Company ณ เดือนกรกฎาคม ปี พ.ศ. 2565 และเดือนมกราคม ปี พ.ศ. 2566 รายงานว่า ตลาดแร่โลหะทั่วโลก เติบโตจาก 417.68 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี พ.ศ. 2564 เป็น 483.29 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี พ.ศ. 2565 ซึ่งเมื่อนำมาคิดเป็นอัตราการเติบโตต่อปีจะอยู่ที่ 15.7%
และนอกจากนี้ จากแหล่งข้อมูลเดียวกันนั้น ยังมีการคาดการณ์เอาไว้ว่า ในปี พ.ศ. 2566 ตลาดแร่โลหะทั่วโลก จะเติบโตที่ 535.73 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และในปี พ.ศ. 2570 จะเติบโตอยู่ที่ 808.18 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ อีกด้วย
ทีนี้เมื่อลองมาคำนวณตัวเลขการเติบโตของปี พ.ศ. 2564 ถึงปี พ.ศ. 2570 จะพบว่า หากปี พ.ศ. 2570 ตลาดแร่โลหะทั่วโลกสามารถเติบโตได้ตามที่คาดการณ์ไว้ ตัวเลขอัตราการเติบโตจะสูงถึง 93.5% ภายในระยะเวลาเพียง 6 ปี
ทั้งหมดนี้ น่าจะทำให้ทุกคนเห็นแล้วว่าธุรกิจแร่และโลหะนี้ มีความสำคัญและมีโอกาสเติบโตมากแค่ไหนในอนาคต
เราในฐานะผู้บริโภคคนหนึ่ง นึกไม่ออกเลยว่า ถ้าหากวันนี้ เราไม่มี หรือขาดแร่และโลหะเหล่านี้ไป โลกธุรกิจของเราจะเป็นอย่างไรบ้าง และจะเปลี่ยนไปมากน้อยแค่ไหน
หรือจะมีสินค้าอะไรที่มาอำนวยความสะดวกให้เราได้อย่างดีเหมือนทุกวันนี้หรือไม่
หากวันนี้คุณเริ่มมองเห็นถึงโอกาสของธุรกิจแร่และโลหะ และอยากที่จะลงทุนให้เติบโตไปพร้อมกับธุรกิจเหล่านี้ ก็สามารถเลือกลงทุนได้ผ่านกองทุนรวม KT-MINING
กองทุนรวมนี้มีนโยบายเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน Allianz Global Metals and Mining (กองทุนรวมหลัก) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของ NAV
โดยกองทุนหลักนี้จะลงทุนทั่วโลกในหุ้นที่ออกโดยบริษัทซึ่งมียอดขายและกําไรจากการสํารวจ การสกัด หรือการแปรรูปทรัพยากรธรรมชาติ ในที่นี้หมายถึง โลหะที่ไม่มีองค์ประกอบของเหล็ก (เช่น นิกเกิล ทองแดง อะลูมิเนียม) และแร่อื่น ๆ เหล็กกล้า ถ่านหิน โลหะมีค่า (เช่น ทอง แพลทินัม) เพชร เกลือและแร่ อุตสาหกรรม (เช่น กํามะถัน)
[กองทุนนี้ มีความเสี่ยงอยู่ที่ระดับ 7]
ผู้สนใจ สามารถอ่านรายละเอียดกองทุนเพิ่มเติม ได้ที่
KT-MINING : http://bitly.ws/La6J
หรือขอรับหนังสือชี้ชวนที่
ธนาคารกรุงไทย ผู้สนับสนุนการขาย หรือ
บลจ.กรุงไทย โทร. 02 686 6100 กด 9
ลงทุนออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชัน KTAM Smart Trade ง่าย สะดวก ปลอดภัย
ดาวน์โหลด :
iOS : https://bit.ly/KTAMST
Android : https://bit.ly/KTST_Android
คำเตือน :
ปัจจัยความเสี่ยงที่สำคัญ : ความเสี่ยงทางตลาด (Market Risk) / ความเสี่ยงจากการดำเนินงานของผู้ออกตราสาร (Business Risk) / ความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยน (Currency Risk) / ความเสี่ยงของประเทศที่ลงทุน (Country Risk) เป็นต้น
กองทุนนี้มีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ทั้งนี้ กองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน ในกรณีที่กองทุนไม่ได้มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ผู้ลงทุนอาจจะขาดทุน หรืออาจจะได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้
ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน
References :
- 12
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
